เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 38 เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์
บทที่ 38 เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์
“อาเหิง ทำไมลูกถึงพูดแบบนี้!” ซ่งเชียนหย่าไม่พอใจท่าทางของลูกชายคนโต “ไม่ว่ายังไง การที่ฉู่ลั่วไปแย่งชุดกระโปรงหร่านหร่านก็ไม่ถูก!”
ฉู่เหิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “พ่อครับ พ่อก็คิดแบบนี้หรือเปล่า?”
เขาคิดว่าฉู่เหว่ยฮ่าวต้องเข้าใจเหตุผลที่เขาโกรธ
ฉู่เหว่ยฮ่าวขมวดคิ้ว “ให้ลั่วลั่วมาอยู่ชั้นสองแน่นอนว่าไม่ถูกต้อง แต่แกจะพูดถึงหร่านหร่านแบบนี้ไม่ได้เหมือนกัน แย่งของคนอื่นก็ถือเป็นความผิด”
“ประเด็นสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่การแย่งของครับ แต่เป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องแย่งต่างหาก!”
ฉู่เหิงเห็นท่าทางดูแคลนของพ่อแม่ ก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ
“ตอนนี้ให้ลั่วลั่วอยู่ที่ชั้นสาม เดี๋ยวผมจะให้คนส่งเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่มาให้ แล้วก็…” เขาจงใจเน้นย้ำเป็นพิเศษ “ต่อไปถ้าลั่วลั่วอยากต่อเติมชั้นสามให้เป็นแบบไหน พ่อกับแม่ก็ห้ามเข้าไปยุ่งเด็ดขาด”
ซ่งเชียนหย่าไม่พอใจ “ได้ยังไง? จะต่อเติมตามอำเภอใจได้ยังไง?”
“ฉู่หร่านเปลี่ยนชั้นสองทั้งชั้นให้กลายเป็นห้องแต่งตัวของเธอ ผมไม่เห็นแม่จะพูดอะไรเลย เธอจะเปลี่ยนชั้นสามเป็นห้องซ้อม เป็นห้องดนตรี แม่ก็ไม่ว่าอะไรสักคำ”
“แม่ครับ ถ้าแม่ยังต้องการลูกสาวอย่างลั่วลั่ว ก็อย่าลำเอียงให้มากนัก!”
ซ่งเชียนหย่า “…”
ฉู่เหิงพูดจบก็จากไป
ซ่งเชียนหย่ารู้ว่าลูกชายโกรธจริง ๆ แล้ว ขอบตาของเธอก็แดงขึ้นมา “คุณคะ คุณก็คิดว่าฉันผิดเหรอ?”
ฉู่เหว่ยฮ่าวบีบสันจมูก เกิดเรื่องน่าปวดหัวแต่เช้า ไม่ว่าใครก็อารมณ์ไม่ดีกันทั้งนั้น
“ให้ลั่วลั่วอยู่ในห้องเก็บของ คุณคิดว่ายังไงล่ะ?”
ซ่งเชียนหย่าพูดออกมาแบบไม่คิด “หร่านหร่านบอกว่า ก่อนหน้านี้ฉู่ลั่วพักอยู่ในห้องเช่าขนาดไม่ถึงสิบตารางเมตร จู่ ๆ ให้มาอยู่ในห้องใหญ่โตหรูหรา เธอคงรับไม่ไหวแน่”
“ฉันเองก็อยากให้เธอค่อย ๆ ปรับตัว”
“เฟอร์นิเจอร์พวกนั้นก็เหมือนกัน มันยังไม่พังสักหน่อย หร่านหร่านเป็นคนประหยัด ก่อนหน้านี้เธอเป็นตัวแทนองค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อม มีความรู้เรื่องการรักษาของอย่างดี เฟอร์นิเจอร์พวกนั้นยังไม่พัง เอามาให้ลั่วลั่วใช้ได้”
“ฉันคิดว่าหร่านหร่านพูดถูกนะคะ!”
หร่านหร่านใส่ใจลั่วลั่วมากขนาดนี้ ทั้งยังเป็นเด็กที่รู้จักรักษาสิ่งแวดล้อมอีก
ฉู่เหว่ยฮ่าวฟังซ่งเชียนหย่าอธิบาย โดยไม่พูดอะไร
หลังจากไตร่ตรองสักพักหนึ่ง ก็ถอนหายใจออกมาหนึ่งที “จัดการตามที่อาเหิงบอกเถอะ! ให้ลั่วลั่วอยู่ที่ชั้นสาม ต่อไปเธออยากต่อเติมอะไรก็ให้เธอต่อเติมไป คุณอย่าเข้าไปยุ่งเลย”
หลังเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ตอบกระแทกเสียง “…ก็ได้ค่ะ!”
…
ตกเย็น
ฉู่หร่านกลับมาจากข้างนอก คนที่มากับเธอคืออันเชี่ยน คุณหนูจากตระกูลอันที่ร่ำรวยของเมืองเจียง
สองสาวเดินพูดคุยหลอกล้อกันเข้ามา ก่อนจะเห็นรถบรรทุกขนาดใหญ่สองคันจอดอยู่หน้าคฤหาสน์ กำลังขนย้ายเฟอร์นิเจอร์เข้าไปข้างใน
อันเชี่ยนจ้องมองของที่มีพนักงานมาช่วยกันยกมากมาย “เหมือนจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ของผู้หญิงนะ โต๊ะเครื่องแป้ง เตียงเจ้าหญิง…”
เธอใช้ศอกกระแทกฉู่หร่านเบา ๆ “พ่อแม่เธอเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ให้อีกแล้วเหรอ”
ฉู่หร่านรู้สึกภูมิใจมาก แต่ปากกลับพูดว่า “ฉันบอกพวกท่านแล้วแท้ ๆ ว่าไม่ให้ใช้เงินฟุ่มเฟือย”
“ลุงหยางคะ เฟอร์นิเจอร์พวกนี้ใครซื้อเหรอคะ?”
พ่อบ้านหยางกำลังชี้สั่งคนงานให้ขนย้ายอย่างระมัดระวัง ก่อนหันมามองเด็กสาว “คุณหนูหร่าน คุณชายใหญ่เป็นคนซื้อครับ”
ฉู่หร่านงอแง กระทืบเท้าพลางขมวดคิ้ว “บอกพี่ชายแล้วแท้ ๆ ว่าอย่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย เฟอร์นิเจอร์ชุดนั้นฉันเพิ่งใช้ได้ปีกว่าเอง แล้วมันยังใช้ต่อได้อีก”
“ฮึ! ฉันต้องสั่งสอนพี่ชายสักหน่อยแล้ว”
อันเชี่ยนเดาะลิ้นสองครั้ง “เธอนี่โชคดีจริง ๆ เลยนะ ถ้าพวกพี่ชายของฉันได้สักครึ่งของพี่ชายเธอ ฉันคงดีใจตายเลย”
เธออิจฉาที่ฉู่หร่านมีพี่ชายทั้งสามคนนี้มาก
ทั่วทั้งเมืองเจียงมีใครไม่รู้บ้าง ว่าฉู่หร่านคือลูกสาวสุดที่รักของตระกูลฉู่ พี่ชายทั้งสามเอ็นดูเธอมาก
“เมื่อกี้ฉันเห็นแล้ว นี่เป็นเฟอร์นิเจอร์ลายหินคอลเลกชันใหม่ ที่ได้นักออกแบบชื่อดังระดับโลกมาออกแบบให้ แถมยังมีจำนวนจำกัดด้วยนะ เฟอร์นิเจอร์ชุดนี้อย่างต่ำก็ห้าล้าน!”
“พี่ใหญ่ของเธอดีมาก ยอมแพ้เลยจริง ๆ”
ฉู่หร่านยังทำหน้าบึ้ง “แต่จะใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้ไม่ได้! ฮึ ฉันโทรหาพี่ใหญ่ดีกว่า บอกให้เขาเอาเฟอร์นิเจอร์พวกนี้ไปคืนให้หมด!”
พ่อบ้านหยางที่อยู่ด้านข้างได้ยินสิ่งที่พวกเธอสองคนพูดกันชัดเจน
จึงต้องเอ่ยเตือนว่า “คุณหนูหร่าน เฟอร์นิเจอร์พวกนี้คุณชายใหญ่ซื้อให้คุณหนูลั่วครับ”
อันเชี่ยนผู้ทำหน้าอิจฉา “…”
ฉู่หร่านที่กำลังแอบได้ใจ “…”