เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 84 รวบรวมพลังหยิน
บทที่ 84 รวบรวมพลังหยิน
หลังจากส่งคนของสถานีตำรวจแล้ว ฮั่วจิ้นก็ประคองภรรยากลับไปยังคฤหาสน์หลัก ในขณะที่ฉู่ลั่วออกมาจากเรือนหลังเล็กแล้วเช่นกัน
ฮั่วจิ้นถึงรู้ว่าฉู่ลั่วเป็นเด็กสาวที่ดูดีมากคนหนึ่ง
ทั้งหน้าตาสะสวยและสง่างาม
“นี่คือฉู่ลั่วที่คุณพูดถึงใช่ไหม?”
หยางไต้พยักหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง เมื่อเห็นฉู่ลั่วก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาเล็กน้อย เธอรีบเข้าไปหา และจับมือเด็กสาวเป็นการใหญ่ “ปรมาจารย์ฉู่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ? ทำไม… ทำไมในคฤหาสน์ถึงมี…”
แม้เธอจะไม่เห็นด้วยตัวเอง แต่แค่นึกภาพ ก็จินตนาการออกเลยว่ามันน่ากลัวมากขนาดไหน
“เพราะมีคนต้องการทำร้ายคนตระกูลฮั่วค่ะ”
หยางไต้หน้าเสีย “…”
ฮั่วจิ้นเอ่ยขึ้น “รบกวนท่านปรมาจารย์ช่วยบอกให้ชัดเจนด้วยครับ”
ฉู่ลั่วบอกว่า “นี่คือพิธีกรรมทำลายหยาง รวบรวมหยินของลัทธิเต๋าค่ะ”
รวบรวมหยิน!
ช่างเป็นชื่อที่ไม่ดีเอาเสียเลย
ฉู่ลั่วพูดต่อ “ลัทธิเต๋ากล่าวว่าเต๋าให้กำเนิดหนึ่ง หนึ่งให้กำเนิดสอง สองให้กำเนิดสาม ทั้งสามนี้หมายถึงท้องฟ้า ผืนดิน และมนุษย์ สี่หมายถึงทิศทั้งสี่ และห้าหมายถึงธาตุทั้งห้า… ถ้าให้ง่ายต่อการอธิบาย ก็เหมือนหลักการเชื่อมโยงนั่นแหละค่ะ เก้าเป็นสิ่งที่อยู่ในขั้นสูงสุด เป็นเลขที่มีค่ามากที่สุดในบรรดาเลขหนึ่งหลัก เป็นจำนวนหยาง แต่เลขเก้าที่บวกกันทั้งหมดเก้าครั้งคือเลขแปดสิบเอ็ด เป็นตัวเลขหยางบริสุทธิ์ที่สุดในจำนวนหยาง”
“ทุกสรรพสิ่งมีพลังหยินและโอบกอดพลังหยาง คนเป็นคือหยาง คนตายคือหยิน”
ฉู่ลั่วพูดมาถึงตรงนี้ พวกฮั่วจิ้นก็เข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว
เก้าคูณเก้าเท่ากับแปดสิบเอ็ด เป็นจำนวนที่สูงสุดแล้ว
ดังนั้นในทางกลับกัน หากนำชิ้นส่วนศพทั้งแปดสิบเอ็ดชิ้นมาวางในคฤหาสน์ตระกูลฮั่ว เท่ากับเปลี่ยนให้มีพลังหยินเต็มเปี่ยม!
สีหน้าของฮั่วจิ้นเคร่งเครียด “พิธีการนี้จะส่งผลอะไรตามมางั้นเหรอ?”
หยางไต้มองเด็กสาวด้วยความกังวล
ฉู่ลั่วเอ่ย “ชิ้นส่วนศพทั้งแปดสิบเอ็ดชิ้น คงจะมาจากคนแปดสิบเอ็ดคนที่เสียชีวิตกะทันหัน พวกเขาย่อมมีความพยาบาท และในระหว่างที่รวบรวมพลังหยิน วิญญาณก็ยิ่งอาฆาตแค้นมากขึ้นไปอีก”
“ตอนนี้แค่ทำให้คนบาดเจ็บ แต่หากปล่อยไว้นานเข้า ไม่นานมันก็จะเอาชีวิตคน”
“ฉันตรวจสอบดูแล้วค่ะ ตำแหน่งที่วางชิ้นส่วนศพ พวกเขาเขียนวันเกิดและดวงชะตาของพวกคุณทั้งสามคนเอาไว้”
“ท้ายที่สุดคนที่ต้องเผชิญหน้ากับความอาฆาต ก็คือพวกคุณทั้งสามคน”
ฮั่วจิ้นกัดฟันกรอด “ทำทุกวิถีทางจริง ๆ”
หยางไต้ถาม “ปรมาจารย์ฉู่แก้ได้ไหมคะ?”
ฉู่ลั่วพยักหน้า “แก้ได้ค่ะ แต่วันนี้คงไม่ได้ ต้องรอให้ทางตำรวจได้รับข้อมูลของคนเหล่านี้ครบทั้งหมดก่อน ถึงจะแก้ได้”
ตัวเธอสามารถตรวจสอบข้อมูลของทั้งแปดสิบเอ็ดคนนี้ได้
แต่การจะตรวจสอบดวงชะตาของคนทั้งแปดสิบเอ็ดคนสิ้นเปลืองพลังวิญญาณ อีกทั้งการแก้พิธีรวบรวมหยิน ก็เปลืองพลังวิญญาณมากเช่นกัน
ฮั่วจิ้นบอกว่า “ผมเร่งทางตำรวจได้ครับ ปรมาจารย์ฉู่ ผมอยากรบกวนให้คุณอยู่ที่คฤหาสน์ได้ไหมครับ?”
หยางไต้เองก็มองมาอย่างคาดหวัง
ถ้ามีปรมาจารย์อยู่ เธอก็อุ่นใจ
ฉู่ลั่วครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้า
หยางไต้จึงให้ลุงไป๋ไปเตรียมที่พักให้พวกเขาทันที
แน่นอนว่าเรือนหลังเล็กอยู่ไม่ได้แล้ว ก็ต้องให้พวกฉู่ลั่วไปพักในคฤหาสน์หลังใหญ่
ตอนแรกซ่งเชียนหย่าก็จะอยู่เป็นเพื่อนฉู่ลั่ว แต่หลังจากได้รับโทรศัพท์จากฉู่หร่านก็มาบอกว่า “ลั่วลั่ว หร่านหร่านเกิดเรื่องนิดหน่อย แม่ต้องไปจัดการให้ หนู…”
คุณแม่พูดไปพลางขมวดคิ้ว ในใจไม่อยากให้ฉู่ลั่วอยู่ที่นี่
ฉู่ลั่วเข้าใจความกังวลของอีกฝ่าย “หนูไม่เป็นอะไรค่ะ”
“แต่ว่า… ของพวกนั้นจะทำร้ายหนูหรือเปล่า?”
เธอส่ายหน้า “ถ้าหนูไม่มั่นใจ หนูไม่มีทางออกหน้าหรอกค่ะ”
ซ่งเชียนหย่าสบายใจขึ้น แต่ในใจก็ยังกังวลอยู่เล็กน้อย เธอพูดกำชับซ่งจือหนานหลายประโยคก่อนจะรีบจากไป
ซ่งจือหนานมองตามแผ่นหลังของป้าซ่งอย่างไม่สบายใจ
เขาแอบกลอกตา “ฉู่หร่านจะมีเรื่องอะไร ไม่น่าใช่เรื่องอันตรายอะไรด้วยซ้ำ ป้าซ่งก็จริง ๆ เลย เวลาแบบนี้ยังปล่อยให้พี่ลั่วอยู่คนเดียว!”
“ครั้งนี้ฉู่หร่านเจอปัญหาใหญ่จริง ๆ”
ได้ยินฉู่ลั่วพูดแบบนั้น ซ่งจือหนานก็ตาเป็นประกายขึ้นมา ใบหน้าของเขามีคำว่า ‘เล่าเลยสิครับ ผมอยากฟัง!’ ปรากฏเต็มไปหมด
ฉู่ลั่วรำคาญความอยากรู้อยากเห็นก็เลยไม่ตอบ เธอเดินทอดน่องเข้าไปในห้องที่ลุงไป๋เตรียมไว้ให้ ทิ้งให้เขายืนงงอยู่แบบนั้น
ทำเอาซ่งจือหนานพูดไม่ออก “…”
ทำไมพี่ลั่วเป็นแบบนี้!?