เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 60 ทำไมต้องรับเงิน
บทที่ 60 ทำไมต้องรับเงิน
“พี่ลั่วครับ เมื่อกี้ตอนเดินออกมา คุณพูดอะไรกับคุณยายคนนั้นเหรอ? ผมเห็นขอบตาคุณยายเขาแดง ๆ เหมือนจะร้องไห้แล้ว”
ตอนที่ฉู่ลั่วกำลังจะออกจากบ้านตระกูลหลี่ว์ เธอได้พูดบางอย่างกับอีกฝ่าย
เขาสงสัยก็เลยแอบมองอยู่หลายครั้ง และเห็นว่าหลังจากฉู่ลั่วพูดกับหลี่ว์ฉ่าย หญิงชราก็เช็ดน้ำตาไม่หยุด
ซ่งเชียนหย่าก็สงสัยเช่นกัน “ใช่แล้ว หนูพูดอะไรเหรอ?”
ฉู่ลั่วกล่าว “หนูบอกไปว่า พ่อแม่ของเธอไม่ได้ทอดทิ้งเธอ แต่ตามหาเธอมาตลอดหลายปีค่ะ”
“ตอนนั้นในประเทศเกิดความวุ่นวาย เธอกับเด็กอีกคนที่แลกเปลี่ยนโชคชะตากัน ถูกเลี้ยงดูมาด้วยกันในชนบท หลังจากเธอถูกขโมยไป ก็ถูกส่งต่อไปหลายมือ จนมาถึงมือพ่อแม่บุญธรรม”
นี่ก็ถือเป็นชะตากรรมของหลี่ว์ฉ่าย
หลี่ว์ฉ่ายสูญเสียความรักจากพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด และถูกพ่อบุญธรรมทุบตีด่าทอมาจนโต
ส่วนเด็กอีกคนที่เปลี่ยนโชคชะตากัน เป็นเพราะเธอรอดกลับมาคนเดียว ตั้งแต่เด็กจนโตจึงต้องเผชิญหน้ากับพ่อแม่ที่ทะเลาะกันไม่หยุด และเอาแต่คิดถึงเด็กอีกคนหนึ่ง
นี่คือชะตากรรมที่พวกเขาต้องเจอหลังจากเปลี่ยนแปลงโชคชะตา
ปิดบังสวรรค์… ย่อมถูกสวรรค์เอาคืน
พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของหลี่ว์ฉ่าย จนกระทั่งวันตายก็ยังไม่เคยได้เจอหน้าลูกสาว
เมื่อฟังที่ฉู่ลั่วพูดจบ ซ่งจือหนานกับซ่งเชียนหย่าก็เงียบไป
ซ่งเชียนหย่าถอนหายใจ “หวังว่าคุณยายเขาจะมีโอกาสได้ไปจุดธูปให้พ่อแม่นะ พวกเขาจะได้หมดห่วง และพักผ่อนอย่างสงบ”
ฉู่ลั่วเอ่ย “ต้องแล้วแต่ความต้องการของเธอค่ะ”
จะไปหรือไม่ไป ล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหลี่ว์ฉ่าย
ซ่งจือหนานขับรถไปส่งพวกฉู่ลั่วที่บ้าน ก่อนขับรถออกไป
เมื่อฉู่ลั่วกลับขึ้นไปที่ชั้นสาม ซ่งเชียนหย่าก็ควักโทรศัพท์มือถือออกมา โทรหาฉู่เหว่ยฮ่าวอย่างกระตือรืนร้น “เหล่าฉู่ คุณอยากรู้ไหมว่าเรื่องของคุณยายคนนั้นเป็นยังไงบ้าง!?”
เธอพยายามข่มน้ำเสียงตื่นเต้นไว้ แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดออกมา
ตอนเย็นเมื่อฉู่เหิงกลับมา ซ่งเชียนหย่าก็เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงประทับใจอีกรอบ
ฉู่เหิงยื่นมือออกไปลูบศีรษะของฉู่ลั่ว “ลั่วลั่วเก่งมากจริง ๆ”
ฉู่ลั่วเงียบงัน “…”
เธอไม่ใช่เด็กแล้ว ทำไมต้องใช้น้ำเสียงกล่อมเด็กมาพูดกับเธอด้วย?
ซ่งเชียนหย่ากำลังจะให้คนยกอาหารออกมา แต่ฉู่หร่านก็กลับมาเสียก่อน
เมื่อเข้ามา เด็กสาวก็เข้าไปขอโทษฉู่ลั่ว “ลั่วลั่ว ขอโทษนะ เมื่อวานเชี่ยนเชี่ยนโทรมาหาฉันแล้วร้องไห้หนักมาก ฉันเลยไม่ได้อยู่ทานข้าวด้วย เธอไม่โกรธฉันใช่ไหม?”
เธอจับมือน้องสาวเอาไว้ และมองฉู่ลั่วอย่างน่าสงสาร
ฉู่ลั่วพูดเสียงเรียบ “ไม่โกรธหรอก”
และไม่มีอะไรให้โกรธด้วย
ฉู่หร่านเงียบลง “…”
เธอสำลักไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดขอโทษอย่างออดอ้อนกับพวกฉู่เหว่ยฮ่าวที่ทำตัวไม่ดี
แค่ออดอ้อนสักครั้ง พวกฉู่เหว่ยฮ่าวก็ไม่ถือสาอะไรแล้ว เพียงแค่จ้องมองเธอ แล้วพูดว่า “ครั้งนี้ช่างเถอะ แต่ครั้งหน้าถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ต้องบอกพวกเราก่อนนะ”
ฉู่หร่านทำหน้ามุ่ยพร้อมกับพยักหน้า “รู้แล้วค่ะ คุณพ่อตัวเหม็น!”
เธอหันไปจับแขนของซ่งเชียนหย่า “คุณแม่ตัวหอมที่สุดเลย หนูรักคุณแม่มากที่สุด”
ซ่งเชียนหย่าได้ฟังแบบนี้ก็ยิ้มออกมา เธอจับมือฉู่หร่านไว้และเล่าเรื่องของคุณนายหลี่ว์อีกครั้ง
สุดท้ายก็พูดอย่างประทับใจว่า “ลั่วลั่วเก่งมากเลย”
ฉู่หร่านพูดไม่ออก “…”
ทำไมเธอออกจากบ้านไปแค่วันเดียว ซ่งเชียนหย่าถึงเอาแต่พูดชื่อฉู่ลั่ว
ฉู่ลั่วเก่งอย่างนั้นอย่างนี้!
ฉู่ลั่วจิตใจดีมาก!
ฉู่หร่านเอนหัวซบไหล่ซ่งเชียนหย่า แล้วถามด้วยความประหลาดใจว่า “ลั่วลั่ว ตระกูลฉู่ของพวกเราไม่ได้ขาดเงินนะ ในเมื่อจะทำความดี ทำไมต้องรับเงินด้วยเหรอ? ถ้าเธอมีเงินไม่พอใช้ก็บอกฉันหรือบอกคุณพ่อคุณแม่ก็ได้นี่”
ห้องอาหารที่กำลังครึกครื้นเงียบลงทันที
ความหมายในคำพูดของเธอ คือฉู่ลั่วนั้นตกต่ำ แม้แต่เงินแค่แสนเดียวก็เอา
ฉู่ลั่วดึงเก้าอี้แล้วนั่งลงไป “คนเปิดเผยความลับสวรรค์ต้องถูกผลสะท้อนกลับ ที่ต้องรับเงินมาก็เพื่อเปลี่ยนเป้าหมายให้คนท้าทายสวรรค์คือฉันแทน ไม่ให้พวกเขาถูกลูกหลงไปด้วย และให้ฉันเป็นฝ่ายแก้ไขผลสะท้อนกลับที่จะตามเอาคืน ดีกว่าให้มันไปตกอยู่กับพวกเขา”
ฉู่หร่านเงียบลงไป “…”
ซ่งเชียนหย่าตบมือเธอเบา ๆ และพูดชี้แนะว่า “หร่านหร่าน เรื่องพวกนี้ลูกไม่เข้าใจ ก็อย่าพูดออกมาเลยนะ”
พูดจบ เธอก็มองไปที่ฉู่ลั่วด้วยความกังวล “ทัณฑ์สวรรค์นี้มีผลกระทบต่อหนูหรือเปล่า? มันจะทำร้ายหนูไหม”
ฉู่เหิงกับฉู่เหว่ยฮ่าวก็มองลูกสาวแท้ ๆ อย่างประหม่า
ฉู่ลั่วส่ายหน้า “ผลสะท้อนกลับและโอกาสเป็นของคู่กันค่ะ หนูทำความดี ย่อมไม่ได้รับผลสะท้อนกลับอยู่แล้ว กลับกันมันจะช่วยให้พลังของหนูแกร่งกล้าขึ้น”
ทุกคนพากันโล่งใจ
ฉู่หร่านปิดปากขำเรื่องงมงาย “แบบนั้นก็ดีแล้ว ต่อไปต้องขอให้ลั่วลั่วช่วยฉันบ้างแล้ว”
ฉู่ลั่วเหลือบมองเธอ “ถ้าฉันยื่นมือเข้าไป แสดงว่าเธอต้องเจอเรื่องไสยศาสตร์ หรือไม่ก็เรื่องไม่ดี อยากให้ฉันช่วยเธอจริงเหรอ?”
ฉู่หร่านเงียบงัน “…”
ฉู่เหว่ยฮ่าวยิ้มอย่างใจดี “ทางที่ดี ชั่วชีวิตนี้หร่านหร่านอย่าให้ลั่วลั่วช่วยเลยดีกว่า ฮ่า ๆๆ!”
ฉู่หร่านพยายามยกมุมปากขึ้น เพื่อดึงรอยยิ้มแห้ง ๆ ออกมา
แต่หางตากลับชำเลืองมองฉู่ลั่ว ก่อนจะสบเข้ากับดวงตาฉู่ลั่วเข้า ทำเอาเธอตกใจจนต้องรีบเบือนสายตาหนี
เกิดอะไรขึ้น?
แววตาของฉู่ลั่วทำให้คนมองตกใจขนาดนี้เชียว?
คนที่วัน ๆ เอาแต่ยุ่งเกี่ยวกับไสยศาสตร์ ไม่แปลกใจเลยที่แววตาจะมืดมนแบบนี้
พ่อกับแม่ยังให้ฉู่ลั่วอยู่ในบ้านตระกูลฉู่ ไม่กลัวจะแปดเปื้อนอวิชาพวกนั้นหรือไง?
แต่จะว่าไปแล้ว …คงเป็นเพราะฉู่ลั่วคือลูกสาวแท้ ๆ
ฮึ! เข้าใจแล้ว
พอฉู่ลั่วกลับมา ตระกูลฉู่ก็ไม่มีที่สำหรับเธอแล้ว
พ่อบ้านหยางเดินเข้ามาบอกกับฉู่หร่าน “คุณหนูหร่านหร่าน เพราะไม่ทราบว่าวันนี้คุณหนูจะกลับมาทานมื้อเย็นที่บ้าน ห้องครัวเลยไม่ได้เตรียมรังนกไว้ให้คุณหนูดื่มครับ”
ฉู่หร่านได้ยิน ก็ส่งเสียงฮึออกมา “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่กินแล้ว!”
เธอทิ้งตะเกียบแล้วเดินขึ้นข้างบน
ซ่งเชียนหย่าถอนหายใจ พลางหันไปพูดกับพ่อบ้านหยางอย่างช่วยไม่ได้
“ให้ห้องครัวเตรียมรังนกอีกหนึ่งที่ส่งไปให้เธอข้างบน แล้วครั้งหน้าอย่าลืมอีกล่ะ”