เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 77 ไม่ใช่เนื้อคู่
บทที่ 77 ไม่ใช่เนื้อคู่
ฉู่ลั่วพูดจบก็เปิดประตูห้องหนังสือแล้วเดินออกไปโดยไม่รอให้ฮั่วเซียวหมิงตอบกลับ
เหลือเพียงวิญญาณของชายหนุ่มยืนอยู่เพียงลำพังในห้องหนังสือ
เด็กสาวลงมาที่ชั้นล่าง ก็เห็นเฉิงยวนกับซ่งเมี่ยวเมี่ยวกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา
ดูไป วิญญาณหญิงสาวก็บ่นไปว่า “ละครเรื่องนี้ ข้าไม่เคยดูถึงตอนจบเลย เมื่อก่อนต้องดูอยู่ข้างหน้าต่าง ใครจะไปรู้ว่าเด็กน้อยในบ้านจะมองเห็นข้าได้ ก็เลยร้องไห้ไม่หยุด”
เพราะผีทำให้ในหมู่บ้านวุ่นวาย จึงไม่มีใครดูโทรทัศน์
นึกถึงประสบการณ์น่าสมเพชเมื่อก่อนทีไร เฉิงยวนก็ส่ายหน้าอย่างสะท้อนใจ
“ตอนนี้ข้าอยากดูอะไรก็ดูได้แล้ว!”
ฉู่ลั่วมองบูนี่แบร์*[1] ที่กำลังฉายทางโทรทัศน์ก็เงียบไปสองวินาที ก่อนจะเดินไปนั่งลงข้าง ๆ หยิบเอาหมึกชาดกับกระดาษออกมา แล้วเริ่มเขียนยันต์
เมื่อวาดเสร็จไปใบแล้วใบเล่า เธอก็จะวางกองไว้ด้านหนึ่ง
จนกระทั่งร่างที่โปร่งใสลอยมาหยุดข้างตัวเธอ ฉู่ลั่วก็ไม่สนใจ ยังคงวาดยันต์ต่อไปจนเสร็จ ถึงค่อยล้างมือในน้ำสะอาด
“คิดได้แล้วใช่ไหม?”
ฮั่วเซียวหมิงพูดไม่ออก “…”
ทั้งชีวิตนี้เขาไม่เคยถูกใครทำแบบนี้ใส่มาก่อน
ฉู่ลั่วชี้ไปยังประตูบานใหญ่ “ถ้าคุณไม่สามารถควบคุมการกระทำของตัวเองได้ ก็เชิญออกไปได้เลย”
“…” ฮั่วเซียวหมิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะปริปาก “ต่อไปผมจะพยายามไม่ออกไปข้างนอกตามอำเภอใจ”
เธอส่ายหน้า “ไม่ใช่พยายามแต่เป็นสัญญา สัญญาว่าต่อไปถ้าไม่ได้มีเหตุการณ์พิเศษอะไรก็จะไม่ออกไปข้างนอกตามอำเภอใจ”
รูม่านตาของวิญญาณหนุ่มหดเล็กลง แววตาดุร้ายถูกเผยออกมา
“ผมไม่ใช่ผีที่คุณเลี้ยงเอาไว้…”
ฉู่ลั่วพยักหน้า “แน่นอนว่าคุณไม่ใช่ เพราะถ้าคุณเป็นผีที่ฉันเลี้ยงไว้ ฉันไม่พูดกับคุณแบบนี้หรอก แต่ฉันจะผนึกคุณเอาไว้ต่างหาก”
ยอมเจรจากับเขา ทั้งยังอนุญาตให้อยู่ข้างกาย ก็ถือว่าเป็นบุญคุณมหาศาลสำหรับเขาแล้ว
“หึ”
เขาส่งเสียงเยาะเย้ย หันหน้าหนี แล้วลอยออกไป
จนกระทั่งตอนเย็น ซ่งเมี่ยวเมี่ยวไม่เห็นแม้แต่เงาของฮั่วเซียวหมิง จึงถามด้วยความแปลกใจว่า “พี่ชายล่ะคะ?”
“ไปแล้ว”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวเตรียมจะพูดอีก แต่ถูกเฉิงยวนรั้งเอาไว้ ก่อนจะพาลอยขึ้นไปถึงห้องที่ชั้นบน
“อย่าถามนะ”
วิญญาณตัวน้อยทำหน้าไม่เข้าใจ
เฉิงยวนให้เหตุผล “เรื่องของผู้ใหญ่ เจ้าไม่เข้าใจหรอก”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวงุนงง แต่ก็ยอมเชื่อฟังคำพูดของวิญญาณสาว ไม่ได้ไปถามเรื่องนี้กับฉู่ลั่วอีก
สามวันต่อมา ซ่งเชียนหย่าส่งรถมารับฉู่ลั่ว เพราะทั้งครอบครัวจะไปร่วมงานหมั้นของอันเชี่ยนที่ตี้จิง
เมื่อตระกูลฉู่มาถึงตี้จิง กู่ชิวอิ่งเป็นคนมารับที่สนามบิน
เธอเป็นเลขาของหนานฉีที่อยู่กันมานานหลายปี เป็นมือขวาของเขาเลยทีเดียว
ฉู่เหว่ยฮ่าวกับฉู่เหิงมีธุระทั้งคู่ จึงจะตามมาทีหลัง
ฉู่หร่านสนิทสนมกับอันเชี่ยนมาก เธอมาหาเพื่อนสาวที่ตี้จิงตั้งแต่สองวันก่อน
ดังนั้นครั้งนี้ กู่ชิวอิ่งจึงมารับแค่ซ่งเชียนหย่ากับฉู่ลั่ว
เธอขับรถพาทั้งสองแม่ลูกไปส่งที่โรงแรม จัดการเรื่องที่พักให้ด้วยตัวเองถึงจากไป
เมื่อกู่ชิวอิ่งไปแล้ว ซ่งเชียนหย่าถึงได้ถอนหายใจออกมา “ชิวอิ่งเป็นคนดีมากจริง ๆ ไม่รู้ว่าพี่ชายของลูกมัวแต่เลือกอะไร ถึงได้ปฏิเสธไป”
ก่อนหน้านี้หลังจากการดูตัวสิ้นสุดลง ฉู่เหิงก็ติดต่อไปหากู่ชิวอิ่งเป็นการส่วนตัว และแสดงออกชัดเจนว่าตนเองยังไม่คิดที่จะคบหากับใครในตอนนี้
กู่ชิวอิ่งก็ไม่ได้ตอบอะไร
การดูตัวจึงสิ้นสุดไปแต่เพียงเท่านี้
“เธอกับพี่ใหญ่ไม่ใช่เนื้อคู่กันหรอกค่ะ”
หากเป็นเมื่อก่อน ซ่งเชียนหย่าได้ยินฉู่ลั่วพูดแบบนี้คงรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่
แต่ตอนนี้เธอเชื่อลูกสาวอย่างสนิทใจ เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็รีบถามว่า “ยังไงเหรอ?”
ฉู่ลั่วนึกถึงเมื่อครู่ที่เธอเพิ่งดูโหงวเฮ้งของกู่ชิวอิ่ง ก็พูดอย่างคลุมเครือว่า “ดาวหงหลวน*[2] ของเธอเคลื่อนผ่านไปนานแล้วค่ะ”
ซ่งเชียนหย่าชะงักไป “อะไรนะ? นี่มันหมายความว่ายังไงเหรอ?”
ฉู่ลั่วเห็นว่าแม่ชอบกู่ชิวอิ่งมากจริง ๆ ดูเหมือนจะยังเสียดาย อยากได้หล่อนเป็นลูกสะใภ้มาก
เพื่อไม่ให้ฉู่เหิงตกเป็นข่าวอื้อฉาวในอนาคต เธอจึงต้องพูดออกมา “เส้นเนื้อคู่ของเธอเคลื่อนผ่านไปนานแล้วค่ะ แสดงให้เห็นว่าเธอกับเนื้อคู่พัวพันกันมาประมาณสิบปีแล้ว”
กู่ชิวอิ่งอายุเท่าฉู่เหิง ซึ่งก็คือสามสิบสองปี
สิบปี ตอนนั้นทั้งคู่อายุยี่สิบสอง…
ซ่งเชียนหย่าหายใจติดขัด เธอพูดออกไปโดยไม่รู้ตัวว่า “อาจจะเป็นเพราะยังวัยรุ่น ยังไร้เดียงสาอยู่ก็ได้…”
“จากใบหูถึงแก้มของเธอเป็นสีชมพู ดวงตาฉ่ำน้ำ ตาขาวกลับให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสีชมพู นี่คือลักษณะโหงวเฮ้งทั่วไปของคนที่กำลังมีโชคชะตาเกี่ยวพันกับความรักค่ะ”
ซ่งเชียนหย่าไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ปกปิดความไม่สบายใจเอาไว้ “ลูกบอกมาเถอะ แม่รับได้”
ฉู่ลั่วมองมารดา
อีกฝ่ายเอ่ยยืนยันว่า “แม่รับได้จริง ๆ”
เด็กสาวเอ่ย “เธอกับอีกฝ่ายพัวพันกันมาสิบปีแล้วค่ะ ในระยะเวลาสิบปีนี้พวกเขาไม่เคยขาดการติดต่อกันเลย”
ซ่งเชียนหย่าดวงตาเบิกกว้าง “แต่ก็มาดูตัวกับพี่ใหญ่ของลูก…”
ฉู่ลั่วพยักหน้า
สีหน้าของแม่เปลี่ยนไปจนดูไม่ได้
เด็กสาวพูดต่อไป “แต่ดูจากโหงวเฮ้งของเธอแล้ว ชีวิตรักของเธอไม่ราบรื่นเลยค่ะ มีอุปสรรคมากมายทีเดียว”
ซ่งเชียนหย่าส่งเสียงเยาะเย้ย “นั่นสินะ! ถ้าไม่มีอุปสรรค ไม่แต่งงานกันไปตั้งนานแล้วเหรอ?”
เมื่อคิดว่าตนเองพากู่ชิวอิ่งมาให้ฉู่เหิงดูตัว เธอก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก
โชคดีที่ฉู่เหิงเคลียร์กับกู่ชิวอิ่งชัดเจนตั้งแต่แรก
ไม่อย่างนั้น…
ซ่งเชียนหย่าถอนหายใจพร้อมจับมือฉู่ลั่วเอาไว้ “ต่อไปถ้าแม่จะนัดดูตัวให้พี่ชายของลูก ลูกต้องตรวจสอบให้แม่ด้วยนะ!”
จะได้ไม่เหมือนกับครั้งนี้ที่เลือกผู้หญิงที่ยังตัดความสัมพันธ์ไม่ขาดมา!
ฉู่ลั่วนึกถึงโหงวเฮ้งของฉู่เหิงที่ตนเองเคยดูเอาไว้ ก็พูดเตือนซ่งเชียนหย่าว่า “พี่ใหญ่มีเนื้อคู่อยู่แล้วค่ะ”
ซ่งเชียนหย่าถอนหายใจ “เขาแข็งทื่อเป็นตอไม้ขนาดนั้น จะมีเนื้อคู่จากไหนกันเล่า!”
[1] บูนี่แบร์เป็นซีรีส์การ์ตูนแอนิเมชันจีนที่แสดงบนแพลตฟอร์มและสถานีโทรทัศน์จีนหลายแห่ง
[2] 红鸾星 ดาวหงหลวน คือดาวที่ใช้ทำนายเรื่องการแต่งงาน