เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 43 ซุปกระดูกหมู
บทที่ 43 ซุปกระดูกหมู
ซ่งเชียนหย่าแทบไม่ได้นอนเลยตลอดทั้งคืน
ในใจของเธอรู้สึกผิดกับฉู่ลั่ว ลูกสาวของตัวเองร่อนเร่อยู่ข้างนอกมาเกือบยี่สิบปี ลำบากจนเป็นโรคกระเพาะ
ในฐานะแม่ ทำไมเธอจะไม่เสียใจ
เมื่อถึงตอนเช้า เธอก็เข้าครัวไปทำซุปกระดูกหมูด้วยตัวเอง ตุ๋นจนถึงช่วงเที่ยงจึงรีบร้อนถือไปที่โรงพยาบาล
ในหัวจินตนาการถึงแววตาซาบซึ้งของฉู่ลั่ว ซ่งเชียนหย่าคิดไว้ในใจแล้วว่าควรพูดเกลี้ยกล่อมลูกสาวอย่างไร ให้เธอเข้าใจขึ้นมาหน่อย จะได้ไม่ทำให้ครอบครัวต้องกังวล และไม่ต้องอิจฉาฉู่หร่าน
เฮ้อ!
ไม่ได้เลี้ยงลูกสาวคนนี้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าอะไรก็ด้อยกว่าฉู่หร่านไปหมด!
ซ่งเชียนหย่ายืนอยู่หน้าห้องพักผู้ป่วย เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วผลักประตูเข้าไป “ลั่วลั่ว แม่ตุ๋นน้ำซุปมาให้…”
ความคิดที่อยากให้ลูกสาวแสดงออกถึงความรู้สึกขอบคุณชะงักค้าง
เมื่อเห็นฉิงจื่อฉิงนั่งอยู่ในห้องพักผู้ป่วย และบนโต๊ะอาหารก็เต็มไปด้วยกับข้าวมากมาย
“เชียนหย่า เธอมาแล้วเหรอ! ทานข้าวหรือยัง? ลั่วลั่วกำลังจะทานเลย” ฉิงจื่อฉิงมองกล่องใส่อาหารในมือซ่งเชียนหย่า “เธอก็เอาข้าวมาให้ลั่วลั่วเหรอ! รีบเอามาสิ!”
เธอลุกขึ้นมารับกล่องใส่อาหาร พลางพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ลั่วลั่วเป็นโรคกระเพาะ ครั้งนี้ยังอาการกำเริบแบบเฉียบพลันด้วย คุณหมอเลยบอกให้ระวังเรื่องการกินเป็นพิเศษ”
ซ่งเชียนหย่านั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางประหม่า
“ของพวกนี้เธอทำเองเหรอ?”
ฉิงจื่อฉิงพยักหน้า ตอนที่เห็นว่าในกล่องใส่อาหารเป็นซุปกระดูกหมู รอยยิ้มก็จางหายไป “ซุปกระดูกหมูนี่”
คุณนายซ่งนำซุปกระดูกหมูไปวางข้างซุปไก่ที่ตัวเองทำมา
ในซุปกระดูกหมูมีน้ำมันลอยอยู่ ทั้งยังมีต้นหอมซอยและถูกปรุงรสมาแล้ว
แต่ซุปไก่นั้นใสมาก จนมองไม่เห็นความมันเลยแม้แต่น้อย
ซ่งเชียนหย่ารู้สึกไม่ยอม ฉิงจื่อฉิงทำตัวเหมือนเป็นเจ้าบ้าน ทั้งที่เธอต่างหากคือแม่แท้ ๆ ของฉู่ลั่ว แต่อีกฝ่ายกลับทำเหมือนเธอเป็นแขก
“ลั่วลั่ว ลองชิมซุปกระดูกหมูที่แม่ทำมาให้หน่อยสิ แม่ตื่นมาเคี่ยวตั้งแต่เช้าเลยนะ ใช้ไฟเบาค่อย ๆ อุ่น พอเคี่ยวเสร็จก็รีบเอามาส่งให้ลูกเลย”
เพื่อแสดงความรักของคนเป็นแม่ ซ่งเชียนหย่าลุกขึ้นยืน และตักซุปหนึ่งถ้วยให้ฉู่ลั่วด้วยตนเอง ทั้งยังตั้งใจคืบกระดูกหมูให้สองชิ้น
ครั้งนี้ ฉู่ลั่วต้องซาบซึ้งใจมากเชียวละ!
แม้เธอจะเตรียมมาไม่เยอะเท่าฉิงจื่อฉิง แต่ความรู้สึกแบบนี้ ฉิงจื่อฉิงไม่มีทางเทียบได้หรอก!
ซ่งเชียนหย่าที่รอรับความรู้สึกซาบซึ้ง เห็นว่าฉู่ลั่วแค่มองซุปถ้วยนั้นแวบหนึ่ง… ก่อนจะหันไปจิบซุปไก่
บรรยากาศทั้งเงียบทั้งอึดอัด
ซ่งเชียนหย่าเผยสีหน้าอึมครึม รู้สึกขุ่นเคืองอยู่เต็มอก สีหน้าเย็นชา
ฉิงจื่อฉิงมองทั้งสองที่มีนิสัยไม่ชอบพูดเหมือนกันทั้งแม่ทั้งลูก จริง ๆ เลย!
จนกระทั่งฉู่ลั่วกินเสร็จ เธอไม่แตะซุปกระดูกหมูของซ่งเชียนหย่าแม้แต่คำเดียว
ซ่งเชียนหย่าหยิบกล่องใส่อาหารขึ้นมา และเดินออกไปโดยไม่ลาสักคำ
ลูกสาวคนนี้เกินเยียวยาแล้วจริง ๆ!
อย่าว่าแต่แม่แท้ ๆ เลย คนที่อาวุโสกว่าเอาอาหารมาส่งให้ ก็ทำหน้าแบบนี้ใส่ไม่ได้นะ!
จริงอยู่ที่เมื่อวานเธอเป็นคนขังฉู่ลั่วเอาไว้
นั่นไม่ใช่เพราะฉู่ลั่วพูดจาไร้สาระหรือ
ไม่ส่งอาหารให้ฉู่ลั่วทาน เป็นความประมาทเลินเล่อของเธอเอง
แต่วันนี้เธอก็เอาซุปกระดูกหมูมาให้ไม่ใช่เหรอ ก็แสดงความขอโทษแล้วไม่ใช่หรือไง?
ไม่เคยเห็นลูกสาวคนไหนกล้าแสดงสีหน้าแบบนั้นกับแม่แท้ ๆ ของตัวเองมาก่อน!
ไม่รู้ความไม่เชื่อฟังเหมือนหร่านหร่านสักนิด ซ่งเชียนหย่านึกถึงตอนที่หร่านหร่านดื่มซุปกระดูกหมูนี้ และเอ่ยชมไม่หยุดปาก จิตใจก็รู้สึกสงบขึ้นมาเล็กน้อย
หร่านหร่านของแม่ดีที่สุดแล้ว!
“เชียนหย่า เชียนหย่า!”
ฉิงจื่อฉิงวิ่งช้า ๆ ตามซ่งเชียนหย่าที่ออกจากห้องมา “เธอจะรีบร้อนไปไหน? ทำไมไม่พูดอะไรกับลั่วลั่วสักคำ”
“พูดอะไรล่ะ เธอไม่เห็นสีหน้าของเด็กคนนั้นเหรอ? ฉันเป็นแม่แท้ ๆ นะ ไม่ใช่ศัตรูที่ไหน อุตส่าห์เอาอาหารมาส่งให้ เธอดูเด็กคนนั้นทำสีหน้าเข้าสิ คิดว่าฉันใส่ยาพิษให้กินหรือไง?”
หลังซ่งเชียนหย่าพูดจบ ฉิงจื่อฉิงก็อดจะพูดออกมาเสียงเบาไม่ได้ “ก็ไม่แน่หรอก…”
“จื่อฉิง!”
ซ่งเชียนหย่ามองอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ฉิงจื่อฉิงถอนหายใจ “เธอน่ะ ลำเอียงมากเกินไปจริง ๆ ฉู่หร่านไม่สบายนิดหน่อย เธอก็ตามคนนั้นคนนี้มามากมายเหมือนฉู่หร่านใกล้จะตาย”
“ลั่วลั่วเป็นโรคกระเพาะเฉียบพลัน ยังไม่ทันฟื้น พวกเธอก็กลับไปกันหมดแล้ว”
ซ่งเชียนหย่ากล่าว “…อาเหิงก็อยู่ไม่ใช่เหรอ?”
และหร่านหร่านต้องกลับไปนอนเพื่อรักษาความงามด้วย หร่านหร่านเป็นดารา ใบหน้าสำคัญสำหรับเธอมาก
อีกอย่าง พวกเขาอยู่ที่นี่ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้
คุณนายฉู่ไม่พูดออกมา แต่แสดงสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกมาทางสีหน้าจนหมด
ฉิงจื่อฉิงที่มองออกได้แต่แอบส่ายหน้าในใจ เธอพูดอธิบายว่า “แล้วก็ซุปกระดูกหมู โรคกระเพาะแบบเฉียบพลันนะ! จะกินของมันหรือกินเนื้อมากเกินไปไม่ได้!”
“คุณหมอก็ให้คำแนะนำเป็นพิเศษแล้ว เมื่อวานเธอไม่อยู่เหรอ?”
ดวงตาของซ่งเชียนหย่าค่อย ๆ เบิกกว้าง
อยู่… เธออยู่
แต่เมื่อวานเธอไม่ได้สนใจฉู่ลั่ว แต่กำลังโกรธฉู่เหิงจนไม่ได้สนใจว่าคุณหมอพูดอะไรบ้าง
“เชียนหย่า ถ้าเธอยังอยากให้ลั่วลั่วเป็นลูกสาว ก็หัดใส่ใจเธอมากกว่านี้หน่อยนะ!”
“ยังไงเด็กที่เธออุ้มท้องมาตั้งสิบเดือนก็คือลั่วลั่วนะ!”