เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 76 เธอจะไล่เขาไป
บทที่ 76 เธอจะไล่เขาไป
“คุณจะไปกับฉันเหรอ?”
ฉู่ลั่วพูดจบ เฉิงยวนที่ตื่นเต้นมากจนแทบจะลอยออกไปถึงต่างประเทศก็เงียบลงทันที
วิญญาณหญิงสาวจ้องมองอยู่เนิ่นนาน จนเด็กสาวมองเห็นความน่าสงสารในดวงตาอันแสนน่ากลัวคู่นั้น
“ท่านปรมาจารย์ ท่านไม่ต้องการข้าหรือ ท่านไม่สนใจข้าแล้วหรือ ท่านเป็นคนปล่อยข้าออกมาจากสุสานโบราณ แต่ท่านกลับไม่สนใจข้า!”
เฉิงยวนตื่นตระหนกมากขณะลอยไปตรงหน้าผู้ปลดปล่อยตนออกมา “ท่านไม่กลัวข้าไปทำร้ายคนหรือ? ไม่กลัวว่าข้าจะอาลัยอาวรณ์อยู่บนโลกมนุษย์ และเข้าไปสิงสู่ผู้คนหรือ? ท่านไม่กลัวว่าข้า…”
“ไม่กลัว” ฉู่ลั่วพูดแทรก “คุณไม่แม้แต่จะทำร้ายโจรหรือนักโบราณคดีที่บุกรุกเข้าไปในสุสานโบราณ คนบริสุทธิ์คนอื่นก็คงไม่ทำร้ายแน่นอน”
ว่าแล้ว เธอก็ชะงักไปเล็กน้อย
“แต่ถ้าคุณทำร้ายคนบริสุทธิ์จริง ฉันก็จะกำจัดคุณ”
เฉิงยวนตื่นตระหนกจนตัวแข็งทื่อไป “ไร้หัวใจ!”
คนฟังไม่ปฏิเสธ “…”
หลังจากด่าทอฉู่ลั่วในใจเรียบร้อยแล้ว เฉิงยวนก็เข้ามาเกาะแกะอีกครั้ง “ข้าโชคดีที่ได้ท่านช่วยออกมาจากสุสานโบราณ ต่อไปหากต้องกำจัดข้า ท่านคงเสียใจมากแน่ เพื่อไม่ให้ท่านเสียใจ ข้าจะติดตามข้างกายท่าน คอยรับการกำกับดูแลจากท่านตลอดเวลา!”
ฉู่ลั่วอ้าปากจะพูด
แต่เฉิงยวนราวกับรู้ว่าเธอคิดจะพูดอะไร จึงลั่นวาจาอย่างมุ่งมั่นและเด็ดขาดว่า “ท่านจะต้องเสียใจแน่ ใช่ไหม?”
วิญญาณหญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อย ก่อนจะกะพริบตาปริบ ๆ อย่างน่าสงสารจับใจ
ฉู่ลั่วหมดคำจะพูด “…”
อีกฝ่ายแสดงออกขนาดนี้ เธอก็พูดว่าไม่เสียใจไม่ออกเสียแล้ว
“ก็ได้”
เฉิงยวนที่เมื่อครู่เกือบจะร้องให้ออกมายิ้มกว้างทันที “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกเราจะไปที่ไหนกัน กลับไปที่บ้านของท่านปรมาจารย์หรือเปล่า ท่านปรมาจารย์บำเพ็ญที่ไหนหรือ มาจากสำนักไหนไหม สำนักชื่อว่าอะไร ไกลจากตัวเมืองมากหรือไม่?”
วิญญาณหญิงสาวยืนอยู่หน้าบ้านของฉู่ลั่ว ขณะที่เจ้าของบ้านเปิดประตู และซ่งจือหนานถือกระเป๋าเดินทางเข้าไปข้างใน เธอก็ยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าบ้าน
“หลอกลวง”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยว “พี่ยวนยวน หลอกลวงอะไรเหรอคะ?”
เฉิงยวนอุ้มวิญญาณตัวน้อยเข้าไปในบ้าน ก่อนจะมองดูสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย “ละครทีวีมีแต่คนหลอกลวง บอกว่าปรมาจารย์ต้องบำเพ็ญอยู่ในป่าลึกน่ะสิ”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวเอียงศีรษะ “ปรมาจารย์พวกนั้นคงเก่งสู้พี่ลั่วลั่วไม่ได้หรอกค่ะ”
วิญญาณหญิงสาวยืนยัน “…เจ้าพูดถูก”
จะเอาคนพวกนั้นมาเปรียบเทียบกับท่านปรมาจารย์ได้อย่างไร?
ซ่งจือหนานขนกระเป๋าเข้ามาในบ้าน หลังจากล่ำลาพวกซ่งเมี่ยวเมี่ยวแล้วก็ขอตัวกลับไป
ซ่งเชียนหย่าให้คนรับใช้เก็บกวาดบ้านให้เรียบร้อย ก่อนจะพูดกับฉู่ลั่วว่า “ลั่วลั่ว พ่อของหนูโทรมาหาแม่ บอกว่างานหมั้นของอันเชี่ยนจะจัดที่ตี้จิง พวกพี่ชายของลูกไม่มีใครว่างเลย พ่อของหนูเลยบอกว่าจะพาหนูกับหร่านหร่านไปด้วย”
ฉู่ลั่วไม่อยากไป แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเฉิงยวนกับซ่งเมี่ยวเมี่ยว จึงได้แต่พยักหน้า “ค่ะ”
ซ่งเชียนหย่าโล่งใจ เธอกลัวว่าลูกสาวจะไม่ยอมไป “ก่อนถึงวันนั้นแม่จะเตรียมเสื้อผ้าดี ๆ เอาไว้ให้นะ รวมถึงเครื่องประดับด้วยจ้ะ”
สิ่งที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงต้อนรับ จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก
ซ่งเชียนหย่าพาคนรับใช้ทั้งสองคนกลับไปแล้ว
ในบ้านจึงเหลือเพียงฉู่ลั่วที่ยังมีชีวิตอยู่คนเดียว กับวิญญาณอีกสามตน
เมื่อไม่มีคนนอกอยู่ด้วย ฉู่ลั่วก็ใช้ยันต์สองสามใบ ทำให้พวกซ่งเมี่ยวเมี่ยวปรากฏตัวแบบมีรูปร่างขึ้นมา
เฉิงยวนที่เห็นว่าตนเองสามารถสัมผัสสิ่งของได้ ก็สัมผัสนั่นนี่อย่างกระดี๊กระด๊า เธอตื่นเต้นจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
ฉู่ลั่วปล่อยให้เธอพาซ่งเมี่ยวเมี่ยวไปลูบ ๆ คลำ ๆ ในบ้านตามใจ
เธอส่งสายตาให้ฮั่วเซียวหมิงรับรู้ ก่อนที่ทั้งสองจะขึ้นไปที่ห้องหนังสือบนชั้นสอง
ฉู่ลั่วเอ่ยปากพูดอย่างตรงไปตรงมา “คุณออกไปครั้งนี้ มีวิญญาณติดตัวมาด้วย ฉันเคยเตือนคุณแล้ว วิญญาณของคุณต่างจากวิญญาณตนอื่น คุณปนเปื้อนกลิ่นอายวิญญาณร้ายได้ง่ายมาก”
ฮั่วเซียวหมิงมองเด็กสาวที่กำลังขมวดคิ้ว พลางเม้มริมฝีปากโดยไม่พูดอะไร
ฉู่ลั่วเอ่ย “ฉันช่วยชำระล้างวิญญาณให้คุณได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะออกไปให้ไอวิญญาณข้างนอกปนเปื้อนบนร่างกายของคุณได้ตามใจ”
ฮั่วเซียวหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ถ้าคุณยังดื้อไม่ยอมฟัง ถ้าอย่างนั้น… ที่ของฉันอาจจะไม่เหมาะกับคุณ”
ฮั่วเซียวหมิงเงยหน้าขึ้นมาทันที
เธอจะไล่เขาไปเหรอ?