เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 78 เธอค่อนข้างน่ากลัว
บทที่ 78 เธอค่อนข้างน่ากลัว
ก่อนหน้านี้ครอบครัวของอันเชี่ยนกับหนานฉีได้จัดพิธีหมั้นหมายกันเป็นส่วนตัวไปแล้ว โดยไม่ได้เชิญญาติและเพื่อน ๆ มาร่วมงาน ส่วนงานหมั้นหมายครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะทั้งสองครอบครัวมีการร่วมมือทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ จึงคิดจะให้การจัดงานครั้งนี้ประกาศเรื่องราวออกไป
แต่หนานฉีอายุไม่น้อยแล้ว ทั้งสองครอบครัวจึงอยากให้ทั้งคู่รีบแต่งงานกัน
งานหมั้นถูกจัดขึ้นในโรงแรมระดับแนวหน้าที่สุดของตี้จิง
ตระกูลหนานและตระกูลอันล้วนเป็นตระกูลร่ำรวย ลูกสาวลูกชายของสองตระกูลดองกัน งานหมั้นจึงจัดขึ้นอย่างหรูหราอลังการ
ด้านนอกโรงแรมยังมีนักข่าวมาถ่ายรูปอีกด้วย
ฉู่ลั่วเปลี่ยนมาสวมกี่เพ้าที่ซ่งเชียนหย่าสั่งตัดให้เป็นพิเศษ ทั้งสองแม่ลูกต่างสวมกี่เพ้าเข้าคู่กัน เมื่อปรากฏตัวภายในงานก็ดึงดูดสายตาของทุกคนไปหมด
กี่เพ้าทำมือดูเรียบหรู หลังจากฉู่ลั่วกลับมายังบ้านตระกูลฉู่ ร่างกายที่แต่เดิมเพรียวบางร่างน้อย เมื่อสวมกี่เพ้าที่งดงามก็ยิ่งขับเน้นช่วงเอวที่เล็กคอดออกมา
ผมสีดำขลับถูกรวบขึ้นด้วยปิ่นหยก ช่อไข่มุกห้อยระย้าสั่นไหวยามที่เธอก้าวเดิน
สายตาทุกคู่จับจ้องตามการเคลื่อนไหว
ซ่งเชียนหย่าเห็นสายตาอิจฉาและตกตะลึงของผู้คนรอบตัวก็พอใจมาก
ลูกสาวของเธอ แม้จะไม่ได้เลี้ยงมากับมือ แต่ก็เติบโตมาเป็นสาวสวยสะพรั่ง และมีความสง่างามในตัว
สมกับที่เป็นลูกสาวของเธอ ซ่งเชียนหย่า
อีกด้านหนึ่ง ฉู่เหว่ยฮ่าวกับลูกชายมาถึงงานเลี้ยงแล้ว เมื่อเห็นสองแม่ลูกเดินเข้ามา ดวงตาก็เป็นประกาย
แต่ไม่นาน สีหน้าของฉู่เหว่ยฮ่าวกับฉู่เหิงก็อึมครึมลง
สองพ่อลูกรีบเดินเข้าไปหา
ฉู่เหว่ยฮ่าวให้ซ่งเชียนหย่าควงแขนไว้ ส่วนฉู่เหิงก็ให้ฉู่ลั่วคล้องแขน ก่อนจะกวาดมองรอบข้างด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
สายตาสุภาพบุรุษที่จับจ้องอย่างเปิดเผย ต่างก็ถูกเก็บกลับไปหมดแล้ว
ที่ชั้นสอง ฉู่หร่านที่เห็นภาพนี้มีสีหน้าบิดเบี้ยวไปชั่วขณะ ก่อนจะเก็บสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว เธอพูดกับอันเชี่ยนด้วยน้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจว่า “ไปกันเถอะ”
แต่อันเชี่ยนกลับคว้าแขนของเพื่อนสนิทเอาไว้ด้วยความโกรธ “คุณป้าซ่งหมายความว่ายังไง? คุณป้ากับฉู่ลั่วสวมชุดแม่ลูกคู่กัน แต่กลับให้เธอแต่งตัวสไตล์ตะวันตก”
ฉู่หร่านยิ้มขมขื่น พลางส่ายหน้า “ยังไงฉันก็ไม่ใช่ลูกสาวที่แท้จริงของพวกเขา”
“ทำไมตระกูลฉู่ถึงเป็นแบบนี้!” อันเชี่ยนเป็นเดือดเป็นร้อนแทน “ต้องเป็นเพราะฉู่ลั่วยัยผู้หญิงคนนั้นสร้างเรื่องเอาไว้แน่ ถ้าฉันไม่สั่งสอนยัยนั่นสักหน่อยคงไม่ได้แล้ว!”
เธอดึงฉู่หร่านลงไปชั้นล่าง
แต่ฉู่หร่านกลับรั้งเพื่อนไว้ และพูดกล่อมว่า “วันนี้เป็นวันมงคลของเธอนะ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่สำคัญเท่าเธอแล้ว”
เธอพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เรื่องของฉันเอาไว้ค่อยว่ากันนะ”
ยิ่งพูดแบบนี้ ในใจของอันเชี่ยนก็ยิ่งเอ็นดูฉู่หร่าน
รอจนกระทั่งงานเลี้ยงผ่านไปอย่างราบรื่น อันเชี่ยนก็พาเพื่อนสนิทไปตามหาฉู่ลั่ว พวกเธอเดินหารอบห้องโถงจัดงานเลี้ยงก็ไม่เจอ สุดท้ายก็มาพบอยู่ในสวนเล็ก ๆ กลางแจ้ง
ฉู่ลั่วนั่งอยู่บนม้านั่งยาว สายตามองตรงไปข้างหน้า พลางพูดพึมพำสองสามประโยค
เนื่องจากอยู่ห่างกันไกลเกินไป ทั้งสองจึงได้ยินไม่ชัด
อันเชี่ยนจับมือฉู่หร่านไว้ แล้วถามว่า “ฉู่ลั่วคนนี้มีปัญหาทางจิตหรือเปล่า? ทำไมถึงพูดกับอากาศแบบนั้น!”
ฉู่หร่านนึกถึงทักษะเหล่านั้นของน้องสาว ก็หดตัวด้วยความตกใจ “ช่างเถอะ! เธอค่อนข้างจะน่ากลัวน่ะ”
จากนั้นก็เล่าเรื่องที่มีนักพรตไปที่บ้านให้ฟัง
ทั้งยังบอกอีกว่าฉู่ลั่วเลี้ยงผีสางเอาไว้ในบ้าน ตอนนี้เพื่อให้ได้อยู่กับพวกมัน เธอจึงย้ายออกไปอยู่ข้างนอก
ตอนแรกอันเชี่ยนไม่เชื่อคำพูดของฉู่หร่าน แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่ฉู่ลั่วย้ายออกไป ก็อดจะปฏิเสธไม่ได้
ตอนนี้ในสวนดอกไม้ค่อนข้างมืดสลัว มีเพียงอักษรมงคลคู่สีแดงขนาดใหญ่แขวนเอาไว้ที่ต้นไม้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง
เดิมทีการตกแต่งนั้นดูรื่นเริงมาก แต่เมื่อฉู่หร่านพูดแบบนั้นออกมา
พวกเขามองไปที่ฉู่ลั่วซึ่งนั่งอยู่ในสวนดอกไม้อีกครั้ง ก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที
ภายใต้แสงสลัว หญิงสาวร่างผอมคนหนึ่งนั่งอยู่บนม้านั่งยาว มีแสงสีแดงสะท้อนอยู่รอบตัวอย่างประหลาด
และที่แปลกไปกว่านั้น คือฉู่ลั่วพูดกับอากาศเป็นบางครั้งบางครา
อันเชี่ยนตัวสั่น
ฉู่หร่านเองก็กลัวจนขนลุก
ทั้งสองคนมองหน้ากัน พวกเธอล้มเลิกแผนการก่อกวนฉู่ลั่วในตอนนี้ไปก่อน
“ครั้งหน้าต้องมีโอกาสแน่”
“ใช่ พวกเราไม่รีบ… ไม่รีบจริง ๆ!”