เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 88 ชีวิตของผมมีค่า
บทที่ 88 ชีวิตของผมมีค่า
ครึ่งชั่วโมงต่อมา วิญญาณของฮั่วเซียวหมิงก็ลอยลงมาจากชั้นบน
ฮั่วจิ้นกับภรรยาก็ออกมาจากห้องหนังสือเช่นเดียวกัน
“ลั่วลั่วจ๊ะ! อาจิ่วของพวกเราคงต้องรบกวนหนูแล้ว” เมื่อเห็นฉู่ลั่ว หยางไต้ก็คว้ามือเธอเอาไว้ มองสำรวจตัวเด็กสาวแล้วยิ้มอย่างอบอุ่นและเอ็นดู
ฉู่ลั่วเอ่ย “…ค่ะ”
เธอรู้สึกว่าหยางไต้กระตือรือร้นผิดปกติ
ฮั่วจิ้นก็ไม่ได้มีท่าทีถือตัวอย่างก่อนหน้า เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม “อาจิ่วบอกแล้วละ ช่วงเวลาที่ผ่านมาต้องขอบคุณหนูลั่วลั่วด้วย ไม่อย่างนั้นคงเกิดเรื่องขึ้นกับเจ้าลูกชายไปแล้ว!”
เขาควักเอาเช็กออกมาอีกหนึ่งใบ “รู้ว่าหนูไม่ได้ขัดสนเงินทอง แต่นี่เป็นน้ำใจเล็กน้อยจากพวกเรา รับไว้เถอะนะ!”
ฉู่ลั่วรับมาดู แววตาของเธอเป็นประกาย
ห้าสิบล้าน!
ก่อนหน้านี้ที่ช่วยพวกเขาแก้ค่ายกลรวบรวมพลังหยิน ฮั่วจิ้นให้เงินตามธรรมเนียมของวงการนี้คือสิบล้านหยวน แต่ครั้งนี้…
“มากเกินไปค่ะ”
ฮั่วจิ้นกับหยางไต้พูดออกมาพร้อมกัน “ไม่มาก ไม่มาก!”
ถึงวิญญาณจะไม่ต้องใช้เงิน แต่สำหรับสองสามีภรรยาคือ… ลูกชายตัวเองไปกินไปนอนบ้านเขา แถมให้ช่วยเหลือสารพัด เท่านี้ไม่มากเลย!
หยางไต้ยังจับมือฉู่ลั่วไว้ “เด็กผู้หญิงน่ะ ต้องซื้อของที่ตัวเองอยากได้ให้มาก ๆ รู้ไหมจ๊ะ ต่อไปถ้าหนูมาที่เมืองหลวงอีก ต้องมาหาป้าด้วยนะ”
ฉู่ลั่วรับปากเสียงนิ่ง “…ค่ะ”
หลังฉู่ลั่วร่ำลาฮั่วจิ้นกับภรรยาเรียบร้อย ก็พาซ่งจือหนานกลับไป
ฮั่วจิ้นกับภรรยายืนอยู่หน้าประตูคฤหาสน์ มองเธอขึ้นรถจากไป
ฉู่ลั่วมองเช็กห้าสิบล้านในมือขณะอยู่บนรถ ก่อนจะพูดกับฮั่วเซียวหมิงว่า “มันมากเกินไป ต่อให้จ่ายตามราคาตลาด ก็ไม่ถึงห้าสิบล้านหรอกนะ”
ฮั่วเซียวหมิงมองเธอ และพูดเสียงเรียบเฉย “ไม่มากหรอก ผมเป็นทายาทของตระกูลฮั่ว ชีวิตของผมมีค่านะ”
ฉู่ลั่วเงียบงัน “…”
ซ่งจือหนานมองเธอที่กำลังขมวดคิ้วผ่านกระจกมองหลัง เขาอ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็อดกลั้นเอาไว้
ช่างเถอะ!
เขาอาจจะคิดมากไปเอง
คุณนายฮั่วเรียกเธอว่าลั่วลั่ว ทั้งยังแทนตัวเองว่าป้า คงเป็นเพราะพี่ลั่วช่วยฮั่วจิ่วเอาไว้
ต้องเป็นเพราะเหตุผลนี้แน่นอน!
พี่ลั่วเก่งกาจและสูงส่งมาก ผู้ชายที่ไหนจะกล้าคิดอะไรเกินเลยกันล่ะ
ไม่มีทางเด็ดขาด!
ซ่งจือหนานขับรถพาไปส่งที่สนามบิน ก่อนจะโบกมือลา “พี่ลั่ว คุณกลับเมืองเจียงไปก่อนนะครับ ผมจะอยู่เที่ยวที่ตี้จิงอีกสองสามวัน”
ฉู่ลั่วขมวดคิ้วพลางมองหน้าอีกฝ่าย “ไม่กลับไปพร้อมฉันจริงเหรอ?”
เขาหัวเราะออกมา “ผมนัดกับเพื่อนไว้แล้วครับ… ฮิฮิฮิ!”
เธอหยิบยันต์แผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า พับเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม แล้วบอกกับซ่งจือหนานว่า “ไม่ว่าจะทำอะไร ต้องพกติดตัวเอาไว้ตลอดนะ”
ซ่งจือหนานรับยันต์มาเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ ก่อนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ “พี่ลั่ว คุณหมายความว่ายังไงเหรอครับ?”
แต่หันมาอีกที ฉู่ลั่วเดินเข้าไปในสนามบินเสียแล้ว
ซ่งจือหนานพูดไม่ออก “…”
เขาลูบยันต์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อเพื่อปลอบใจตัวเอง “คงไม่เป็นอะไรหรอก! พี่ลั่วให้ยันต์แผ่นนี้กับเราแล้วนี่”
…
ถึงเมืองเจียง ฉู่ลั่วก็ลงจากเครื่องบิน และนั่งรถกลับบ้านหลังเล็กของตน
ยังไม่ทันได้เข้าบ้าน ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของซ่งเมี่ยวเมี่ยวกับเฉิงยวนดังออกมาจากข้างใน
เธอแอบอมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูออก
“พี่ลั่วลั่ว กลับมาแล้วเหรอคะ?”
“อืม”
“พี่ชายก็กลับมาด้วย!” ซ่งเมี่ยวเมี่ยวมองฮั่วเซียวหมิงที่เดินตามหลังมา “พวกพี่ดีกันแล้วเหรอคะ?”
ฮั่วเซียวหมิงไม่พูดอะไร เพียงแค่ลูบศีรษะของซ่งเมี่ยวเมี่ยวเบา ๆ ก่อนจะลอยไปยังห้องของตนเอง
แม้พวกเขาจะเป็นผี แต่ฉู่ลั่วยังเตรียมห้องเอาไว้ให้พวกเขาทุกตน ตนละหนึ่งห้อง
ฉู่ลั่วกลับมาบ้านได้ครู่เดียว เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เป็นซ่งเชียนหย่าที่โทรเข้ามา
เธอน้ำเสียงเหนื่อยล้า แต่ยังถามด้วยความเป็นห่วงว่า “ลั่วลั่ว หนูกลับมาเมืองเจียงแล้วใช่ไหม?”
“อืม กลับมาแล้วค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้หนูมาที่บ้านได้หรือเปล่า”
ฉู่ลั่วครุ่นคิด ก่อนตอบว่า “ได้ค่ะ วันนี้หนูจะกลับไปค้างที่บ้าน”
แม้ตอนนี้เธอจะออกจากบ้านได้แล้ว แต่จะออกมานานเกินไปไม่ได้
…
บ้านตระกูลฉู่
ซ่งเชียนหย่ากอดฉู่หร่านที่สะอึกสะอื้น แล้วพูดปลอบว่า “เอาละ ลั่วลั่วบอกแล้วว่าจะกลับมาค้างที่บ้าน รอลั่วลั่วกลับมา เธอต้องตอบรับคำขอร้องของลูกแน่”
ฉู่หร่านขอบตาแดงก่ำ เอ่ยถามว่า “จริงเหรอคะ? ลั่วลั่วไม่ชอบหนูมาตลอด เธอจะตกลงจริงเหรอคะ?”
“แน่นอนจ้ะ พวกลูกเป็นพี่น้องกัน ลั่วลั่วต้องช่วยหนูแน่นอน อีกอย่างเรื่องครั้งนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของหนู”
ฉู่หร่านโถมตัวเข้าสู่อ้อมกอดของซ่งเชียนหย่า และร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ
ซ่งเชียนหย่ากอดเธออย่างปวดใจ พร้อมสายตาแน่วแน่
ลั่วลั่วต้องตอบรับคำขอร้องของหร่านหร่านแน่นอน!
คำขอร้องของหร่านหร่านไม่ได้มากเกินไป ลั่วลั่วต้องตอบรับแน่นอน
หากไม่ตอบตกลง…
สายตาของเธอเกรี้ยวกราดขึ้นมาหลายส่วน