เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 39 คนบ้านนอก
บทที่ 39 คนบ้านนอก
อันเชี่ยนลูบจมูกด้วยความอึดอัดใจ “ที่แท้ก็ซื้อให้ฉู่ลั่วหรอกเหรอ!”
ฉู่หร่านเผยสีหน้าบิดเบี้ยวออกมาชั่วขณะ ก่อนกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
“ทำไมพี่ใหญ่ถึงคิดจะเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ให้ลั่วลั่วล่ะ! เธอเพิ่งได้เฟอร์นิเจอร์มาเองไม่ใช่เหรอ?” ฉู่หร่านถอนหายใจออกมา “ลั่วลั่วนี่จริง ๆ เลย… ตระกูลฉู่มีเงินก็จริง แต่ไม่ควรใช้เงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้!”
อันเชี่ยนสนิทกับฉู่หร่าน จึงสมทบด้วยความโกรธ “ใช่แล้ว เธอเพิ่งกลับมาที่ตระกูลฉู่ได้ไม่นาน ก็เปลี่ยนมาใช้เฟอร์นิเจอร์ราคาแพงขนาดนี้แล้ว!”
เธอมั่นใจว่าตอนที่ฉู่ลั่วกลับมา ตระกูลฉู่ต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่ให้ฉู่ลั่วแน่
นี่กลับมาได้แค่หนึ่งเดือนกว่า ก็อยากเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่อีกแล้วเหรอ?
นังตัวล้างผลาญนี่…
“นังคนบ้านนอก!” อันเชี่ยนพึมพำออกมาเบา ๆ
ฉู่หร่านขมวดคิ้ว พลางจับแขนเพื่อนสาวเอาไว้ “เชี่ยนเชี่ยน อย่าพูดถึงลั่วลั่วแบบนี้ ลั่วลั่วลำบากมาตั้งแต่เด็ก เธออยากเปลี่ยนบ่อยแค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหา”
แต่คนฟังกลับขมวดคิ้ว ดูเหมือนไม่เห็นด้วย แต่ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
อันเชี่ยนเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้ก็ปวดใจมาก “เธอจะอดทนทำไม คุณลุงฉู่กับคุณป้าบอกแล้วไม่ใช่เหรอ? ต่อให้ฉู่ลั่วกลับมา เธอก็ยังเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลฉู่”
เธอเบาเสียงลง “ในใจของฉัน เธอคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลฉู่เพียงคนเดียว ฉู่ลั่วก็แค่คนบ้านนอกที่ไม่มีวันได้เชิดหน้าชูตา เธอดูยัยนั่นสิ ทำตัวอย่างกับคนเพิ่งเคยรวย!”
“ของพวกนี้เธอต้องบังคับให้พี่ใหญ่ฉู่ซื้อให้แน่นอน”
“แต่พี่ใหญ่ฉู่ก็ไม่ได้ดูเหมือนคนไร้รสนิยมขนาดนี้นะ”
ฉู่หร่านถูกอันเชี่ยนปลอบแล้วก็สบายใจ แต่ใบหน้ายังคงโศกเศร้า “เชี่ยนเชี่ยน เธออย่าพูดแบบนี้สิ”
อันเชี่ยนจับแขนเพื่อนสาวเดินเข้าไปในคฤหาสน์ ตั้งใจจะไปหาคนชั้นต่ำฉู่ลั่ว
ซ่งเชียนหย่าเห็นพวกเขาสองคนเข้ามาด้วยกัน ก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เชี่ยนเชี่ยน ไม่มาที่นี่นานเลยนะ”
“สวัสดีค่ะคุณป้า” อันเชี่ยนเอ่ยอย่างนุ่มนวล
“แม่คะ ตั้งแต่เชียนเชี่ยนหมั้นแล้ว ก็เรียบร้อยขึ้นเยอะเลย” ฉู่หร่านพูดติดตลกว่า “หนูเป็นแม่สื่อที่ดีเหมือนกันนะคะเนี่ย!”
อันเชี่ยนหน้าแดงเล็กน้อย ในใจรู้สึกเขินมาก
ซ่งเชียนหย่าพูดหยอกล้อสองสามประโยค ก็ปล่อยให้พวกเธอไปเล่นกันตามประสา
ทุกครั้งที่อันเชี่ยนมาหาฉู่หร่าน มักจะอิจฉาที่เพื่อนสาวมีห้องแต่งตัวทั้งชั้นเสมอ แต่ละส่วนถูกแบ่งตามฤดูกาล ทั้งยังมีห้องสำหรับเก็บเครื่องประดับโดยเฉพาะ
ทั่วทั้งเมืองเจียง คงจะมีแค่ตระกูลฉู่ที่รักลูกสาวมากขนาดนี้
“ข้างนอกเสียงดังอะไรกัน?” อันเชี่ยนเปิดประตูออกมา ก็เห็นว่าตรงทางขึ้นบันไดมีคนรับใช้เดินขึ้นลงไม่หยุด
เธอจึงรั้งตัวเอาไว้คนหนึ่ง
คนรับใช้พูดด้วยสีหน้าอิจฉาว่า “คุณผู้หญิงซื้อเสื้อผ้าตามฤดูกาลจากแบรนด์ดังมาให้คุณหนูลั่วค่ะ ให้พวกเราเอาไปเก็บไว้ที่ห้องแต่งตัวของคุณหนูลั่ว”
“ฉู่ลั่วคนนี้หน้าเงินเกินไปแล้ว!” อันเชี่ยนกลับไปที่ห้องด้วยความโกรธ และบอกเล่าสิ่งที่ได้ยินมาจากข้างนอกให้ฉู่หร่านฟัง
“ยัยนั่นไม่ใช่แค่ให้พี่ใหญ่ของเธอ เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่ให้ ยังให้คุณป้าซื้อเสื้อผ้าตามฤดูกาลจากแบรนด์ดังให้อีก”
“ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงที่โลภมากขนาดนี้มาก่อนเลย!”
ฉู่หร่านก้มหน้าพร้อมกับทำหน้าโศกเศร้า “เชี่ยนเชี่ยนไม่ต้องพูดแล้ว ยังไงลั่วลั่วก็เป็นลูกสาวของพ่อกับแม่ พวกเขาดีกับเธอก็ถูกต้องแล้ว”
“ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรตามใจเกินไปนะ!” อันเชี่ยนโกรธมาก “เหอะ ยัยนั่นกำลังอวดเบ่งใส่เธอนะ”
ฉู่หร่านดึงขาเพื่อนไว้ “เชี่ยนเชี่ยน เธอดีกับฉันที่สุดเลย ตอนนี้มีแค่เธอคนเดียวที่ยอมคบฉันเป็นเพื่อน”
“หลังจากซ่งจือหนานรู้ว่าฉันไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของตระกูลฉู่ ท่าทีที่มีต่อฉันก็เปลี่ยนไป ไม่กี่วันก่อนเขาพูดจาประชดประชันฉันเพื่อฉู่ลั่ว” เธอยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันพอเดาได้ตั้งนานแล้วว่าต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”
“แต่ฉันเติบโตมาในตระกูลฉู่ตั้งแต่เด็ก คิดว่าตระกูลฉู่เป็นครอบครัวของตัวเองมาตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองไม่ใช่ลูกสาวของคุณพ่อคุณแม่ ไม่ใช่น้องสาวของพี่ชาย”
เธอสะอื้นน้ำตาไหล
อันเชี่ยนกอดเพื่อนด้วยความสงสาร “ฉันรู้ ฉันเข้าใจดี เธอไม่ได้ยังอยู่ที่นี่เพราะอำนาจและอิทธิพลของตระกูลฉู่ แต่อยู่เพราะความสัมพันธ์ในครอบครัวที่มีต่อตระกูลฉู่ต่างหาก”
ฉู่หร่านชะงัก “…”
หากไม่รู้จักนิสัยของอันเชี่ยนดี คงคิดว่าอีกฝ่ายจงใจพูดกระทบเธอ
 
                                         
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
         
                                     
                                     
                                     
                                     
		 
		 
		 
		