เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 7 บอกเล่าเรื่องราวของคุณ
ซ่งจือหนานขับรถไปส่งเด็กสาวที่บ้านด้วยตนเอง
เมื่อลงจากรถ ฉู่ลั่วก็เห็นคนกำลังขนย้ายข้าวของในคฤหาสน์ที่อยู่ถัดจากบ้านตระกูลฉู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์
สิ่งที่ดึงดูดสายตามากที่สุด ก็คือรถพยาบาลที่จอดอยู่ตรงประตูบ้าน
ซ่งจือหนานเหลือบมอง “ที่แท้ตระกูลฮั่วจากเมืองหลวงก็พาฮั่วจิ่วมาอยู่ที่เมืองเจียงจริงด้วย!”
“ฮั่วจิ่ว?”
หาได้ยากที่ฉู่ลั่วจะสนใจ ซ่งจือหนานจึงรีบอธิบายว่า “ลูกชายคนเดียว ฮั่วเซียวหมิง จากตระกูลฮั่ว เพราะเขาเกิดเดือนกันยายน คนในตระกูลฮั่วจึงเคยชินกับการเรียกเขาว่าฮั่วจิ่ว”
“เมื่อก่อนเขาเป็นยอดคนในหมู่คน เป็นคนที่เก่งที่สุดในรุ่นของพวกเรา”
“น่าเสียดาย สวรรค์อิจฉาคนมีความสามารถน่ะสิ!”
ซ่งจือหนานเล่าพลางส่ายหน้าไปด้วย น้ำเสียงของเขาขึ้นลงเป็นจังหวะ “ครึ่งปีก่อน ฮั่วจิ่วประสบอุบัติเหตุ จนกลายเป็นผักอยู่แบบนี้”
“ตระกูลฮั่วพยายามทุกวิถีทางแล้ว แต่สุดท้ายหมอก็สรุปว่าเขาอยู่ในสภาพเป็นผัก สมองตาย ไม่มีหนทางรักษา”
พูดจบ เขาก็รีบถาม “ฮั่วจิ่วเป็นเหมือนแม่ของผมหรือเปล่า ที่วิญญาณออกจากร่างไปน่ะ!”
“ไม่เหมือนกัน ชีวิตเขาไม่ยืนยาว ไร้ทางรักษาแล้ว”
ซ่งจือหนานเงียบลง “…”
ตอนนี้ฉู่ลั่วเป็นแม่หมอคนเก่งในใจของเขา หากเธอบอกว่าไม่มีหนทางรักษา ก็คงจะไม่มีหวังแล้วจริง ๆ
ซ่งจือหนานโค้งคำนับไปทางคฤหาสน์ของฮั่วจิ่ว ก่อนจะเดินตามฉู่ลั่วเข้าไปในบ้านตระกูลฉู่
บ้านตระกูลฉู่นอกจากซ่งเชียนหย่า คนอื่นต่างก็ออกไปทำงานหมดแล้ว
ซ่งจือหนานส่งฉู่ลั่วเข้าบ้านด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจ เขาทักทายซ่งเชียนหย่า ก่อนจะจากไป
คุณนายซ่งเห็นภาพนั้นก็ประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรมากกว่านั้น
เธอนึกถึงคำพูดที่ฉู่ลั่วพูดเมื่อวานกับเมื่อเช้า ก็รู้สึกผิดอยู่ในใจ อยากจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกสาว “ลั่วลั่ว มาช่วยแม่เลือกหน่อยสิจ๊ะ แม่กำลังเลือกคู่ให้พี่ชายของลูกอยู่”
เมื่อพูดถึงฉู่เหิง ฉู่ลั่วจึงยอมไปนั่ง
พี่ชายคนนี้เป็นคนเดียวในครอบครัวที่ใจดีกับเธอที่สุด
เมื่อวานตอนตกน้ำ ก็เป็นชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตเธอไว้
ซ่งเชียนหย่าดันรูปถ่ายสิบกว่าใบในมือมาให้ พร้อมแนะนำให้ฟังทีละคน
“นี่คือลูกสาวของบริษัทหยาง อายุไม่ห่างกับพี่ชายของหนูมาก เพิ่งกลับมาจากไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ ประวัติการศึกษาก็สูง”
“คนนี้คือลูกสาวคนเล็กของตระกูลเหอ เด็กกว่าพี่ชายของหนูประมาณเจ็ดแปดปี แต่เป็นคนร่าเริง เหมาะสมกับพี่ชายหนูที่ทำตัวทื่อเป็นท่อนไม้มากเลย”
“…”
“คนนี้… กู่ชิวอิ่ง เป็นเพื่อนสนิทของหร่านหร่านกับอันเชี่ยน ก่อนหน้านี้ตอนอันเชี่ยนกับคุณชายของตระกูลหนานหมั้นหมายกัน กู่ชิวอิ่งก็เคยมาครั้งหนึ่ง ก็เลยกลายเป็นเพื่อนสนิทกันน่ะ”
“แม้จะไม่ได้เกิดมามีฐานะสูงส่ง แต่เป็นคนมีความสามารถมาก เธอทำงานเป็นเลขาของคุณชายตระกูลหนานมาหลายปี คุณนายหนานเคยพูดถึงเด็กคนนี้ให้แม่ฟังด้วย”
“หร่านหร่านชอบเธอมาก แม่คิดว่าเธอก็ใช้ได้เหมือนกัน”
“ลูกคิดว่ายังไงบ้าง?”
ซ่งเชียนหย่ามองเธอด้วยความคาดหวัง
เธอหวังว่าฉู่ลั่วจะชอบกู่ชิวอิ่งเหมือนกันกับเธอ มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นสะใภ้ของตระกูลฉู่ เป็นพี่สะใภ้ของฉู่ลั่วในอนาคต
เธอยังหวังให้ลูกสาวกับพี่สะใภ้เข้ากันได้ดีอีกด้วย
ฉู่ลั่วจ้องมองรูปภาพที่อยู่บนโต๊ะ “พี่ชายกับเธอไม่มีวาสนาต่อกัน”
ซ่งเชียนหย่าเงียบลง “…”
สีหน้าชะงักค้างไปชั่วขณะ “ความรักต้องมาจากความเข้ากันได้ ถ้าเข้ากันได้ดีเดี๋ยวก็มีวาสนาต่อกันเอง”
ฉู่ลั่วยืนยันคำเดิม “ไม่มีวาสนาก็คือไม่มีวาสนา เข้ากันได้ดีแค่ไหนก็ไม่ประโยชน์”
ซ่งเชียนหย่าถอนหายใจเงียบ ๆ ใช่ว่าเธอไม่อยากเข้ากันได้ดีกับลูกสาวคนนี้
แต่เพราะอีกฝ่ายนิสัยแหกคอกเกินไป
เมื่อก่อนเป็นคนอารมณ์ร้าย อะไรไม่ถูกใจก็โวยวาย
แม้ตอนนี้ไม่สร้างปัญหาแล้ว แต่นิสัยกลับแปลกกว่าเดิม
“เด็กคนนี้ เธอ…”
เดิมทีฉู่ลั่วอยากอธิบายให้ฟังว่าเหตุใดกู่ชิวอิ่งถึงไม่เหมาะสม
แต่ซ่งเชียนหย่าพูดตัดบทเธอเสียก่อน “เอาละ ๆ ลูกออกไปข้างนอกมาครึ่งค่อนวัน คงจะเหนื่อยแล้ว ขึ้นไปพักผ่อนเถอะนะ!”
ฉู่ลั่วเงียบลง “…”
เธอเม้มปากเล็กน้อย แล้วขึ้นไปข้างบน
เดินถึงทางขึ้นบันได เด็กสาวก็หันกลับมาพูดอีกประโยคหนึ่งว่า “ผู้หญิงคนนี้ เธอไม่เหมาะสมกับฉู่เหิง”
พูดจบ เธอก็เดินตรงขึ้นไปข้างบน โดยไม่สนใจแล้ว่าซ่งเชียนหย่าจะทำสีหน้าอย่างไร
…
ไลฟ์สตรีมครั้งนี้ แฟนคลับของฉู่ลั่วลดลงไปไม่น้อย
มีแฟนคลับเข้ามาดูแค่หนึ่งพันคนเท่านั้น แต่เมื่อไลฟ์ครั้งนี้เริ่มขึ้น ซ่งอวิ๋นชิงก็เริ่มรัวของขวัญมาให้
[เมฆบางเบาสายลมสดชื่นส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน]
[เมฆบางเบาสายลมสดชื่นส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน]
……
ของขวัญที่แพงที่สุดในช่องไลฟ์สตรีมของฉู่ลั่วคือเรือบรรทุกเครื่องบิน
ทุกครั้งที่ได้รับของขวัญอันนี้ ช่องจะได้รับการแนะนำ
[รู้ใต้ไม่รู้เหนือส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน]
[รู้ใต้ไม่รู้เหนือส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน]
……
ซ่งอวิ๋นชิงที่เพิ่งขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของช่องถูกซ่งจือหนานดันลงไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ห้องไลฟ์สตรีมอื่นตื่นตระหนกกันหมด
นี่มันช่องไลฟ์สตรีมของใครกัน!
ไม่เคยเห็นอันดับโดเนตเลื่อนเร็วแบบนี้มาก่อน!
ตอนนี้โดเนตขึ้นไปสองล้านกว่าแล้ว!
ไม่ใช่แค่ผู้ชมที่ประหลาดใจ แม้แต่กลุ่มรุ่นสองของเมืองเจียงก็คึกคักมากเช่นกัน
[อันเชี่ยน : @ซ่งจือหนาน นายถูกลาถีบหัวมาเหรอ? นายโดเนตของขวัญให้ฉู่ลั่วทำไม แบบนี้ไม่ยิ่งเพิ่มความนิยมให้เธอเหรอ? นายดูห้องไลฟ์สตรีมของเธอสิ อีกนิดเดียวก็จะมีคนดูถึงหนึ่งหมื่นคนแล้ว]
[เหยาข่าย : @ซ่งจือหนาน ที่ฉันสงสัยก็คือ เมฆบางเบาสายลมสดชื่นคือใคร? คงไม่ใช่คนที่ฉันคิดใช่ไหม!]
[อันเชี่ยน : ใครเหรอ?]
[เหยาข่าย : ฉันเดาออกแล้วแต่ฉันไม่กล้าพูด]
[หยางช่าน : ได้ยินว่าวันนี้คุณป้าฉิงฟื้นแล้ว แม่ฉันไปเยี่ยมมา คุณป้าฉิงชมฉู่ลั่วไม่หยุดเลย]
[อันเชี่ยน : สติกเกอร์สงสัย]
[เหยาข่าย : สติกเกอร์งุนงง]
[หยางช่าน : สติกเกอร์อิหยังวะ]
ซ่งจือหนานที่โดเนตของขวัญจนพอใจแล้ว ถึงกลับเข้ามาในกลุ่ม
[ซ่งจือหนาน : ตั้งแต่วันนี้ไป ฉู่ลั่วคือคนในการคุ้มครองของฉัน]
ข้อความนี้ถูกลบออกไปอย่างรวดเร็ว
[ซ่งจือหนาน : ตั้งแต่วันนี้ไป ฉันจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของฉู่ลั่ว เขาเป็นเจ๊ใหญ่ ฉันเป็นลูกน้อง ใครกล้ารังแกลูกพี่ของฉัน เท่ากับมีเรื่องกับฉันซ่งจือหนานด้วย]
[อันเชี่ยน : สมองนายมีปัญหาเหรอ? ไปหาหมอไหม? อยากให้ฉันแนะนำจิตแพทย์ให้หรือเปล่า?]
[เหยาข่าย : @ซ่งจือหนาน ถ้าบัญชีของนายถูกแฮก ก็ส่งเสียงมาหน่อย]
[หยางช่าน : @ซ่งจือหนาน เมฆบางเบาสายลมสดชื่นใช่คนที่ฉันคิดไหม?]
[ซ่งจือหนาน : สติกเกอร์เจ้าพวกโง่]
[ซ่งจือหนาน : ถ้ามีเวลาไว้จะเล่าในนี้นะ ฉันต้องไปดูไลฟ์สตรีมเล่าเรื่องของลูกพี่ฉันก่อน]
ไลฟ์ของฉู่ลั่วเริ่มขึ้นแล้ว
ชื่อไลฟ์สตรีมของเธอเปลี่ยนชื่อเป็นเห็นดวงอาทิตย์ยามฟ้าใส
หัวข้อของห้องไลฟ์สตรีมเขียนไว้ว่า บอกเล่าเรื่องราวของคุณ
“หัวข้อหลักในการสตรีมวันนี้คือ บอกเล่าเรื่องราวของคุณ หากมีใครอยากฟังเรื่องของตนเอง และยินดีจะร่วมไลฟ์ด้วยกัน แบบนั้นคุณจะได้ฟังเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของคุณ”
เพราะห้องไลฟ์สตรีมของฉู่ลั่วได้รับของขวัญหลายล้าน จึงได้รับความสนใจจากห้องไลฟ์สตรีมอื่น ๆ
ไม่ใช่แค่ชาวเน็ตที่เข้ามาดู แม้แต่เหล่าสตรีมเมอร์ก็เข้ามาดูด้วย อยากเห็นเหลือเกินว่าเป็นช่องแบบไหน ถึงได้ทรงพลังขนาดนี้
พอได้ยินว่าเป็นไลฟ์สตรีมเล่าเรื่อง สตรีมเมอร์หลายคนก็เข้าใจแล้ว
นี่คงเป็นคุณหนูที่กำลังเบื่อหน่าย เลยอยากสัมผัสประสบการณ์ชีวิตสินะ
สตรีมเมอร์ช่องใหญ่รู้สึกว่าไม่น่าสนใจ จึงพากันออกไป
แต่ยังมีสตรีมเมอร์ช่องเล็ก ๆ ที่อยากใช้ประโยชน์จากความนิยมเหลืออยู่