เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล - เล่ม 1 บทที่ 28.1
บทที่ 28
ไม่ได้นะ!
มือของเธอผลักประตูเข้าไปอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงดังน่ากลัว
“คุณหนูฟีเรนเทีย?”
ดอกเตอร์โอมัลลี่มองเธอที่ยืนจับลูกบิดประตูอยู่ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ”
ไม่สบายแน่สิ!
ก็ตอนนี้ใบแนะนำที่ดอกเตอร์ต้องเขียนให้เอสทีร่ากลับหลุดลอยไปให้ชายที่ไม่เคยได้ยินชื่อ ไม่เคยเห็นหน้าที่ไหนมาก่อนเหมือนเช็คเด้งไม่ใช่เหรอไง!
ฟีเรนเทียอยากจะกระชากคอเสื้อของดอกเตอร์โอมัลลี่ที่ทำแบบนั้นลงไปมาเขย่าๆ แต่เธอก็ฝืนยิ้ม เอ่ยถามออกไปด้วยความใสซื่อ
“มีเรื่อง…อะไรดีๆ เหรอคะ”
คำถามของเธอทำให้ผู้ชายตัวมันเลื่อมที่ยืนตื่นเต้นอยู่ข้างดอกเตอร์โอมัลลี่ เดินเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว แล้วเอ่ยทักทายเธอ
“สวัสดีครับ คุณหนู! ข้าชื่อเจสันครับได้รับการแนะนำจากดอกเตอร์โอมัลลี่ในครั้งนี้ และกำลังจะได้ไปอะคาเดมีประจำอาณาจักรครับ! ”
ท่าทางยามทักทายอย่างมีมารยาท อีกทั้งยังดูเป็นมิตรตามแบบฉบับของคนชอบเข้าสังคม นอกจากรู้สึกลำบากใจแล้วก็ไม่มีอะไรที่อีกฝ่ายทำผิดต่อเธอเลยสักจุด
แต่ก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี
แค่แย่งใบแนะนำที่เอสทีร่าของเธอสมควรได้รับไปนั่น เธอก็รู้สึกไม่ถูกใจแล้ว
“อืมมมม ศิษย์ของดอกเตอร์เหรอคะ เพิ่งเคยเห็นหน้าครั้งแรก…”
ที่ผ่านมาเธอเข้าๆ ออกๆ ห้องวิจัยตั้งหลายรอบ แต่นี่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกจริงๆ
“เจสันเป็นศิษย์ที่ข้าเคยสอนอยู่ช่วงหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนครับ”
หลายปีก่อน อยู่ช่วงหนึ่ง? ไม่ใช่ตอนนี้ด้วย?
“บอกว่าอยากจะไปอะคาเดมีของอาณาจักรครั้งนี้ ก็เลยช่วยเขียนใบแนะนำให้น่ะครับ ฮ่าฮ่า!”
“ขอบพระคุณมากจริงๆ ครับ ใบแนะนำของดอกเตอร์โอมัลลี่เนี่ย! ต่อให้เป็นห้องวิจัยของอะคาเดมีก็คงจะได้รับความสนใจมากเลยนะครับ! ”
แค่จินตนาการ เจสันก็ไม่อาจเก็บซ่อนรอยยิ้มเปี่ยมไปด้วยความสุขไว้ได้
เทียบกับเขาแล้ว ใบหน้าของเอสทีร่ากลับหม่นหมองลงไปถึงแม้จะกำลังฝืนหัวเราะ แต่เธอก็รู้ได้ว่านางค่อนข้างเศร้าพอตัว
“ถ้างั้นข้า…”
เจสันลอบสังเกตสีหน้าของเธอในขณะที่เปิดปากพูดกับดอกเตอร์โอมัลลี่
“คุณหนูฟีเรนเทีย คงไม่ได้มาเพราะร่างกายรู้สึกไม่สบายใช่มั้ยครับ”
ดูเหมือนว่าดอกเตอร์โอมัลลี่กับเจสันจะมีที่ไหนให้ต้องแยกตัวไป บางทีคงจะตอบแทนเรื่องที่ช่วยเขียนใบแนะนำให้ละมั้ง เธอพยักหน้าตอบรับด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
“มาหาเอสทีร่าค่ะ ไปเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วง”
“ครับ ถ้างั้นไว้เจอกันครั้งหน้านะครับ”
ดอกเตอร์โอมัลลี่พาเจสันที่ยังคงยิ้มกว้างไม่หยุดออกไปจากห้องทดลอง
ข้างในพื้นที่ที่เงียบลง เอสทีร่ากำลังขยับตัวอย่างแข็งขันอีกครั้ง เก็บแก้วที่ถูกวางทิ้งไว้อยู่บนโต๊ะ จัดเก็บจานของว่าง
ฟีเรนเทียเดินเข้าไปหาเอสทีร่าที่กำลังทำเช่นนั้นอย่างระมัดระวัง แล้วเอ่ยพูด
“เอสทีร่า ไม่เป็นอะไรนะ?”
เอสทีร่ายกยิ้มจางๆ ให้กับคำถามของเธอ
“ค่ะคุณหนู ไม่เป็นไรค่ะ ข้าต่างหากล่ะคะ ที่ต้องขอโทษคุณหนู”
“ข้า? ขอโทษข้าเหรอ”
เธอไม่เข้าใจคำพูดของเอสทีร่า
“มีเรื่องอะไรให้ต้องขอโทษกัน ถึงแม้คนที่ชื่อเจสันจะออกตัวไวแย่งไปก่อนก็จริง แต่ถ้าหากพูดกับดอกเตอร์โอมัลลี่ดีๆ ก็จะต้องยอมเขียนใบแนะนำให้เอสทีร่าด้วยแน่นอน”
แต่รอยยิ้มขมขื่นของเอสทีร่ากลับยิ่งดูเศร้าลงมากกว่าเดิม
มีอะไรแปลกๆ
มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องหดหู่ขนาดนี้เลยนี่นา
“เอสทีร่า?”
“ใบแนะนำน่ะ…”
เอสทีร่าเม้มปากแน่นครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดปากออกอีกครั้งอย่างยากลำบาก
“ใบแนะนำสำหรับอะคาเดมี จะใช้ได้แค่ปีละใบเท่านั้นค่ะ คุณหนู”
“บะ..ใบเดียว?”
“ค่ะ”
เอสทีร่าเป็นฝ่ายยิ้มราวกับจะปลอบโยนเธอที่ยืนเอ๋อหลังจากเพิ่งจะเข้าใจในสถานการณ์
“ปีหน้า…ปีหน้าก็คงจะเขียนให้ข้าด้วย…จริงไหมคะ”
เธอมองใบหน้าที่กำลังยิ้มที่ไม่ใช่ยิ้มจริงๆ รู้สึกได้ว่าเธอสมควรที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้
มันเป็นความผิดของเธอเองที่เกียจคร้าน
ทั้งๆ ที่บอกว่าจะช่วยส่งไปเรียนที่อะคาเดมี แต่กลับไม่ได้ใส่ใจอย่างที่ควรเพราะเธอเคลื่อนไหวก็ตอนที่ใกล้ถึงวันหมดเขตส่งใบสมัคร ทำให้พลาดใบแนะนำของดอกเตอร์โอมัลลี่จนได้
เธอมองไหล่ของเอสทีร่าที่ตกลู่ลงพลางเอ่ยพูด
“อย่ากังวลไปเลย เอสทีร่า”
“ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใด ข้าก็จะต้องส่งเจ้าไปอะคาเดมีให้ได้”
ถ้าหากไม่สามารถขอใบแนะนำจากดอกเตอร์โอมัลลี่ได้ ก็แค่ต้องไปขอใบแนะนำจากคนอื่นเท่านั้นเอง