เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 35 ประชดประชัน
บทที่ 35 ประชดประชัน
ซ่งเชียนหย่าผู้ถูกลูกสาวปิดประตูใส่หน้าทั้งเสียใจทั้งโกรธเกรี้ยว
เมื่อสามีกับลูกชายกลับมาบ้าน เธอจึงไปบ่นให้พวกเขาสองคนฟัง
ฉู่เหิงปลอบโยนสองประโยค ก็ขึ้นห้องนอนไปแล้ว
ส่วนฉู่เหว่ยฮ่าวมีความคิดเหมือนภรรยา
ฉู่ลั่วไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสอนแบบผู้ดี คำพูดและการกระทำย่อมเทียบกับฉู่หร่านไม่ได้
การให้เธอเรียนรู้จากฉู่หร่านมาก ๆ เป็นความคิดที่ดี
เช้าวันต่อมา ทั้งครอบครัวนั่งทานอาหารเช้าที่โต๊ะทานข้าว
ลูกชายคนรองกับลูกชายคนที่สามไม่อยู่บ้านเหมือนเคย
ฉู่หร่านก็ออกไปที่กองถ่ายเพื่อถ่ายละครแล้ว
เหลือสมาชิกในครอบครัวสี่คนนั่งทานอาหารเช้าด้วยกัน
ซ่งเชียนหย่าส่งสัญญาณให้สามีเปิดประเด็น
ฉู่เหว่ยฮ่าวกระแอมหนึ่งที เพื่อเตรียมจะพูด แต่คนรับใช้เข้ามารายงานเสียก่อนว่า ฉิงจื่อฉิงกับซ่งจือหนานมาหา
ฉู่เหว่ยฮ่าวชะงักงัน “…”
ช่วงนี้ตระกูลซ่งมาที่ตระกูลฉู่บ่อยเกินไปหรือเปล่า?
ซ่งเชียนหย่านึกถึงเรื่องเมื่อวานที่ตัวเองโทรไปหาซ่งอวิ๋นชิง จึงสรุปเองว่าสองแม่ลูกต้องมาขอโทษเธอแน่นอน
หญิงสาวดึงแขนเสื้อฉู่เหว่ยฮ่าว กระซิบกระซาบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ฟังสองสามประโยค
เขากุมหน้าผากแล้วถอนหายใจ
ก่อนมองไปที่ลูกสาวแท้ ๆ อย่างฉู่ลั่ว แล้วแอบส่ายหน้า
ความคิดของบิดายังเหมือนเดิม เพราะไม่ได้เลี้ยงมากับตัว ความรู้และมารยาทจึงสู้ฉู่หร่านไม่ได้
เขาหวังให้ลูกสาวของตนเองมีความเป็นผู้ดี ไม่ใช่ไร้มารยาทจนไปล่วงเกินคนอื่นแบบฉู่ลั่ว
ฉู่ลั่วเห็นสีหน้าพ่อก็รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
แต่เธอไม่ได้ตอบโต้…
ฉู่เหว่ยฮ่าวกับภรรยาเข้าไปต้อนรับฉิงจื่อฉิงกับลูกชาย
ซ่งเชียนหย่าเห็นสีหน้าไม่ค่อยดีของซ่งจือหนาน จึงเดาว่าเขาต้องถูกสั่งสอนหลังกลับไปถึงบ้าน
ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย!
ไม่เคารพผู้อาวุโส ก็ต้องได้รับการสั่งสอนเสียบ้าง
“จื่อฉิง! มาทำอะไรแต่เช้าเหรอ?” ซ่งเชียนหย่าเดินเข้าไปจับแขนคุณนายบ้านตระกูลซ่ง “พวกเด็ก ๆ ไม่รู้ประสีประสา พวกเราเป็นผู้ใหญ่ไม่ติดใจเอาความอะไรพวกเขาอยู่แล้ว”
“เธอไม่ต้องมาขอโทษกันแต่เช้าก็ได้!”
“จะว่าไป ลั่วลั่วของเราก็มีความผิดเหมือนกัน”
ยิ่งพูดซ่งเชียนหย่าก็ยิ่งโมโห
เด็กทั้งสองตระกูลต่างผิดด้วยกันทั้งคู่ อย่าคิดจะโทษใครเลย!
ฉู่เหว่ยฮ่าวพยักหน้าอยู่ข้าง ๆ
ใครจะรู้ว่าฉิงจื่อฉิงที่ตอนแรกดูอารมณ์ดี พอได้ยินเช่นนี้สีหน้าก็เปลี่ยน เธอดึงมือของตนกลับไป และพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า
“เชียนหย่า! เธอพูดแบบนี้ไม่ถูกนะ!”
ฉู่เหว่ยฮ่าวนิ่งอึ้ง “…”
ซ่งเชียนหย่าชะงักไป “…”
หมายความว่ายังไง!
อยากจะโยนความผิดทั้งหมดให้ฉู่ลั่วงั้นเหรอ?
ได้… มันก็จริงนั้นแหละ!
ฉู่ลั่วไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนแบบผู้ดี ข้อนี้ทำให้บ้านตระกูลฉู่ถูกโยนความผิดใส่ได้ง่าย
“ลั่วลั่ว ยังไม่มาขอโทษอีก?”
“ใครจะให้ลั่วลั่วขอโทษ!” ฉิงจื่อฉิงรีบพูดแทรกซ่งเชียนหย่า เมื่ออยู่ต่อหน้าฉู่ลั่ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว “ฉันมาหาลั่วลั่วต่างหาก”
เธอจับมือเด็กสาวด้วยความเอ็นดู “คุณฉู่ เชียนหย่า พวกเธอไม่รู้อะไร ฉันเห็นลั่วลั่วครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตาแล้ว”
“เธอดูลั่วลั่วสิ หน้าตาดีแถมยังฉลาด เป็นเด็กดีมาก ทั้งโลกคงหาเด็กสาวที่ดีขนาดนี้ไม่ได้อีกแล้ว”
ฉู่เหว่ยฮ่าวเงียบงัน “…”
เขาฟังออกว่าฉิงจื่อฉิงไม่ได้พูดจาประชดประชัน แต่เป็นคำชมที่ออกมาจากใจ
ทางซ่งเชียนหย่าก็มึนงงไปแล้ว
ฉิงจื่อฉิงตบมือฉู่ลั่วเบา ๆ และพูดกับสองสามีภรรยาว่า “ฉันคิดแล้วคิดอีก ตระกูลฉู่ของพวกเธอมีลูกสาวอย่างฉู่หร่านแล้ว มีลูกสาวเพิ่มมาอีกคน สำหรับพวกเธอคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอรับลั่วลั่วเป็นลูกบุญธรรมได้ไหม?”
“ตระกูลซ่งของเราไม่มีลูกสาว พวกเราจะทำดีกับลั่วลั่วแน่นอน”
สีหน้าของคุณนายตระกูลซ่งอ่อนโยนมาก “เธอดูสิ ลั่วลั่วสะสวยขนาดนี้ ต้องได้สวมเสื้อผ้าสวย ๆ สวมเครื่องประดับที่แพงที่สุด”
“อีกอย่างลั่วลั่วก็ฉลาดมาก นิสัยก็ดีมากด้วย ใครกล้ารังแกเธอ พวกเราตระกูลซ่งไม่ปล่อยไว้แน่”
“มีลูกสาวที่ดีขนาดนี้ ไม่ว่าใครก็คงรักและทะนุถนอม”
ฉู่เหว่ยฮ่าวไม่พูดอะไร “…”
เขาเข้าใจแล้ว
ฉิงจื่อฉิงไม่ได้มาเพื่อพูดจาเสียดสีฉู่ลั่ว แต่มาพูดจาเสียดสีตระกูลฉู่ของพวกเขาต่างหาก!
ซ่งเชียนหย่าก็ฟังออกเช่นกัน
เธอมองฉิงจื่อฉิงกับฉู่ลั่วด้วยความประหลาดใจและสับสน
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอสองคนดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
เธอเป็นแม่แท้ ๆ แต่ลูกสาวกลับสนิทกับคนนอกมากกว่า!
ซ่งเชียนหย่ารู้สึกอิจฉาขึ้นมา
 
                                         
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
         
                                     
                                     
                                     
                                     
		 
		 
		 
		