เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 64 บุคคลในหนังสือเรียน
บทที่ 64 บุคคลในหนังสือเรียน
หยางเสียนสั่งสอนศิษย์น้องเสร็จแล้ว จึงมาแนะนำตัวกับคนตระกูลฉู่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฉู่ลั่ว “ฉันคือเจ้าสำนักเมฆาครามหยางเสียน มีชื่อทางเต๋าว่าชิงหยาง”
“สำนักเมฆาคราม!” ซ่งเชียนหย่าตกตะลึง “ได้ยินมาว่าสำนักเมฆาครามศักดิ์สิทธิ์เรื่องขอคู่ครองมาก ก่อนหน้านี้ฉันว่าจะพาอาเหิงไปไหว้ด้วยค่ะ”
ฉู่เหิงสะดุ้ง “…”
ฉู่หร่านเห็นว่าทุกคนลืมเรื่องไสยศาสตร์ไปแล้ว จึงรีบเตือนขึ้นมา “ท่านนักพรตชิงหยาง ในบ้านของพวกเรามีผีค่ะ คุณช่วยเอาออกไปได้ไหมคะ! ฉันกลัว!”
ชิงหยางเหลือบมองฉู่หร่าน ก่อนจะหันมาหาฉู่ลั่ว จากนั้นจึงส่ายหน้า “สองคนนั้นไม่ใช่วิญญาณร้าย ฉันเอาออกไปไม่ได้หรอก อีกอย่างพวกเขาไม่ทำร้ายคน คุณหนูฉู่ไม่ต้องกลัว”
ฉู่หร่านพูดไม่ออก “…”
เธอทำได้เพียงบ่ายหน้าไปขอร้องที่พึ่งสุดท้าย “พ่อคะ!”
แต่ฉู่เหว่ยฮ่าวกลับพูดว่า “หร่านหร่าน พอแล้ว อย่าวุ่นวาย อีกเดี๋ยวที่บ้านจะมีแขกมา”
พูดจบ เขาก็ยิ้มทักทายซ่งอวิ๋นชิงกับผู้ชายอีกสี่ห้าคนที่กำลังเดินเข้ามา
ในนั้นนอกจากชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าปีแล้ว ทุกคนดูเหมือนจะมีอายุกันหมด แต่กลับดูกระฉับกระเฉงมาก
“ผู้อำนวยการจ้าว สวัสดีครับ” ฉู่เหว่ยฮ่าวแนะนำให้ครอบครัวรู้จัก “คนนี้คือผู้อำนวยการจ้าว ผู้อำนวยการของสำนักโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมประจำเมือง”
ตระกูลฉู่เป็นนักธุรกิจ พวกเขาจึงสามารถติดต่อผู้คนในแวดวงระดับสูงของเมืองเจียงได้
แต่บุคคลที่สำคัญบางคนในเมือง ก็ไม่อาจเข้าถึงได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในแวดวงโบราณวัตถุที่ถือตัวเป็นอย่างมาก
ผู้อำนวยการจ้าวยิ้มทักทาย ก่อนจะแนะนำคนที่อยู่ข้าง ๆ อีกหลายคนให้ฉู่เหว่ยฮ่าวรู้จัก “นี่คือผู้อำนวยการจาง เป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ประจำเมือง”
“ท่านนี้คือนักโบราณคดี คุณอวี๋”
“ท่านนี้คือผู้ก่อตั้งคณะประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเจียงเฉิง คุณซู”
ฉู่เหว่ยฮ่าวดวงตาเบิกกว้าง เขาจับมือและทักทายทีละคน
ทั้งสามท่านนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัญญาชนที่แท้จริง เป็นกลุ่มคนที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือเรียน ชื่อเสียงคงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านาน
ผู้อำนวยการจ้าวเป็นกันเองมาก เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ประธานฉู่ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น ที่พวกเรามาวันนี้เพราะมีเรื่องอยากมาพบคุณหนูฉู่ อยากให้คุณหนูฉู่ช่วยเหลือน่ะ”
เพิ่งจะพูดจบ ฉู่หร่านก็พูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเชิญฉันไปเป็นโฆษกเหรอคะ? ถ้าเป็นเรื่องนี้ ต้องติดต่อไปพูดคุยกับผู้จัดการของฉันนะคะ”
แม้สีหน้าของเธอจะเรียบเฉย แต่ในใจกลับดีใจจนแทบบ้า!
หากเป็นโฆษกให้กับหน่วยงานทางวัฒนธรรม หรือเป็นโฆษกให้กับพิพิธภัณฑ์ แบบนั้นตำแหน่งในวงการบันเทิงของเธอก็จะพุ่งสูงขึ้นแล้ว
ฉู่หร่านเพิ่งพูดจบ ทุกคนก็ชะงักไปเล็กน้อย
คนตระกูลฉู่มองเธออย่างพูดไม่ออก
ผู้อำนวยการจ้าวสมกับที่เป็นผู้อำนวยการ เขาตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว “ตอนนี้ทางพิพิธภัณฑ์กับหน่วยงานทางวัฒนธรรมยังไม่ได้ต้องการโฆษกหรอกครับ ถ้าวันหน้าเราต้องการ หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับคุณหนูฉู่หร่านนะครับ”
เกรงว่าฉู่หร่านจะพูดอะไรออกมาอีก ผู้อำนวยการจ้าวจึงมองไปที่ฉู่ลั่ว “พวกเรามาในครั้งนี้ เพราะมาหาคุณหนูฉู่ลั่วครับ”
ฉู่ลั่วเลิกคิ้ว “มาหาฉันเหรอคะ?”
ผู้อำนวยการจ้าวพยักหน้า “เกี่ยวกับหวังชางครับ”
หวังชางคือคนที่เธอสุ่มขึ้นมาเป็นผู้โชคดีในไลฟ์สตรีมครั้งที่แล้ว
ฉู่เหว่ยฮ่าว “ไปคุยในห้องหนังสือเถอะครับ”
มาถึงห้องหนังสือ คนในตระกูลฉู่ก็เหลือเพียงฉู่เหว่ยฮ่าวคนเดียว คนอื่นพากันออกไปหมดแล้ว
นักพรตชิงหยางไล่ศิษย์น้องชื่อหยางที่เดินตามมาออกไปด้วย ก่อนจะปิดประตูห้องหนังสือเสียงดัง ‘ปัง!’
ชื่อหยางพูดอะไรไม่ออก “…”
ฉู่เหิงมองเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะยื่นมือออกไปทำท่าทางเชื้อเชิญ “ท่านนักพรต ลงไปดื่มชาข้างล่างด้วยกันไหมครับ”
“ก็ดี ก็ดี”
ชื่อหยางเดินตามฉู่เหิงลงไปข้างล่างแก้เก้อ ก่อนจะหันกลับมามองประตูห้องหนังสือที่ปิดสนิท
ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกันอยู่ข้างใน?