เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 55 หญิงชราผู้งดงาม
บทที่ 55 หญิงชราผู้งดงาม
หมิงหัวเห็นท่าทางเช่นนี้ของอีกฝ่ายก็เข้าใจทุกอย่าง “ถ้าแกไม่ได้เป็นคนทำ แกจะกลัวอะไร?”
ต่งหวายไม่พูดอะไรแล้ว
หมิงหัวถามด้วยความโกรธว่า “แกทำไปเพื่ออะไรกันแน่?”
ต่งหวายอ้าปากจะพูด แต่ก็อดทนเอาไว้
“ให้ข้าวหนึ่งถุงเป็นบุญคุณ ให้ข้าวหนึ่งกระสอบกลับกลายเป็นความแค้น”*[1] ฉู่ลั่วกล่าว
ความโกรธของหมิงหัวชะงักไป เขามองต่งหวายด้วยสายตาว่างเปล่า “เพราะครั้งก่อนที่แกมายืมเงินฉัน แล้วบอกว่าจะหย่ากับเมียไปแต่งกับผู้หญิงอายุน้อยกว่า แต่ฉันปฏิเสธน่ะเหรอ?”
มาถึงขั้นนี้แล้ว ต่งหวายรู้ว่าต่อให้ตนเองพูดจาเล่นลิ้นไป หมิงหัวก็ไม่เชื่ออยู่ดี
“ฉันขอยืมเงินนายแค่ล้านกว่าหยวนเท่านั้นเอง นายมีเงินเยอะจะตาย ขอยืมนิด ๆ หน่อย ๆ จะเป็นอะไร?”
“ฉันอยากเปลี่ยนเมียใหม่ไม่ได้เหรอ เมียนายเป็นคนสวยแถมยังเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ส่วนเมียฉันทั้งแก่ทั้งน่าเกลียด แล้วยังป่วยตลอดเวลา ฉันจะเปลี่ยนคนใหม่ไม่ได้หรือไง?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะนายไม่ให้ฉันยืมเงิน ฉันจะไปขุดหลุมศพบรรพบุรุษนายเหรอ?”
“เห็นแก่ที่เราโตมาด้วยกันหรอกนะ ฉันถึงไม่ขุดหลุมศพพ่อแม่และปู่กับย่าของนายขึ้นมาด้วย”
ต่งหวายยิ่งพูดก็ยิ่งเดือดดาล ยิ่งพูดนานก็ยิ่งหาเหตุผลมารองรับคำพูดของตน
ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่หมิงหัวไม่ยอมให้เขายืมเงิน!
เป็นคนรวยแท้ ๆ ขอยืมเงินสักนิดจะเป็นอะไรไป?
หมิงหัวมองใบหน้าของเพื่อนสนิทอย่างไม่เชื่อสายตา อีกฝ่ายมองเขาด้วยความเกลียดชัง
ในขณะที่หมิงอู่กระโจนเข้ามาด้วยความโกรธ เขาเกลียดจนอยากจะต่อยผู้ชายที่ไม่รู้จักบุญคุณคนนี้สักหมัด!
แต่พ่อกลับรั้งเขาไว้ แค่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วโทรแจ้งตำรวจ
เมื่อเห็นว่าหมิงหัวแจ้งตำรวจ ต่งหวายก็เบิกตากว้าง บนใบหน้าใสซื่อของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชัง “หมิงหัว! แกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า? พวกเราโตมาด้วยกัน แต่แกจะส่งฉันเข้าคุกเนี่ยนะ? แกทำแบบนี้ ต่อไปแกจะอยู่ในหมู่บ้านนี้ได้ยังไง?”
ต่งหวายตะโกนเสียงดัง ราวกับว่าตนเองเป็นผู้ถูกกระทำ
รอจนกระทั่งตำรวจมาถึง ต่งหวายยังคงร้องตะโกนไม่หยุด แต่ก็ถูกตำรวจพาตัวไปแล้ว
คนในหมู่บ้านได้ยินความเคลื่อนไหวก็ออกมาดู หลังรู้เรื่องราวทั้งหมด พวกเขาก็พูดเกลี้ยกล่อมหมิงหัว บอกว่าอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน อย่าทำให้เรื่องมันแย่เกินไปนัก
แต่หมิงหัวเล่าเหตุการณ์อย่างรวบรัดไม่กี่คำชาวบ้านก็สงบลง และความโกรธของชาวบ้านก็ตกไปอยู่ที่ตระกูลต่งแทน
ตอนที่ตำรวจมาถึงฉู่ลั่วเตรียมจะตัดการเชื่อมต่อ แต่ชาวเน็ตอยากเห็นเหตุการณ์หลังจากนั้น เธอจึงไม่ได้ตัดการเชื่อมต่อออกไป
ตอนนี้เรื่องราวคลี่คลายแล้ว เธอจึงตัดการเชื่อมต่อวิดีโอ
[ให้ตายสิ ก่อนหน้านี้คิดว่าเป็นเรื่องแฟนตาซี คิดไม่ถึงว่าจะเป็นรายการเกี่ยวกับกฎหมายไปได้]
[มีคนแบบนี้อยู่ด้วย คุณยิ่งดีกับเขามากเท่าไหร่ เขายิ่งได้คืบจะเอาศอก เมื่อไหร่ที่คุณไม่ดีกับเขา เขาก็จะเกลียดคุณ]
[นี่คือธรรมชาติของมนุษย์ยังไงล่ะ! อย่าประเมินธรรมชาติของมนุษย์ต่ำไป แต่ก็อย่าดูถูกธรรมชาติของมนุษย์เด็ดขาด!]
ฉู่ลั่วเห็นความคิดเห็นเหล่านี้ เธอก็พูดอย่างเห็นด้วยว่า “เราช่วยเหลือผู้คนได้ชั่วขณะหนึ่ง แต่ไม่สามารถช่วยได้ตลอดไป คำสอนของบรรพบุรุษมีเหตุผลมาก”
ผู้โชคดีสองคนก่อนหน้า ใช้เวลาไปประมาณสองชั่วโมงกว่า ฉู่ลั่วจึงไม่รอช้า รีบติดต่อไปหาผู้โชคดีคนที่สามทันที
เมื่อคนที่สามปรากฏตัว ชาวเน็ตก็พากันตะลึงไปพักหนึ่ง
คนคนนี้เป็นหญิงชราที่มีผมสีขาวโพลน และภาพด้านหลังเหมือนว่าหญิงชราจะอยู่ในห้องพักผู้ป่วย
[คุณยายทันสมัยมากเลย อยู่โรงพยาบาลก็ยังไม่ลืมดูไลฟ์สตรีม]
[ดูจากหน้าตาของคุณยายแล้ว สมัยสาว ๆ คงสวยมากแน่เลย]
[คุณยาย! อยู่โรงพยาบาลก็ต้องพักผ่อนให้มากนะ อย่าเอาแต่เล่นมือถือล่ะ]
หญิงชราผู้งดงามสวมแว่นตาเพื่ออ่านความคิดเห็นเหล่านั้น เธอหัวเราะอย่างใจดี ก่อนจะรีบยกมือขึ้นมาปิดปากไว้ เพราะกลัวจะทำให้คนข้างนอกห้องตกใจ
เธอพูดเสียงเบาว่า “ฉันไม่ได้กำลังเล่นนะ แต่เกิดเรื่องขึ้นกับฉันจริง ๆ ตอนแรกคิดว่าจะรอให้ออกจากโรงพยาบาลเสียก่อน แล้วค่อยหาปรมาจารย์สักคนมาดูให้ ใครจะไปรู้ว่าเปิดเข้ามาในนี้แล้วจะเจอช่องแนะนำ”
แม้ว่าหญิงชราผู้งดงามจะอายุมากแล้ว แต่ก็ดูออกว่าสภาพจิตใจของเธอดีมาก พูดจาคล่องแคล่ว ดูไม่เหมือนคนที่ต้องนอนโรงพยาบาลสักนิด
ฉู่ลั่วมองอีกฝ่ายครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “คุณเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่เสียไปตั้งแต่ยังเด็ก พอเข้าสู่วัยกลางคนสามีก็เสียชีวิต แต่คุณมีทั้งลูกชายลูกสาว ลูกหลานก็กตัญญูรู้คุณ ชีวิตในวัยชราของคุณมีแต่ความสุขสบายใช่ไหมคะ”
หญิงชราผู้งดงามยิ้มเล็กน้อย “เธอพูดได้ถูกต้อง ถึงชีวิตก่อนหน้านี้จะไม่ราบรื่นนัก แต่นั่นก็เป็นอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว”
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นคนใจกว้าง และหัวก้าวหน้า
ฉู่ลั่วถามเธอว่า “ไม่ทราบว่าคุณอยากฟังเรื่องราวอะไรเหรอคะ?”
ตอนนี้ผู้ชมในห้องไลฟ์สตรีมต่างก็ทราบดีแล้วว่าเธอสตรีมเกี่ยวกับโหราศาสตร์ แต่ยังต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของแพลตฟอร์ม
ถ้าถูกแก้ไขทั้งหมด แบบนั้นก็จบกันพอดี
ก่อนทำการไลฟ์สตรีม ฉู่ลั่วทำความเข้าใจกฎของแพลตฟอร์มมาอย่างดีแล้ว
หญิงชราผู้งดงามยื่นหน้าเข้ามาใกล้กล้อง เธอเบาเสียงลง แล้วกระซิบว่า “ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้ฉันถูกสิ่งสกปรกอะไรตามรังควานอยู่หรือเปล่า?”
ฉู่ลั่วกล่าว “ไม่มีค่ะ พลังงานรอบตัวคุณใสสะอาดมาก ต่อให้มีสิ่งชั่วร้ายอะไร ก็ไม่สามารถเข้าใกล้คุณได้”
หญิงชราผู้งดงามขมวดคิ้ว “แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ?”
แต่เด็กสาวรีบพูดเข้าประเด็น “คุณช่วยบอกหน่อยค่ะว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
อีกฝ่ายขมวดคิ้ว “เป็นแบบนี้จ้ะ ลูกชายของฉันบ่มไวน์เอง หลังจากที่ฉันดื่มเข้าไป ก็อาเจียนและท้องเสีย เลยต้องนอนโรงพยาบาล”
“อยู่ที่โรงพยาบาลได้สองวัน ลูกสะใภ้กลัวว่าฉันจะเบื่อเลยมาอยู่เป็นเพื่อน แล้วก็เอาสำลีมาแคะหูให้ฉันด้วย แต่ก้อนสำลีมันร่วงเข้าไปในหู ฉันเลยถูกส่งไปที่แผนกหูคอจมูก”
“ลูกสาวของฉันคิดว่าลูกชายกับลูกสะใภ้ดูแลฉันไม่ดี เธอเลยมาดูแลฉันด้วยตัวเอง เธอต้มซุปปลามาให้ฉัน ใครจะรู้ว่าในน้ำซุปนั้นมีก้างปลาอยู่ เพราะก้างปลาติดคอฉันเลยถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง”
“ต่อมาลูกเขยคิดว่าพวกเขาไม่ใส่ใจฉัน เขาเลยตัดสินใจมาดูแลฉันด้วยตัวเอง แต่สุดท้าย ตอนที่เขาผัดกับข้าว ดันผัดถั่วแขกไม่สุกดี ฉันเลยมีอาการอาหารเป็นพิษ ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลอีกรอบ”
[1] ให้ข้าวหนึ่งถุงเป็นบุญคุณ ให้ข้าวหนึ่งกระสอบกลับกลายเป็นความแค้น เป็นสำนวนหมายถึงการช่วยเหลือคนเล็กน้อย อีกฝ่ายจะรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณ แต่หากช่วยเหลือสม่ำเสมอจนกลายเป็นความเคยชิน วันใดไม่ได้รับความช่วยเหลืออีกแล้ว ก็จะรู้สึกแค้น