เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 46 รักสองภพ
บทที่ 46 รักสองภพ
อู๋จงซ่านมองปรมาจารย์สลับกับฉู่ลั่ว ก่อนจะมองเงินในมือถือของตนเอง สุดท้ายจึงกัดฟันพูดว่า “เธอบอกว่าช่วยลูกชายของฉันได้ใช่ไหม?”
ฉู่ลั่วพยักหน้า
“ได้! ฉันจะให้เงินนี้กับเธอ” อู๋จงซ่านสูดลมหายใจเข้าลึก “แต่เธอต้องปลุกลูกชายของฉันให้ฟื้นก่อน”
“ได้ค่ะ”
“หึ” ปรมาจารย์สะบัดชายผ้า มายืนยิ้มเย็นชาอยู่ด้านข้างเพื่อรอดูผลลัพธ์
เขามองฉู่ลั่วอย่างพิจารณา ผู้ท้าทายเขาคือเด็กสาวร่างกายอ่อนแอที่มีสีหน้าอึมครึม เห็นได้ชัดว่าขาดสารอาหาร แม้แววตาทั้งสองข้างจะสว่างไสว แต่มองไม่ออกเลยว่าเป็นผู้บำเพ็ญ เขาจึงแอบตัดสินในใจว่าเธอทำไม่ได้
ฉู่ลั่วเดินไปข้างเตียงผู้ป่วย พลางกวาดตามองบนร่างของอู๋เฉียง สุดท้ายสายตาก็หยุดที่ข้อมือของอีกฝ่าย
เขาสวมกำไลหยกที่ใสราวกับก้อนน้ำแข็ง
บนกำไลข้อมือยังมีดอกบัวสีทองกับดอกบัวธรรมดา
มันมีขนาดเล็กและทำออกมาอย่างประณีต ช่างดูไม่เข้ากับข้อมือของชายหนุ่มเอาเสียเลย
“กำไลข้อมืออันนี้ลูกชายของผมเก็บมาได้ครับ ถ้าคุณชอบ รอให้ลูกชายของผมฟื้น แล้วจะยกให้คุณก็ได้” อู๋จงซ่านที่อยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้น
ฉู่ลั่วบอกกับเขาว่า “คุณช่วยถอดกำไลนั่นออกไปที”
อู๋จงซ่านไม่เข้าใจแต่ยังทำตามที่เธอบอก เขาเดินเข้าไปและจะถอดกำไลนั้น
เพียงมือเขาสัมผัสถูกหยก ก็รู้สึกว่ามือเย็นราวกับน้ำแข็ง ชวนให้รู้สึกหนาวสะท้านไปถึงหลัง เมื่อออกแรงดึงเบา ๆ กำไลกลับไม่ขยับแม้แต่น้อย
เขาออกแรงมากขึ้นอีก แต่กำไลราวกับงอกอยู่บนข้อมือของอู๋เฉียง ทำอย่างไรก็ถอดไม่ออก
“น… นี่”
อู๋จงซ่านหน้าถอดสี มือข้าหนึ่งจับข้อมือของลูกชายไว้ มืออีกข้างก็ออกแรงดึงกำไลข้อมือออกมา แต่กำไลข้อมือกลับไม่ขยับ!
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”
สายตาของปรมาจารย์ที่ยืนอยู่ด้านข้างตกอยู่ที่ข้อมือของอู๋เฉียง สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที “รักสองภพ!”
“รักสองภพอะไร?” อู๋จงซ่านสงสัย
แต่ปรมาจารย์กลับถอยหลังออกไปด้วยสีหน้าหวาดกลัว สองเท้าถอยไปพลางสะบัดมือไปซ้ายทีขวาที ดวงตากวาดมองภายในห้องอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากสั่นระริกกำลังพึมพำบทสวดเต๋า
เมื่อเขาถอยไปจนถึงประตูห้องพักผู้ป่วย ก็รีบหันหลัง และวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว!
ภาพนี้ทำเอาอู๋จงซ่านกับภรรยาตกใจ พวกเขามองลูกชายที่นอนลืมตาตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียง กับกำไลที่ไม่ยอมขยับบนข้อมือของลูกชาย
ทั้งสองเกิดความรู้สึกเย็นยะเยือกตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมา
แม้กระทั่งฉิงจื่อฉิงยังแอบกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว เธอเดินไปหยุดอยู่ข้างกายฉู่ลั่ว “ลั่วลั่ว รักสองภพนี่… คืออะไรเหรอ?”
“ดอกบัวร่วงโรยแล้วก็ยังเป็นดอกบัว แม้จะอยู่กันคนละภพ แต่ก็มีรากและลำต้นเดียวกัน มีหัวใจเดียวกัน จึงเรียกว่ารักสองภพ”
ฉู่ลั่วเดินเข้าไป อู๋จงซ่านรีบหลีกทางให้ทันที
ปากของเธอท่องคาถาออกมาหลายคำ นิ้วชี้แตะลงไปเบา ๆ บนกำไลหยก ออกแรงเพียงเล็กน้อย กำไลก็หลุดจากข้อมือของอู๋เฉียง
“ขบวนขันหมากยาวสิบลี้ สองโลกปลื้มปีติ ดอกบัวรากเดียวกัน หัวใจเป็นหนึ่งเดียวกัน” เมื่อนิ้วชี้แตะลงบนกำไล หยกที่แต่เดิมสะท้อนแสงระยับราวกับสูญสิ้นความแวววาวและจิตวิญญาณไปทันที
“โดยทั่วไปแล้ว รักสองภพคือสิ่งของที่ใช้แสดงถึงความรักอันมั่นคง”
อู๋จงซ่านกับภรรยาออกห่างจากกำไลข้อมือ “แล้วลูกชายของผม…”
“เพราะสถานการณ์ของลูกชายคุณไม่ปกติ” ฉู่ลั่วใช้นิ้วชี้หมุนกำไลข้อมือเบา ๆ “หยกนี่เป็นของคนตายที่มีจิตผูกพันแรงกล้าค่ะ อาจถูกใช้เป็นของขวัญแทนใจมาก่อน มันถูกฝังไว้กับร่างเจ้าของ หลังวิญญาณออกไปแล้ว ในตัวมันก็ยังหลงเหลือความรู้สึกรักชังจากเจ้าของเดิมอยู่”
“ของสิ่งนี้ทำร้ายลูกชายของผมเหรอ?”
“ถูกแค่ครึ่งเดียว…” ฉู่ลั่วให้อู๋จงซ่านไปซื้อธูปกับกระดาษยันต์
เขาไปไม่นานก็ได้มาแล้ว
แถวโรงพยาบาลมีร้านขายของพวกนี้อยู่มาก ยามที่พึ่งพากำลังของมนุษย์ไม่ได้ ก็ต้องฝากความหวังไว้ที่เทพเจ้ากับพระเท่านั้น
ขั้นตอนต่อไปง่ายมาก แค่จุดธูปเทียน แล้วเรียกวิญญาณ
แค่ครู่เดียว อู๋เฉียงที่ลืมตาค้างอยู่แล้วก็กะพริบตาสองสามครั้ง วินาทีต่อมา ชายหนุ่มก็ดีดตัวขึ้นมาจากเตียง พร้อมตะโกนเสียงดังว่า “เวรเอ๋ย ตกใจแทบตาย!”
พูดได้ประโยคเดียว ห้องพักผู้ป่วยก็ตกอยู่ในความเงียบไปชั่วขณะ…
“ลูกรัก!”
“เฉียงเอ๋อร์!”
อู๋จงซ่านกับภรรยาวิ่งเข้าไปกอดลูกชายพร้อมกับร้องไห้โฮ
ฉิงจื่อฉิงเห็นแบบนั้นก็รู้สึกร้อนผ่าวที่ตาเช่นกัน เธอเดินไปหาฉู่ลั่ว และมองกำไลในมือเด็กสาวด้วยความหวาดกลัวปนสงสัย “ลั่วลั่ว หนูบอกว่าเป็นการสะกดวิญญาณไม่ใช่เหรอ แล้วมันเกี่ยวข้องกับกำไลอันนี้ได้ยังไง?”
ฉู่ลั่วอธิบาย “กำไลข้อมืออันนี้เป็นของที่มีพลังหยินค่ะ มันจะทำลายพลังหยาง ยิ่งถ้าเขาอยู่ในสถานที่สำหรับฝังศพซึ่งมีพลังงานหยินอัดแน่นอยู่ ทั้งยังเจอกับสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ คนแรกที่จะประสบเคราะห์ร้ายก็คือตัวเขาเอง”