เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 69 เกรงว่าจะติดที่พวกคุณ
หลายวันต่อมา ข่าวของเมืองเจียงก็ทำให้ผู้คนตกตะลึงไปทั้งประเทศ
ทีมสืบสวนอาชญากรรมจับกุมกลุ่มโจรปล้นสุสานได้ และช่วยเหลือโบราณวัตถุล้ำค่าจำนวนสองพันกว่าชิ้นมาจากมือของกลุ่มโจรปล้นสุสาน หลายปีมานี้เหล่าอาชญากรทยอยขายโบราณวัตถุเกือบพันชิ้นออกไปต่างประเทศ
เมื่อข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทั้งประเทศต่างก็ตกตะลึง คนที่รักในประวัติศาสตร์ และนักโบราณคดีจำนวนมาก ต่างก็อยากเห็นรูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของโบราณวัตถุเหล่านี้
บ้านหลังเล็กของฉู่ลั่วมีแขกมาหาหลายคน
เด็กสาวไม่เคยมีประสบการณ์ในการต้อนรับแขกมาก่อน ฉู่เหว่ยฮ่าวจึงให้ซ่งเชียนหย่ามาช่วยด้วย
คุณแม่พาคนรับใช้มาด้วยสองคน เริ่มจากเก็บกวาดบ้านหลังนี้ เมื่อแขกมาถึง เธอก็ให้คนรับใช้ไปชงชา
เมื่อเสิร์ฟชารับรองให้แขกทุกคนครบแล้ว ซ่งเชียนหย่าจึงนั่งลงด้านข้าง ยกชาขึ้นมาดื่มด้วยท่วงท่าสง่างาม
ผู้อำนวยการจ้าวกล่าวด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม “ตอนแรกว่าจะมอบธงเกียรติยศผืนนี้ให้เธออย่างเป็นทางการ แต่เมื่อพิจารณาถึงเหตุและผลหลายประการ เลยเลือกที่จะเอาธงเกียรติยศกับหนังสือรับรองนี้มามอบให้เธอส่วนตัวแทน”
เขาลุกขึ้นยืน นำธงเกียรติยศของพลเมืองดีเด่นให้ฉู่ลั่ว พร้อมกับหนังสือรับรอง
“นี่คือเงินรางวัลแปดหมื่นหยวน”
สำหรับฉู่ลั่ว เงินจำนวนนี้ไม่ได้มากมายอะไร แต่ในเมื่อเป็นรางวัลที่รัฐบาลมอบให้ เธอก็ยินดีรับเอาไว้
เมื่อเห็นว่าฉู่ลั่วยอมรับเงิน รอยยิ้มบนใบหน้าของผู้อำนวยการจางก็ยิ่งกว้างขึ้นอีก “เสี่ยวฉู่ ครั้งนี้ต้องชมเชยเธอมากจริง ๆ เธอรู้ไหมว่าครั้งนี้พวกเราเจอโบราณวัตถุมากแค่ไหน”
พูดถึงโบราณวัตถุเหล่านี้ ผู้อำนวยการจ้าวทั้งดีใจและเสียใจ “ตระกูลของหวังชางเป็นโจรปล้นสุสานมาหลายชั่วอายุคน พอจะมีความรู้เรื่องการเก็บรักษาโบราณวัตถุอยู่บ้าง แต่ที่เหลือเป็นพวกมือใหม่ มีบางคนในหมู่พวกเขาได้สมบัติล้ำค่า ก็เอาไปยัดไว้ในกล่องแบบลวก ๆ เฮ้อ… โบราณวัตถุหลายชิ้นเลยถูกทำลาย”
ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์จางที่อยู่ข้างกันกล่าวเสริม “สมัยที่หวังชางยังเป็นวัยรุ่นก็เคยปล้นสุสานขนาดใหญ่หลายแห่ง ต่อมาเขาก็วางมือ แต่ผู้สมรู้ร่วมคิดหลายคนในกลุ่มของเขากลับไม่สนใจอะไรเลย หลายปีมานี้ ยังพากันปล้นสุสานต่ออีกหลายสิบแห่ง”
สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ได้ยินพวกเขาพูดตอนสอบปากคำ ว่ามีหลายแห่งเป็นสุสานขนาดใหญ่”
ผู้อำนวยการจ้าว “พวกเราที่อยู่ทางนี้ได้ติดต่อนักโบราณคดีหลายคน มาทำการกู้ภัยด้วยการขุดค้นสุสานเหล่านั้น หวังว่าข้างในจะไม่มีวัตถุที่ถูกทำลายเสียหายอย่างหนัก”
ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์จาง “แต่เห็นจากท่าทางที่พวกเขาทำต่อโบราณวัตถุ ก็รู้เลยว่าพวกเขาไม่ได้ปกป้องของในสุสาน”
ฉู่ลั่วมองผู้อำนวยการจ้าว ก่อนหันไปหาผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์จาง พลางกะพริบตา
สุดท้ายซ่งเชียนหย่าที่จิบชาอยู่ข้าง ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า “ผู้อำนวยการจ้าว ถ้าหากมีเรื่องอะไร ก็พูดกับลั่วลั่วไปตรง ๆ ได้เลยนะคะ ถ้าลั่วลั่วช่วยได้ เธอต้องทำให้แน่นอนค่ะ”
ผู้อำนวยการจ้าวไม่พูดอะไร แต่มองไปที่เด็กสาว
ฉู่ลั่วพยักหน้า
ผู้อำนวยการจ้าวกับผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์จางระบายลมหายใจออกมาพร้อมกัน “ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอพูดตรง ๆ เลยนะ พวกเรามีเรื่องที่อยากให้ฉู่ลั่วช่วยออกหน้า”
“เรื่องเป็นแบบนี้ พวกเรารู้ที่อยู่ของหลุมศพที่พวกเขาขุดมาจากปากของผู้ที่สมรู้ร่วมคิดกับหวังชาง ตอนนี้สุสานเหล่านี้ถูกกู้ชีพด้วยการขุดเอาโบราณวัตถุออกมาหมดแล้ว แต่มีสุสานแห่งหนึ่ง ที่ทีมงานของเราไม่สามารถเข้าไปได้”
“เข้าไปไม่ได้งั้นเหรอคะ” ฉู่ลั่วไม่เข้าใจ
ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์จางพยักหน้า “แต่ที่น่าแปลกก็คือ พวกของหวังชางสามารถเข้าไปในหลุมศพนั้นได้ มีแค่ทีมงานนักโบราณคดีของพวกเราที่เข้าไปไม่ได้”
นักโบราณคดีอย่างพวกเขาเคยเจอเรื่องแปลกประหลาดมามากมาย
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เจอปัญหาเข้าไปในสุสานไม่ได้
“ท่านนักพรตชิงหยางมีธุระต้องกลับไปที่สำนัก ท่านเลยให้ฉันมาหาเธอ” ผู้อำนวยการจ้าวกล่าวด้วยท่าทีเกรงใจ “เสี่ยวฉู่ พวกเราไม่อยากรบกวนเธอไปตลอดหรอกนะ แต่ว่า… เรื่องนี้สำคัญมากจริง ๆ”
ฉู่ลั่วเม้มริมฝีปากเล็กน้อย พลางครุ่นคิด
ผู้อำนวยการจางเห็นแบบนั้นก็ไม่คิดจะบังคับเด็กสาว “ถ้าเธอลำบากใจไม่ต้องทำก็ได้นะ พวกเราไม่รู้กฎในแวดวงผู้บำเพ็ญของพวกเธอ ถ้าหากว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดข้อห้ามอะไร แบบนั้นคงไม่ดี”
แต่ละสายอาชีพต่างก็มีกฎของตนเอง
ผู้อำนวยการจางเป็นนักโบราณคดีมาหลายปี และข้องเกี่ยวกับปรมาจารย์เต๋ามาไม่น้อย จึงรู้มาบ้างว่าบางสำนักหรือนิกายมีข้อห้ามมากมายสำหรับลูกศิษย์
มีบางสำนักที่ห้ามไม่ให้ลูกศิษย์ยื่นมือเข้าไปยุ่งกับเรื่องการปล้นสุสาน
เพราะในสายตาของผู้บำเพ็ญ ไม่ว่าจะโจรปล้นสุสานหรือนักโบราณคดี ต่างก็ทำลายสุสานบรรพบุรุษด้วยกันทั้งสิ้น แม้จะแบ่งออกเป็นสองเหตุผล คือทำเพื่อตัวเองและทำเพื่อศึกษาหาความรู้ก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นผลเสียกับบรรพบุรุษด้วยกันทั้งหมด
“ฉันไม่ขัดข้องหรอกค่ะ แต่เกรงว่าจะติดที่พวกคุณต่างหาก”
“ติดที่พวกเรา?” ผู้อำนวยการจางกับผู้อำนวยการจ้าวเอ่ยเป็นนัยคำถามออกมาพร้อมกัน
ฉู่ลั่วเอ่ย “ถ้าต้องออกนอกสถานที่ ฉันอาจจะต้องพาดวงวิญญาณสองดวงไปด้วยนะคะ”
ผู้อำนวยการจาง “…”
ผู้อำนวยการจ้าว “…”
พาอะไรไปนะ?
พวกเขาไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม?