เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 82 คฤหาสน์ตระกูลฮั่ว
บทที่ 82 คฤหาสน์ตระกูลฮั่ว
ณ คฤหาสน์ตระกูลฮั่ว
ซ่งจือหนานจอดรถไว้ด้านหน้า ก่อนหันไปมองผู้โดยสารทั้งสองที่นั่งอยู่เบาะหลัง “พี่ลั่ว พวกเราจะเข้าไปยังไงครับ?”
ฉู่ลั่วเปิดประตูรถแล้วเดินลงไป ซ่งเชียนหย่าตามลงมา พลางมองดูประตูของคฤหาสน์ตระกูลฮั่วที่ปิดสนิทด้วยความกังวลใจเล็กน้อย
ตระกูลฮั่วเป็นตระกูลเก่าแก่และร่ำรวยที่มีชื่อเสียงของเมืองตี้จิง
ในสี่ตระกูลชั้นสูงของตี้จิง ตระกูลฮั่วคือตระกูลที่ฝังรากลึกที่สุด
ฉู่ลั่วเดินตรงไปที่รั้วเหล็กก่อนจะกดกริ่งที่ประตู ไม่นานชายวัยห้าสิบกว่าปีที่สวมชุดจงซาน*[1] ก็เดินเข้ามา “ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรหรือครับ?”
เธอกล่าวเสียงนิ่ง “ฉันชื่อฉู่ลั่วค่ะ มีหายนะเกิดขึ้นกับบ้านตระกูลฮั่ว ฉันจะมาแก้ไขให้ค่ะ”
ใบหน้าของชายผู้นั้นเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวทันที เขารีบปิดประตูเหล็กเสียงดังปัง!
ซ่งเชียนหย่าเดินมาหา “ดูเหมือนพวกเขาจะไม่เชื่อลูกนะ”
ฉู่ลั่วเอ่ย “รออีกสักพัก เดี๋ยวพวกเขาก็ออกมาเปิดประตูค่ะ”
ซ่งจือหนานเชื่ออย่างสนิทใจ เขายังรู้อีกด้วยว่าคุณชายฮั่วจิ่วติดตามอยู่ข้างกายเธอ
การที่ฉู่ลั่วมาที่บ้านตระกูลฮั่ว ต้องเกี่ยวข้องกับฮั่วจิ่วอย่างแน่นอน
เพียงแต่…
เขามองไปรอบ ๆ แต่กลับไม่เห็นวิญญาณของฮั่วจิ่วเลย
เป็นไปตามที่ฉู่ลั่วคาดการณ์ไว้ หลังจากชายสวมชุดจงซานจากไปได้ครู่หนึ่ง ก็รีบวิ่งเหยาะ ๆ กลับมา เขาเปิดประตูอีกครั้ง ด้วยสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไป “เชิญครับ เชิญครับ”
เมื่อครู่เขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็นพวกหลอกลวง หลังจากเข้าไปก็ถูกคุณผู้หญิงเรียกไปถาม
ทันทีที่คุณผู้หญิงได้ยินชื่อฉู่ลั่วกับสิ่งที่บอกเอาไว้ ก็รีบให้เขามาเชิญตัวเข้าไปทันที
ตระกูลซ่งกับตระกูลฉู่ก็เป็นหนึ่งในสองตระกูลร่ำรวยของเมืองเจียง แต่หากเทียบกับตระกูลฮั่วแล้ว ยังถือว่าห่างชั้นกันมากโข
คฤหาสน์ตระกูลฮั่วเพียงหลังเดียว ก็ไม่ใช่ที่ที่คนธรรมดาจะซื้อได้แล้ว
พวกฉู่ลั่วถูกพาเข้ามาในห้องรับแขกที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่หรูหรา เข้ากับหญิงสาวรูปร่างอ้อนแอ้นในชุดกี่เพ้าสีขาวปักลายครามและห่มผ้าคลุมไหล่ผู้ยืนรอต้อนรับ
แม้จะอายุมากแล้ว แต่เธอยังดูแลตัวเองเป็นอย่างดี แม้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นเฉย ๆ ก็ยังดูเหมือนอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงาม
“หนูคือฉู่ลั่วใช่ไหมจ๊ะ?” หยางไต้เดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม “ตัวจริงสวยกว่าในไลฟ์อีกนะ!”
“ขอบคุณค่ะ”
หยางไต้ทักทายซ่งเชียนหย่ากับซ่งจือหนานเช่นกัน เธอไม่ได้พิรี้พิไรอะไรมากนัก แต่ถามเข้าประเด็นเลยว่า “ฉันได้ยินลุงไป๋บอกมา หนูบอกว่าตระกูลฮั่วมีหายนะเกิดขึ้น ใช่ไหมจ๊ะ?”
ฉู่ลั่วพยักหน้า เธอกวาดสายตามองห้องรับแขกของตระกูลฮั่ว “สามเดือนที่ผ่านมาตระกูลฮั่วมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นติดต่อกันใช่ไหมคะ”
เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา รอยยิ้มบนใบหน้าของหยางไต้ก็หายไปทันที “หนูดูออกด้วยเหรอ?”
เด็กสาวกล่าวต่อ “พลังหยินปกคลุมไปทั่วทั้งบ้าน ไม่ใช่แค่คนตระกูลฮั่วที่เจอเรื่องร้าย แต่คนที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลฮั่วก็เกิดเรื่องเช่นกัน”
หยางไต้มองลุงไป๋ เขาเองก็พยักหน้าด้วยความหวาดกลัว “คุณผู้หญิง ก่อนหน้านี้เกรงว่าคุณจะกังวล ก็เลยไม่ได้บอกครับ เดือนก่อนนู้น ตอนที่คนสวนทำสวนอยู่ ไม่ทันระวังถูกจอบกระแทกเข้าที่เท้า”
“เมื่อเดือนที่แล้ว ตอนที่พ่อครัวกำลังทำอาหารก็ถูกมีดบาดมือ”
“และเดือนนี้ ป้าที่ทำความสะอาดก็ตกลงมาจากชั้นสอง ขาหักครับ”
เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ทำนองนี้เกิดขึ้นหลายครั้งมาก ก่อนหน้านี้ลุงไป๋ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ คิดว่าคนรับใช้ในคฤหาสน์พากันเฉื่อยชาเพราะคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงไม่มีแก่ใจจะจัดการดูแลคฤหาสน์
แต่ตอนนั้นเมื่อได้ยินที่ฉู่ลั่วพูด หลังของเขาก็เย็นเฉียบขึ้นมาทันที
หยางไต้เองก็คิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้ เธอสงบสติอารมณ์ พลางมองไปทางอีกฝ่าย “ปรมาจารย์ฉู่ สาเหตุมาจากตระกูลฮั่วใช่ไหมคะ? หรือเป็นเพราะคฤหาสน์หลังนี้?”
ฉู่ลั่วเอ่ย “พลังหยินติดตามคนตระกูลฮั่วเข้ามา และเพราะความพิเศษของคฤหาสน์ ทำให้มันยังคงตกค้างอยู่ในคฤหาสน์นี้ค่ะ”
ลมหายใจของหยางไต้สะดุด เธอรีบถามว่า “ความพิเศษจากตัวคฤหาสน์… พิเศษยังไงเหรอคะ?”
“พลังหยินแข็งแกร่งเกินไป ตอนนี้ฉันตามหาตำแหน่งได้ค่ะ แต่ไม่สามารถบอกเจตนาของมันอย่างเจาะจงได้ ฉันต้องเห็นของสิ่งนั้นก่อน ถึงจะมั่นใจ”
หยางไต้พยักหน้ารัว ๆ “ทำตามที่คุณบอกเลย ทำตามที่คุณบอกเลยค่ะ”
ลุงไป๋ไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ “คุณผู้หญิง คุณผู้ชายท่าน…”
“ฉันจะติดต่อไปหาคุณผู้ชายเอง” หยางไต้พูดแล้ว ก็ติดต่อไปหาสามีของตนเอง พร้อมกับเล่าสถานการณ์ให้ฟัง
หลังจากที่เธอวางสายก็พูดว่า “ปรมาจารย์ฉู่ คุณดูก่อนได้เลยค่ะ อีกไม่นานสามีของฉันก็จะกลับมาแล้ว”
[1] ชุดสูทจงซาน (中山装) โดยมีที่มาจากชื่อ ซุนยัตเซ็น ผู้คิดค้น มีลักษณะเป็นเสื้อคลุมติดกระดุมห้าเม็ด แขนยาว คอตั้งมีปกพับลง มีกระเป๋าสี่ใบ