เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 59 ตายอย่างโดดเดี่ยว
บทที่ 59 ตายอย่างโดดเดี่ยว
คนในครอบครัวยืนล้อมรอบตัวหลี่ว์ฉ่าย โดยไม่สนเลยว่าหญิงชราจะมีโชคชะตาที่ยากลำบากแบบไหน
ฉู่ลั่วเห็นภาพนั้น พร้อมทั้งใบหน้ายิ้มแย้มอันเปี่ยมไปด้วยความรักของหลี่ว์ฉ่าย เธอก็ยิ้มออกมา
“ท่านปรมาจารย์ คุณยายของผมมีชะตาแบบที่คุณบอกจริงเหรอครับ?” เซินข่ายรีบถาม
ฉู่ลั่วพยักหน้า “ใช่”
“แต่ว่าเราเป็นครอบครัวใหญ่…”
หลี่ว์ฉ่ายมีญาติทางสายเลือดเยอะขนาดนี้ ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนคนที่มีชะตาต้องตายอย่างโดดเดี่ยวเลย
ฉู่ลั่วเอ่ย “เมื่อครู่นี้ฉันลองคำนวณดูอีกครั้ง หลังจากคุณเกิดมาโชคชะตาก็ถูกเปลี่ยนแปลงโดยปรมาจารย์คนหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงโชคชะตาถือเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างยิ่งในลัทธิเต๋า แต่อีกฝ่ายมีฝีมือสูงส่งมาก สามารถปิดบังสวรรค์ และช่วยเหลือเด็กผู้หญิงไว้ได้ถึงสองคน แต่ว่าเขาทำสำเร็จแค่คนละครึ่งเท่านั้น”
หลี่ว์ฉ่ายเอ่ยเป็นนัยคำถาม “เด็กผู้หญิงสองคนหรือคะ?”
เด็กสาวพยักหน้า “ดวงชะตาของคุณอยู่ในธาตุไม้ ส่วนคนที่เปลี่ยนแปลงดวงชะตากับคุณ เกิดในธาตุดิน ตามดวงชะตาของเธอคนนั้น เธอต้องประสบความยากลำบากในชีวิต ต้องเจอสามีที่ไม่ดี และเพราะเป็นคนนิสัยดื้อรั้น จึงมักจะถูกหลอกเสมอไม่ว่าจะในด้านความสัมพันธ์หรือด้านการแต่งงาน สุดท้ายจะต้องตายเพราะความยากลำบากและความรุนแรงในครอบครัว”
เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ หลี่ว์ฉ่ายจึงรีบถามว่า “ถ้าอย่างนั้นหลังจากเปลี่ยนดวงชะตาแล้ว เธอ…”
“คุณธาตุไม้ เธอธาตุดิน ไม้เจอกับดินเท่ากับมีที่ให้รากได้พึ่งพาอาศัย ดินเจอกับไม้เท่ากับชีวิตเจริญรุ่งเรือง พวกคุณเติมเต็มซึ่งกันและกัน หลังจากชะตาเปลี่ยนไปแล้ว คุณถึงได้มีลูกหลานมากมาย ส่วนเธอก็ร่ำรวยมีแต่โชคลาภ”
หลี่ว์ฉ่ายถอนหายใจ “แบบนี้ก็ดีแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย”
เมื่อคืนวานนี้เธออยู่ไม่สุขเลยทั้งคืน!
เพราะกลัวว่าหลังจากเปลี่ยนชะตากันแล้ว อีกฝ่ายจะต้องตายอย่างโดดเดี่ยวแทนเธอ
หยางฮุ่ยถามด้วยความสงสัย “ท่านปรมาจารย์ ถ้าหลังจากเปลี่ยนดวงชะตาแล้วกลายเป็นเรื่องดีอย่างที่คุณพูด แล้วทำไมจู่ ๆ คุณแม่ของฉันถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะคะ”
“เพราะดวงชะตาเดิมของเธอปรากฏออกมาค่ะ”
เซินข่ายกระวนกระวาย “ทำไมดวงชะตาเดิมของคุณยายถึงปรากฏออกมาล่ะครับ?”
ทุกคนกำลังพูดคุยปรึกษากัน แต่หลี่ว์ฉ่ายกลับไม่พูดอะไรเลย
สุดท้ายเธอยกมือเพื่อเป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบ ก่อนจะมองฉู่ลั่วด้วยท่าทางสงบ และเอ่ยถามว่า “เพราะอีกฝ่ายใกล้หมดอายุขัยแล้วใช่ไหมคะ?”
ฉู่ลั่วพยักหน้า
หลี่ว์ฉ่ายเข้าใจบางอย่างแล้ว ตอนนี้เธออายุเกือบจะแปดสิบ อีกฝ่ายเองก็คงอายุไม่ต่างจากเธอสักเท่าไหร่
ในวัยขนาดนี้ ก็เป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้ว
“ท่านปรมาจารย์ หากอีกฝ่ายเสียชีวิต โชคชะตาของคุณแม่ฉันก็จะกลับคืนมาเป็นเหมือนเดิมอย่างสมบูรณ์ใช่ไหมคะ?” หยางฮุ่ยจับมือมารดาของตนไว้ พร้อมกับเอ่ยถาม
“ใช่ค่ะ ถ้าอีกฝ่ายเสียชีวิต คนตายก็เหมือนตะเกียงที่ดับแล้ว ดวงชะตาของเธอก็จะหายไปตามธรรมชาติ ดังนั้นชะตาที่เปลี่ยนแปลงไปก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเช่นกันค่ะ”
ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายป่วยหนักในวัยชรา หลี่ว์ฉ่ายถึงได้ประสบอุบัติเหตุครั้งแล้วครั้งเล่า
ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังจะตาย ดวงชะตาของหลี่ว์ฉ่ายจึงเริ่มส่งผลกระทบต่อลูกหลานแล้ว
หญิงชราปลงตกแล้ว เธอโบกมือเบา ๆ “ฉันอายุมากขนาดนี้แล้ว ใช้ชีวิตพอแล้วล่ะ ท่านปรมาจารย์ หลังจากนี้ขอเพียงฉันไม่ยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของฉัน ก็จะไม่มีผลกระทบอะไรต่อพวกเขาใช่ไหมคะ?”
ดวงชะตาเดิมของเธอ คือต้องแก่ตายไปอย่างโดดเดี่ยว
แค่ตายอย่างโดดเดี่ยวตามโชคชะตากำหนดไว้ก็พอแล้ว
ขอแค่ไม่ส่งผลกระทบต่อลูกหลาน…
หยางฮุ่ยขอบตาแดง “แม่คะ แม่พูดอะไรน่ะ! พวกเราจะไม่สนใจแม่ได้ยังไงคะ!”
“ใช่ครับคุณยาย ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ?”
“คุณย่า คุณย่าบอกว่าอยากเห็นหนูแต่งงานไม่ใช่เหรอคะ? จะไม่รักษาสัญญาเหรอคะ?”
คนตระกูลหลี่ว์เข้ามาล้อมหลี่ว์ฉ่ายไว้ พยายามพูดเกลี้ยกล่อมเธอ
เซินข่ายที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วเช็ดน้ำตา เขาสะอื้นขณะมองไปทางฉู่ลั่ว “ท่านปรมาจารย์ ขอแค่คุณช่วยคุณยายของผมได้ เงินเท่าไหร่ผมก็จ่ายให้ได้”
“ใช่ค่ะ ๆๆ ท่านปรมาจารย์ ต้องการเงินเท่าไหร่ก็ได้ค่ะ!”
“คุณบอกจำนวนเงินมาได้เลย พวกเราต้องรวบรวมสมบัติอะไรไปขายก็จะทำค่ะ!”
ฉู่ลั่วพูดออกมาเบา ๆ “หนึ่งแสน…”
“…”
ทั้งห้องรับแขกเงียบไปชั่วขณะ
เซินข่ายเบิกตากว้าง หายใจถี่ขึ้น “ท่านปรมาจารย์ คุณบอกว่าหนึ่งแสนเหรอ? แค่หนึ่งแสนก็ช่วยชีวิตคุณยายของผมได้แล้วเหรอ?”
ฉู่ลั่วพยักหน้า
เซินข่ายรีบควักโทรศัพท์มือถือออกมา เตรียมกดโอนเงิน
แต่หยางหงผลักเขาออกไป “ยังไม่ถึงตานายออกเงินหรอกนะ ฉันจ่ายเอง!”
เขาควักโทรศัพท์มือถือออกมาโอนเงินให้ฉู่ลั่วหนึ่งแสน
ฉู่ลั่วได้รับเงินแล้ว ก็ให้พวกเขาเตรียมตุ๊กตาผ้ามาหนึ่งตัว
เธอหยิบสีชาดขึ้นมาเขียนดวงชะตาลงบนกระดาษยันต์สีเหลือง ก่อนจะยัดแผ่นยันต์เข้าไปในตัวตุ๊กตา เธอบอกกับคนตระกูลหลี่ว์ว่า “ตอนนี้ดวงชะตาของคุณได้เปลี่ยนกับตุ๊กตาผ้าตัวนี้แล้ว ถึงจะดีไม่เท่าคนจริง ๆ แต่ก็ทำให้คุณได้ใช้ชีวิตและตายไปอย่างสงบในบ้าน โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อลูกหลานของตัวเอง”
หยางฮุ่ยได้ยินเช่นนั้น ก็รีบหยิบตุ๊กตามาให้คำสัญญา “ฉันจะปกป้องตุ๊กตาตัวนี้อย่างดีค่ะ”
เด็กสาวพยักหน้า ทำให้ปัญหาคลี่คลายไปราวกับสายลมพัดผ่าน
ฉู่ลั่วแก้ปัญหาของบ้านตระกูลหลี่ว์ได้แล้ว ก็พาพวกซ่งจือหนานออกมา
ทุกคนในตระกูลหลี่ว์ออกมาส่งแขกขึ้นรถกันพร้อมหน้า ยืนรักษาท่าทีกันเต็มที่เพื่อแสดงความเคารพ ราวกับขบวนทางศาสนาอะไรสักอย่าง
ซ่งจือหนานมองภาพในกระจกมองหลัง และพูดอย่างซาบซึ้งใจ “พวกเขายืนส่งพวกเราจนลับสายตาอย่างกับมาส่งเจ้านิกายใหญ่เลยนะครับ”
ซ่งเชียนหย่าถอนหายใจ “พูดอะไรก็ไม่รู้ เพราะลั่วลั่วช่วยครอบครัวพวกเขาไว้ ทำให้พวกเขาไม่ต้องแยกจากกัน ให้คนแก่ไม่ต้องอยู่ลำพังยังไงล่ะ”
หากลั่วลั่วไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย หญิงชราคงตัดสินใจจากลูกหลานไป และถ้าลูกหลานยืนกรานว่าจะอยู่ข้างกายเธอ หญิงชราอาจจะเลือกใช้วิธีการที่สุดโต่งก็เป็นได้ ลั่วลั่วทำเพื่อไม่ให้ลูกหลานครอบครัวนี้ต้องลำบากและเผชิญเรื่องน่าเศร้าตามไปด้วย
ซ่งเชียนหย่าหันไปมองฉู่ลั่วที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ในใจเกิดความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา
นี่คือลูกสาวของฉัน… ลูกสาวแท้ ๆ ที่อุ้มท้องมา
ลูกสาวฉันเก่งขนาดนี้เชียว แถมยังจิตใจดีมากอีกด้วย
นี่ลูกสาวฉันเอง!
รู้ตัวอีกที ซ่งเชียนหย่าก็เผยรอยยิ้มออกมาแล้ว