เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 62 ว่างเปล่า
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ฉู่ลั่ว
ฉู่หร่านมองมาอย่างได้ใจ แต่กลับเห็นว่าสีหน้าของฉู่ลั่วยังคงเรียบเฉย ไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย
ฉู่ลั่วพูดอย่างใจเย็นว่า “ฉันเก็บวิญญาณสองดวงมาไว้ที่บ้านจริง แต่พวกเขาไม่ใช่วิญญาณร้าย”
“อะไรนะ! ลั่วลั่ว ทำไมเธอถึงทำแบบนี้!” ฉู่หร่านตะโกนเสียงดัง “เธอเลี้ยงตัวแบบนั้นไว้ในบ้านได้ยังไง? ฉันได้ยินมาว่ามันส่งผลกระทบต่อคนที่ยังมีชีวิตนะ”
เธอพูดในขณะที่ขอบตาแดงก่ำ “หรือเธอไม่กังวลเลยว่าจะส่งผลกระทบต่อร่างกายของคุณพ่อคุณแม่?”
ชื่อหยางก็พยักหน้าแล้วกล่าวเสริม “ถูกต้อง วิญญาณร้ายพวกนี้พลังหยินรุนแรง ย่อมส่งผลกระทบต่อมนุษย์ที่มีพลังหยาง อย่างเบาก็เจ็บป่วยหรือดวงซวย อย่างหนักก็ถึงแก่ชีวิต”
ได้ยินแบบนี้ สีหน้าของคนตระกูลฉู่ก็เปลี่ยนไป
โดยเฉพาะฉู่หร่าน เธอรีบดึงซ่งเชียนหย่าออกห่างจากฉู่ลั่ว
ฉู่เหิงเก็บสีหน้าตกใจไว้ เขาถามน้องสาวแท้ ๆ “ลั่วลั่ว อธิบายมาหน่อยได้ไหม”
เห็นได้ชัดว่าเขาเชื่อในตัวน้องสาวของตนเอง และไม่เชื่อชื่อหยางที่เป็นคนนอก!
ฉู่ลั่วคิดไม่ถึงว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้แล้ว ฉู่เหิงจะยังปกป้องเธออยู่
เดิมทีเธอไม่อยากอธิบายอะไร แต่เมื่อเห็นสายตาของพี่ชายใหญ่ เธอก็เริ่มพูดออกมา “ในสถานการณ์ปกติ มีวิญญาณเร่ร่อนมาวนเวียนรอบตัวก็ต้องส่งผลกระทบกับคนเป็นอยู่แล้วค่ะ แต่วิญญาณสองดวงที่หนูเก็บกลับมา ไม่ใช่ผีเร่ร่อนที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น”
“อีกอย่าง หนูชำระล้างวิญญาณให้พวกเขาตลอด ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับคนเป็นแน่นอนค่ะ”
พูดจบ เธอก็ถามอีกว่า “ช่วงนี้ทุกคนเจอเรื่องโชคร้ายอะไรหรือเปล่าล่ะคะ?”
ซ่งเชียนหย่าครุ่นคิด แล้วส่ายหน้า
ฉู่เหิงกับฉู่เหว่ยฮ่าวก็ส่ายหน้าเช่ากัน “วันนี้พวกเราเพิ่งเซ็นสัญญารายใหญ่ไป… ใหญ่ขนาดที่สามารถขยายอาณาจักรของตระกูลฉู่ไปได้อีกไกลเชียวละ”
ฉู่เหิงพูดเช่นนี้ ฉู่เหว่ยฮ่าวก็พยักหน้า “ไม่ใช่แค่ไม่มีโชคร้ายนะ แต่ยังเจอเรื่องดี ๆ เข้ามาเยอะมาก”
หลายโครงการในกลุ่มธุรกิจได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และความสัมพันธ์ระหว่างฉู่ลั่วกับพวกเขาก็ดีขึ้นด้วย
เขาคิดได้แบบนี้ ก็ขมวดคิ้วมองชื่อหยาง คิดว่าอีกฝ่ายเป็นพวกต้มตุ๋นหลอกลวง
แต่ฉู่หร่านกลับพูดขึ้นว่า “ช่วงนี้หนูเจอเรื่องโชคร้ายหลายเรื่องเลยค่ะ!”
ทุกคนมองไปที่เธอ
ฉู่หร่านพูดไปพลางนับนิ้วไปพลาง “บทนางเอกที่ไปเทสต์หน้ากล้องก็ไม่ได้ ขึ้นฮอตเสิร์ชก็ถูกดันลงมา แถมยังถูกปาปาราซซีถ่ายรูปอีก”
ที่สำคัญที่สุดก็คือ…
เธอมองฉู่ลั่ว
ช่วงนี้เริ่มจากฉู่เหิง ตอนนี้ยังมีฉู่เหว่ยฮ่าวกับซ่งเชียนหย่าด้วย พวกเขาดีกับฉู่ลั่วมากกว่าเธอ!
นี่คือเรื่องที่โชคร้ายที่สุด
เธอไม่ใช่เจ้าหญิงน้อยของตระกูลฉู่อีกแล้ว!
แต่คำพูดพวกนี้ ฉู่หร่านพูดออกไปไม่ได้
หลังจากซ่งเชียนหย่าได้ยินก็ถามด้วยความสงสัย “นี่มันเรื่องปกติในวงการบันเทิงไม่ใช่เหรอ? ก่อนหน้านี้ลูกก็เคยเจอมาบ่อย ๆ ไม่ใช่เหรอจ๊ะ?”
ทุกครั้งที่ฉู่หร่านเสียใจ มักจะกลับมาบ่นให้เธอฟังอยู่เสมอ
ผู้เป็นแม่จำได้ขึ้นใจ ตอนที่ฉู่ลั่วยังไม่กลับมา ฉู่หร่านก็เจอเรื่องแบบนี้บ่อย ๆ
ฉู่หร่านแก้ตัว “…แม่คะ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน”
แต่ไม่เหมือนกันตรงไหน เธอกลับพูดออกมาไม่ได้
ชื่อหยางเห็นว่าฉู่ลั่วพูดไม่กี่คำ คนตระกูลฉู่ก็ยอมแล้ว สีหน้าจึงเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้น ดวงตาเฉียบคมกวาดมองโดยรอบ สีหน้าของเขาเย็นชาขึ้น “สหายน้อย เธอจะดื้อดึงใช่ไหม?”
ฉู่ลั่วยิ้มเยาะ “คุณต่างหากที่ดื้อดึง พวกเขาได้รับความอยุติธรรมมากมาย แต่วิญญาณยังคงใสสะอาด ยังคงรักษาจิตใจเอาไว้ได้ แต่คุณกลับคิดจะกำจัดพวกเขาเพราะความเห็นแก่ตัว คุณเข้าใจในลัทธิเต๋าผิดไปแล้ว ไม่มีทางบำเพ็ญตบะในเส้นทางของเต๋าได้หรอก”
นักพรตโกรธขึ้นมาทันที “ปากดีนักนะ กลับดำเป็นขาวได้เก่งจริง ๆ ถ้าปล่อยให้เธอบำเพ็ญต่อไป ไม่รู้จะไปทำร้ายคนอีกเท่าไหร่ วันนี้ฉันจะทำการชำระล้างวิถีแห่งเต๋าแทนทุกคนเอง”
เขากวาดฝุ่นในอากาศ แล้วให้มันพุ่งเข้าไปหาฉู่ลั่ว
ฝุ่นผงที่ราวกับเข็มนับหมื่นนับพันเล่มพุ่งเข้าใส่เธอ
ตอนที่ฝุ่นเข็มกำลังจะปะทะเข้ากับร่างกายของฉู่ลั่ว พวกมันก็นิ่งค้าง ราวกับว่าถูกกำแพงที่มองไม่เห็นขวางเอาไว้
ยันต์แผ่นหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าฉู่ลั่ว
ชื่อหยางคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเก่งขนาดนี้ เขากัดฟันหยิบเอายันต์ออกมาหนึ่งแผ่น ให้มันพุ่งเข้าใส่ยันต์ของฉู่ลั่ว ก่อนจะเกิดเสียงดังเปรี๊ยะ ๆ
ทันใดนั้นยันต์สองแผ่นก็ลุกไหม้
ชื่อหยางมองยันต์ที่ไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านด้วยความปวดใจ
นี่เป็นยันต์ที่เขาจ่ายเงินจำนวนมากซื้อมา
ฉู่ลั่วยื่นนิ้วมือออกมาสองนิ้ว ก็มียันต์หนึ่งแผ่นปรากฏออกมาระหว่างนิ้ว เธอมองชื่อหยางด้วยสายตาเรียบนิ่ง เธอไม่มีร่องรอยความเสียใจที่ยันต์ถูกเผาไปแม้แต่น้อย
ยันต์แบบนี้ เธอเป็นคนวาดเอง
อยากได้เท่าไหร่ก็มีเท่านั้น
เสียงดังเปรี๊ยะ ยันทั้งสองแผ่นปะทะกันกลางอากาศ ยันต์ถูกเผาไปแผ่นแล้วแผ่นเล่า บนพื้นมีเศษขี้เถ้าตกอยู่
ชื่อหยางคลำที่กระเป๋าเสื้อ แต่ว่างเปล่า
ในทางกลับกัน ที่ปลายนิ้วของฉู่ลั่วยังมียันต์แบบเดียวกันปรากฏออกมาอีกหนึ่งใบ
ชื่อหยางเงียบงัน “…”
มุมปากของเขากระตุกสองครั้ง พูดเย้ยหยันว่า “เงินสามารถสร้างความแตกต่างได้จริง ๆ เธอถึงซื้อเครื่องรางชั้นเยี่ยมได้มากมายขนาดนี้สินะ”
เขาไม่ได้ใช้ยันต์แล้ว แต่กวาดฝุ่นในอากาศ ขยับไปด้านข้าง เตรียมจะโจมตีฉู่ลั่ว
ไม่รอให้เด็กสาวตอบสนอง ซ่งเมี่ยวเมี่ยวก็ลอยเข้ามาหา “ไม่ได้ซื้อมานะ พี่ลั่วลั่ววาดเองต่างหาก”
ฮั่วเซียวหมิงก็ปรากฏตัวออกมาเช่นกัน เขากวาดตามองฉู่ลั่ว ก่อนจะหันไปหาชื่อหยาง “ไม่ต้องสู้กันแล้ว ผมจะไปกับคุณ”