เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 48 ฉู่ลั่วออกจากโรงพยาบาล
บทที่ 48 ฉู่ลั่วออกจากโรงพยาบาล
ฉู่เหิงที่นั่งอยู่บนโซฟากำลังมองฉู่ลั่วทานข้าว เมื่อเห็นน้องสาวที่ป่วยเป็นโรคกระเพาะค่อย ๆ เคี้ยวข้าวให้ละเอียดก่อนกลืน ก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา
“ขอบคุณอะไรกัน พี่เป็นพี่ใหญ่ของเธอนะ” เขารู้มาจากซ่งจือหนานว่าวันนี้ซ่งเชียนหย่ามาที่โรงพยาบาล และรู้ด้วยว่าแม่เอาอะไรมาให้
จากน้ำเสียงของซ่งจือหนาน ฉู่เหิงฟังออกเลยว่าคุณป้าสั่งให้มาบอกเขา
ในคำพูดนั้นแฝงความหมายเอาไว้ว่า ถ้าตระกูลฉู่ของพวกเขาไม่ยอมดูแลฉู่ลั่วให้ดี ตระกูลซ่งของพวกเขาจะรับเธอไปเอง และแน่นอนว่าเลี้ยงดูได้ดีกว่าตระกูลฉู่ด้วย
ฉู่เหิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยถามเธอ “ลั่วลั่ว ถ้าเธอไม่อยากอยู่ในบ้านตระกูลฉู่ บอกพี่ได้นะ พี่จะซื้อที่อยู่ข้างนอกให้เธอเอง”
เขาพูดเน้นย้ำ “พี่ไม่ได้จะไล่เธอออกไป แค่กลัวเธอจะไม่โอเคกับที่บ้าน”
ชายหนุ่มใช้ชีวิตอยู่ในบ้านตระกูลฉู่มาหลายสิบปี โดยเฉพาะฉู่หร่านที่ได้รับความรักจากคนในครอบครัวอย่างไม่สิ้นสุด พ่อกับแม่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แม้แต่น้องชายสองคนนั้นก็รักและเอ็นดูฉู่หร่านอย่างโงหัวไม่ขึ้น
ตอนนี้พวกเขาไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่หลังผ่านช่วงเวลานี้ไป พวกเขาก็จะกลับมาอยู่เป็นประจำ และฉู่ลั่วต้องถูกรังแกแน่
ตัวเขาเองก็ยุ่ง ไม่สามารถปกป้องเธอได้ตลอดเวลา
เขาเคยเตือนพ่อแม่ของตนแล้ว แต่พวกเขากลับไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
พวกน้องชายยิ่งไม่ต้องพูดถึง พี่ใหญ่รู้เลยว่าพวกเขาไม่ฟังแน่นอน
ฉู่ลั่วมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของฉู่เหิง ก็ยกมุมปากพลางส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ที่จริงอยู่บ้านก็ดี”
เด็กสาวไม่ได้ประชด มันดีมากจริง ๆ ขนาดใหญ่กว่าห้องเช่าที่เธอเคยอยู่ก่อนหน้านี้มาก ทุกวันจะมีคนรับใช้คอยทำอาหารให้ แถมเสื้อผ้าก็ไม่ต้องซักเองด้วย
เธอแค่อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยสักอย่าง
น้องสาวยิ้มขณะพูดสิ่งที่ตนเองคิดออกมา แต่ใครจะคิดว่าสีหน้าของฉู่เหิงจะดูแย่ลงไปอีก
สายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทอดมองมาหาเธอ
ฉู่เหิงลุกขึ้นยืน แล้วยื่นมือมาลูบศีรษะเด็กสาวเบา ๆ “สบายใจได้เลย พี่ใหญ่จะปกป้องเธอเอง”
ฉู่ลั่วกล่าวย้ำอย่างจริงใจ “…หนูคิดว่าตระกูลฉู่ดีกว่าเมื่อก่อนจริง ๆ นะคะ”
พี่ใหญ่ยังมีสีหน้าเช่นเดิม แต่พยายามฝืนยิ้มออกมา “เข้าใจแล้ว พี่เข้าใจ”
เธอหมดคำพูด “…”
ดูยังไง พี่ใหญ่ก็ไม่เข้าใจแน่ ๆ
หลังจากฉู่ลั่วทานอาหารเสร็จ พี่ใหญ่ก็ถือกล่องข้าวกลับไปแล้ว
ไม่รู้ว่าหลังกลับบ้าน ฉู่เหิงไปพูดอะไรกับคนตระกูลฉู่ วันต่อมาเมื่อฉู่ลั่วออกจากโรงพยาบาล ฉู่เหว่ยฮ่าวกับภรรยา และฉู่หร่านต่างก็มากันหมด
ฉู่หร่านที่ดวงตาแดงก่ำส่งช่อดอกไม้ช่อหนึ่งให้ฉู่ลั่ว “ดีใจด้วยนะที่ได้ออกจากโรงพยาบาล แล้วก็… ขอโทษนะ! ฉันไม่ควรบอกให้คุณแม่ขังเธอเอาไว้ในบ้าน แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นโรคกระเพาะ”
พี่สาวปลอม ๆ กะพริบตาปริบ จนน้ำตาไหลลงมา “เธอยกโทษให้ฉันได้ไหม?”
ซ่งเชียนหย่าอ้าปากเตรียมจะพูด แต่เมื่อนึกถึงคำพูดเมื่อวานของลูกชาย ก็อดทนไว้
ฉู่ลั่วกวาดสายตามองคนตระกูลฉู่โดยที่พวกเขาไม่ทันสังเกต ก่อนจะรับช่อดอกไม้มาด้วยรอยยิ้มยากจะคาดเดา “เธอไม่ได้ตั้งใจนี่ ฉันต้องให้อภัยเธออยู่แล้ว”
แต่ถ้าเธอตั้งใจ ไม่ให้อภัยคงไม่เป็นไรสินะ?
ฉู่หร่านเงียบงัน “…”
ฉู่เหว่ยฮ่าวเดินออกมา “เอาละ ครอบครัวเดียวกันคุยกันเข้าใจก็ดีแล้ว กลับบ้านเถอะ!”
เมื่อกลับมาถึงบ้านตระกูลฉู่
ฉู่ลั่วก็เห็นชั้นสามที่เปลี่ยนไปราวกับพลิกแผ่นดิน! ห้องของเธอถูกตกแต่งใหม่ ในห้องแต่งตัวเต็มไปด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับจำนวนมาก ชั้นสามทั้งชั้นถูกแปลงโฉม
ซ่งเชียนหย่าเห็นแววตาตกตะลึงของฉู่ลั่ว ก็รู้สึกดีใจ แต่ก็ปวดใจไปพร้อมกัน “พี่ชายของลูกบอกว่าลูกเป็นลูกสาวของตระกูลฉู่ จึงต้องใช้ของที่ดีที่สุด ลูกวางใจได้ ของที่ใช้ตกแต่งห้องเป็นของอย่างดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แม้จะเป็นของที่นำมาตกแต่งใหม่ แต่ไม่มีผลกระทบต่อร่างกายแน่นอนจ้ะ”
“ห้องอื่น ๆ อีกหลายห้องก็จัดแจงเป็นระเบียบแล้ว มีทั้งห้องหนังสือ ห้องรับแขก ยังมีห้องว่างอีกสองสามห้อง ลูกตัดสินใจเองแล้วกันว่าอยากจะทำให้เป็นแบบไหน ทำได้ตามใจเลยนะ”
ฉู่เหว่ยฮ่าวเองก็พูดขึ้นว่า “พ่อกับแม่มีหลายอย่างที่ทำพลาดไป พ่อกับแม่ขอโทษนะลูก ต่อไปพวกเราจะปฏิบัติต่อลูกและหร่านหร่านอย่างเท่าเทียมกัน”
ฉู่ลั่วรู้สึกได้ว่าฉู่เหว่ยฮ่าวพูดออกมาจากใจจริง
ในใจของเธอเกิดความรู้สึกประหลาด ชาติก่อนจนกระทั่งตอนที่เธอตายไป คนตระกูลฉู่มีแต่ความรู้สึกเกลียดชังให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ!”