เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 54 ใกล้แค่เอื้อม
บทที่ 54 ใกล้แค่เอื้อม
เมื่อเปิดประตูออก ก็พบกับชายวัยกลางคนหน้าตาไม่มีพิษภัยคนหนึ่ง พร้อมกับรอยยิ้มซื่อ ๆ ของเขา “เถ้าแก่หมิง ผมได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณแล้ว ก็เลยไปที่สำนักเต๋าเพื่อหาคนมาช่วยทำนายให้”
“ปรมาจารย์ท่านนั้นบอกว่า ดวงชะตาของผมกับเถ้าแก่หมิงเข้ากันได้ดีมาก ผมสามารถช่วยเถ้าแก่หมิงตามหาเถ้ากระดูกบรรพบุรุษได้”
พูดจบ เขาก็ยิ้มใสซื่อให้คุณพ่อเจ้าของแอ็กเคานต์มลพิษทางอากาศ
หากไม่ใช่เพราะคำพูดของฉู่ลั่วที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ หมิงหัวคงเชื่อคำพูดอีกฝ่ายอย่างแน่นอน
ถึงอย่างไรพวกเขาสองคนก็โตมาด้วยกัน ทั้งยังอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน
และครั้งนี้… หากไม่ใช่เพราะต่งหวายโทรมาหาเขา เขาคงไม่รู้ว่าของในสุสานบรรพบุรุษของตนเองถูกขโมย และเถ้ากระดูกของบรรพบุรุษหายไปแล้ว
“บอกตั้งกี่ครั้งแล้ว ว่าอย่าเรียกเถ้าแก่หมิง เรียกฉันว่าหมิงหัวหรือหัวจื่อก็พอ” หมิงหัวเก็บความรู้สึกแปลก ๆ ไว้ในใจ และเชิญเพื่อนอย่างต่งหวายเข้ามาในบ้าน
หลังจากต่งหวายเข้ามาแล้ว ก็บอกเล่ารายละเอียดที่ปรมาจารย์เต๋าพูดเอาไว้
หมิงหัวได้ยินเพื่อนพูดด้วยความจริงใจ ก็รู้สึกละอายเล็กน้อยที่เมื่อครู่เกิดสงสัยในตัวอีกฝ่าย
เจ้าของแอ็กเคานต์มลพิษทางอากาศเองก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เขาเอาแต่มองไปยังโทรศัพท์มือถือ
ฉู่ลั่วออกความเห็น “เขาตามหากระดูกบรรพบุรุษของครอบครัวคุณได้จริงค่ะ แต่เขาไม่ได้ช่วยพวกคุณ เขาช่วยตัวเขาเองต่างหาก”
ต่งหวายได้ยินเสียงพูด ก็มองหมิงหัวด้วยความสงสัย
เมื่อหมิงหัวอธิบาย แววตาของผู้มาเยือนก็มืดครึ้มลงแวบหนึ่ง ก่อนจะกลับมายิ้มใสซื่ออีกครั้ง “หมิงอู่เอ๊ย นายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยทำไมถึงเชื่อเรื่องงมงายแบบนั้น? อะไรที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตน่ะ เชื่อถือไม่ได้หรอกนะ ปรมาจารย์ที่ฉันเชิญมา เป็นปรมาจารย์เต๋าที่มีชื่อเสียงมากในแถบนี้เชียวนะ”
เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าหากว่าเธอไม่เชื่อ ก็ให้เจ้าของช่องคนนี้ช่วยพวกเธอตามหาก็ได้ เพิ่มมาอีกคนก็ถือว่ามีกำลังในการตามหามากขึ้น”
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่น้ำเสียงของเขากลับบ่งบอกว่าหมิงอู่กำลังพูดไร้สาระ
หมิงอู่มองเจ้าของช่อง
ฉู่ลั่วจึงพูดว่า “ฉันช่วยพวกคุณตามหาได้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
“เดี๋ยวนี้?”
“ค่ะ”
คนตระกูลหมิงลุกขึ้น และมายืนล้อมโทรศัพท์มือถือ แม้กระทั่งต่งหวายก็ขยับเข้ามา เขาขมวดคิ้วมองสาวสวยบนหน้าจอโทรศัพท์
เมื่อทำตามคำแนะนำของฉู่ลั่ว สีหน้าของต่งหวายยิ่งย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ
จนกระทั่งเดินไปถึงภูเขาท้ายหมู่บ้าน ที่ปลายทางของถนนถูกปกคลุมด้วยพุ่มหนามซึ่งเดินผ่านได้ทีละคน มีถ้ำในภูเขาขนาดเล็กถ้ำหนึ่งปรากฏออกมา
ฉู่ลั่วเอ่ย “กระดูกอยู่ข้างในนั้นค่ะ”
หมิงหัวดึงลูกชายให้หลบ ส่วนตนเองถือไฟฉายเดินเข้าไปข้างในผ่านไปสิบกว่านาที ก็เดินออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา “หาเจอแล้ว ทั้งสามศพอยู่ในนี้หมดเลย!”
แม้จะพูดกันว่าคนตายก็เหมือนตะเกียงที่ดับแล้ว แต่ในฐานะคนรุ่นหลัง มาเห็นกระดูกบรรพบุรุษตัวเองถูกทิ้งกระจัดกระจายอยู่บนพื้นแบบนี้ แน่นอนว่าคงทำใจยอมรับไม่ได้
หมิงหัวมองไปที่กล้องของโทรศัพท์มือถือด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบคุณมากครับท่านปรมาจารย์ พรุ่งนี้ผมจะให้คนมานำกระดูกบรรพบุรุษกลับไปไว้ในหลุม”
คนตระกูลหมิงเดินทางกลับ และพูดคุยกันด้วยความโกรธ
หมิงอู่ยังคงเดือดดาลไปตลอดทาง “มันเป็นใครกันแน่นะ? ทำไมถึงได้ชั่วช้าขนาดนี้! ตระกูลหมิงของพวกเราช่วยซ่อมแซมถนนให้หมู่บ้าน แถมยังช่วยสร้างโรงเรียนประถมในตัวเมืองอีก ทำเรื่องดี ๆ มากมายขนาดนี้ กลับถูกใครไม่รู้มาขุดหลุมศพบรรพบุรุษ!”
หมิงหัวเองก็โกรธเช่นกัน แต่เขายังคงข่มความรู้สึกเอาไว้ได้ “กลับไปบ้านก่อนค่อยว่ากัน”
หลังกลับมาถึงบ้าน หมิงหัวก็นั่งลงบนโซฟา เขารับโทรศัพท์มือถือของหมิงอู่มา และถามเจ้าของช่องว่า “ท่านปรมาจารย์ คุณช่วยดูให้ได้ไหมครับว่าใครเป็นคนขโมยกระดูกในหลุมศพบรรพบุรุษของตระกูลเรา?”
“แล้วทำไมอีกฝ่ายต้องทำเช่นนี้”
ต่งหวายนั่งข้างหมิงหัวอย่างไม่สบายใจ ทันใดนั้นเขาก็เผลอสบตากับเธอเข้า
ฉู่ลั่วส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ “เหมือนอยู่ไกล แต่ที่จริงอยู่ใกล้แค่เอื้อม”
คนตระกูลหมิงเงียบงัน “…”
ชาวเน็ตอึ้งอยู่พักหนึ่ง “…”
[ให้ตายสิ เจ้าของช่องหมายความว่ายังไงนะ? โจรปล้นสุสานอยู่ตรงหน้านี่เองเหรอ?]
[คงไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดใช่ไหม! เป็นไปไม่ได้หรอก!]
คำพูดของฉู่ลั่วชัดเจนมาก ในบ้านหลังนี้นอกจากคนตระกูลหมิงแล้ว ก็มีคนนอกอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น
คนตระกูลหมิงหันไปมองต่งหวาย
ผู้มาเยือนได้ยินแบบนั้น ใบหน้าก็ซีดเผือด เขายิ้มแห้งและพูดตอบโต้ไปว่า “นี่ต้องเป็นพวกต้มตุ๋นแน่ จะเป็นฉันได้ยังไงล่ะ? หัวจื่อ นายลืมไปแล้วเหรอ พวกเราเล่นด้วยกันมาตั้งแต่ยังใส่กางเกงเปิดก้น*[1] เชียวนะ”
หมิงหัวเห็นท่าทางร้อนใจของอีกฝ่าย แล้วยังมีอะไรที่ไม่เข้าใจอีก ใบหน้าของเขาแดงจัดด้วยความโกรธทันที
“ใช่น่ะสิ! พวกเราเล่นด้วยกันมาตั้งแต่ยังใส่กางเกงเปิดก้น ลูกชายของแกอยากซื้อบ้านในตัวเมือง ฉันก็ออกเงินให้ เงินค่ารักษาพยาบาลของเมียแกก่อนหน้านี้ ฉันก็เป็นคนให้แกยืม แล้วไม่เคยทวงแกเลยด้วย”
“ต่งหวาย ทำไมแกถึงทำแบบนี้?”
หมิงหัวโกรธมาก เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ
ต่งหวายพูดแก้ตัวอยู่นาน แต่หมิงหัวยังไม่หายโกรธ
ต่งหวายจึงพูดด้วยความโมโหเช่นกัน “ตอนนี้นายเชื่อพวกต้มตุ๋นทางอินเทอร์เน็ต แต่ไม่เชื่อฉันที่โตมาด้วยกันกับนายเหรอ? หมิงหัว หลังจากนายมีเงิน นายก็เปลี่ยนไปแล้ว”
หมิงหัวหมดคำพูด “…”
น้ำเสียงชัดเจนของฉู่ลั่วดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ “ช่วงนี้คุณมักเจอเรื่องกวนใจเล็ก ๆ น้อย ๆ สินะคะ ดื่มชาก็ลวกปาก เดินไปไหนก็ล้ม กินข้าวก็กัดลิ้นตัวเอง… ใช่ไหมคะ?”
เธอเอ่ยถามต่งหวาย
แม้อีกฝ่ายไม่พูดอะไร แต่แววตาที่มองโทรศัพท์มือถือกลับแสดงความตกใจออกมา
“คนตายแม้จะกลับกลายเป็นฝุ่นผงกลับสู่แผ่นดิน แต่หลุมศพก็เป็นเหมือนบ้านของคนตาย คุณไปขุดบ้านคนอื่นเขา ทั้งยังขโมยของจากบ้านเขาไปอีก ที่ร้ายแรงที่สุดคือ คุณเอากระดูกไปทิ้งไว้ในที่หนาวเย็นไม่โดนแสงอาทิตย์”
“ลองคิดดูแล้วกัน กระดูกของวิญญาณที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ได้รับไอเย็นจากพลังหยินเข้ามา จะเกิดอะไรขึ้น?”
ต่งหวายเกิดอาการสั่นโดยไม่รู้ตัว เขามองซ้ายมองขวาอย่างหวาดผวา… รู้สึกเหมือนมีดวงตาที่น่าสะพรึงกลัวจ้องมองเขาอยู่ตลอดเวลา
[1] 开裆裤 กางเกงเปิดก้น เป็นกางเกงที่เด็กน้อยชาวจีนมักจะสวมใส่ เพื่อให้สะดวกในการเข้าห้องน้ำในช่วงหน้าหนาว