เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล - เล่ม 4 บทที่ 152.1
ตอนที่ 152
ลางสังหรณ์อันเลวร้ายไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้กำลังครอบงำเฟเรส
เขาหันหลังให้เจ้าตระกูลไอบัน วิ่งออกมาจากห้องทำงาน และร้องเรียกชื่อของฟีเรนเทียอย่างบ้าคลั่ง
“เทีย! อยู่ที่ไหน เทีย!”
ผู้คนในคฤหาสน์และกระทั่งเจ้าหน้าที่ทางการ เมื่อได้เห็นภาพลักษณ์เช่นนั้นของเฟเรสก็พากันส่งเสียงฮือฮา เพราะรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ
หลายคนเริ่มช่วยกันออกตามหาฟีเรนเทีย
เฟเรสวิ่งตรงไปยังห้องนอนของฟีเรนเทีย
และเปิดประตูออกพรวด ในขณะที่ตะโกนเสียงดังลั่น
“เทีย!” แต่คนที่รอต้อนรับเฟเรสกลับกลายเป็นเบคกี้ ผู้ดูแลที่กำลังจัดเก็บเสื้อผ้าอยู่
“คะ คุณหนูลอมบาร์เดียไปที่ลานก่อสร้างสะพาน…”
เฟเรสกัดฟันกรอด พยายามที่จะไม่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาแต่กลับใส่แรงลงไปยังมือข้างที่กำดาบเอาไว้แน่นจนทุกข้อนิ้วเป็นสีขาวซีด
เฟเรสวิ่งลงตามขั้นบันไดของคฤหาสน์อย่างเร่งรีบราวกับจะเหาะลงมา เขาวิ่งตรงไปกระโดดขึ้นหลังม้า แล้วมุ่งหน้าไปยังหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ยืนเฝ้าป้อมปราการอยู่ในทันที
ดูเหมือนกำลังประชุมด่วนกันอยู่ หัวหน้าทหารยามหันไปมองเฟเรสที่จู่ๆ ก็โผล่พรวดพราดเข้ามาด้วยความตกใจ
“บริเวณที่สะพานถล่มลงมา ถนนที่จะเชื่อมไปถึงที่นั่นได้คือฝั่งไหน”
หัวหน้าทหารยามชี้ไปยังภูเขาที่ถล่มลงมาโดยไม่พูดอะไร
ในตอนนั้นเอง เจ้าตระกูลไอบันก็มาถึงป้อมทหารยามด้วยความรีบร้อนเช่นกัน
“ไปตามตัวพวกที่ไปยังที่เกิดดินถล่มกลับมาให้หมด ต้องตรวจเช็กให้แน่ใจว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่”
แต่แล้วในตอนที่เจ้าตระกูลไอบันออกคำสั่งด้วยใบหน้าเคร่งขรึมหัวหน้าทหารยามก็เอ่ยด้วยสีหน้าซีดเผือด
“รถม้าคันหนึ่งอยู่บนถนนพอดีก่อนจะเกิดเหตุดินถล่ม ถูกฝังอยู่ข้างใต้นั่นครับ”
“รถม้าอย่างนั้นหรือ ใครกัน”
“รถม้าติดสัญลักษณ์ตระกูล…ลอมบาร์เดียครับ”
“เฮือก!” ผู้คนต่างตกอยู่ในอาการช็อก
ในไอบัน คนที่จะนั่งรถม้าติดสัญลักษณ์ลอมบาร์เดียมีเพียงแค่คนคนเดียวเท่านั้น
ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย
ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย ถูกฝังอยู่ใต้กองหินและดินโคลนภูเขาอย่างนั้นหรือ
“ดะ ได้ยังไง” ใบหน้าของเจ้าตระกูลไอบันซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว
เส้นความอดทนที่เหลืออยู่เส้นสุดท้ายของเฟเรสเองก็ขาดผึงเช่นกัน
“อ๊อก!”
มือหยาบของเฟเรสคว้าคอเสื้อของเจ้าตระกูลไอบันขึ้นมาราวกับต้องการจะบีบคอให้ตาย
“ทะ ท่านเจ้าตระกูล!”
บรรดาทหารยามต่างตกใจสะดุ้งโหยง พยายามจะเข้าไปใกล้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าบุ่มบ่ามเข้าไปแทรกทั้งคู่
เรื่องที่การก่อสร้างบูรณะเขตแดนเหนือล่าช้าไปมากเป็นเพราะเจ้าตระกูลไอบันปฏิเสธไม่รับเงินช่วยเหลือ เป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็รู้กันทั้งนั้น
ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณหนูลอมบาร์เดียยังมาเกิดอุบัติเหตุขึ้นในเขตแดนไอบันอีก
ไหนจะจิตสังหารอย่างรุนแรงของเฟเรสนั่นอีก มันกำลังส่งเสียงร้องเตือนว่า หากกล้าเข้ามาใกล้ก็เตรียมใจโดนเขาบั่นศีรษะได้เลย ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม
เจ้าตระกูลไอบันเองก็รู้ถึงความผิดที่ตัวเองก่อ ทำให้ถึงแม้จะไอเสียงดังค็อกแค็ก แต่ก็ยังไม่กล้าแกะมือของเฟเรสออก
เฟเรสกัดฟันกรอด เขาเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำคล้ายเสียงคำราม
“ตอนนี้เข้าใจหรือยังล่ะว่าเจ้าทำเรื่องอะไรลงไป เจ้าตระกูลไอบัน”
“…”
เจ้าตระกูลไอบันได้แต่ปิดปากแน่น ไม่อาจตอบโต้อะไรออกไปได้
โครม-!
เฟเรสผลักเจ้าตระกูลไอบันจนกระเด็น แล้วเตะประตูป้อมอย่างแรงจนส่งเสียงดังสนั่นก้องไปทั่ว
ม้าที่ชายหนุ่มขึ้นควบวิ่งฝ่าสายลมสายฝนที่พัดรุนแรงขึ้นยิ่งกว่าเดิม เพียงไม่นานก็มาถึงจุดที่ดินถล่ม
เจ้าตระกูลไอบันกับทหารยามเองก็ตามหลังชายหนุ่มมา แต่เมื่อมาถึงแล้วกลับไม่มีใครพูดอะไรออกมาได้แม้แต่คนเดียว
ถนนถูกตัดขาดด้วยดินและทรายที่ถล่มลงมา หินก้อนใหญ่ยักษ์กลิ้งตกลงมาจากไหล่เขา และสุมท่วมทับกันอยู่ตรงนั้น
“ทะ ทำไมหิน…”
ถ้าจะขุดดินพวกนี้ จำเป็นต้องเอาหินก้อนยักษ์นี่ออกไปก่อนแต่การจะทำแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว บางทีคงจะกินเวลาไปหลายวันและย่อมไม่มีใครที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินโคลนเหล่านี้จะทนมีชีวิตรอดอยู่ได้นานขนาดนั้นแต่จะปล่อยเอาไว้เฉยๆ โดยไม่ลงมือทำอะไรก็ไม่ได้อย่างน้อยคนที่ถูกฝังอยู่ในนั้นก็เป็นถึงฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย
เจ้าตระกูลไอบันตะเบ็งเสียงออกคำสั่งทหารยามจนเส้นเลือดปูนขึ้นบนลำคอ
“เรียกแรงงานทุกคนมารวมกันที่นี่ ย้ายหินก้อนนั้นออกไปให้ได้! ส่วนเจ้ารีบกลับไปที่ป้อมปราการ ไปเอาเครื่องมือตัดหินมาเร็วเข้า!”
จะปล่อยให้ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดียเสียชีวิตที่นี่ไม่ได้เด็ดขาดหากปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนั้น เขาคงไม่อาจรับมือได้ และคงถูกขับไล่ลงจากตำแหน่งเจ้าตระกูลไอบันเป็นแน่
เจ้าตระกูลไอบันตะโกนออกคำสั่งเสียงดัง ไม่ได้รู้กระทั่งว่าผมสีขาวโพลนทั่วศีรษะเปียกปอนไปด้วยหยาดน้ำฝน
“รีบลงมือเร็วเข้า!”
“ครับ!” แต่แล้วในตอนที่พวกเขาพับแขนเสื้อขึ้น เดินตรงเข้าไปยังหินก้อนที่อยู่ด้านบนสุดนั่น
เฟเรสที่ยืนนิ่งมองหินกองใหญ่ด้วยสายตาว่างเปล่า ก็ผลักพวกทหารที่ยืนขวางทางเขาอยู่ออกไปด้านข้าง
“หลีก” เฟเรสเพียงแค่เอ่ยเสียงทุ้มคำเดียวเท่านั้น
และ
ชิ้ง-!
เสียงโลหะแหลมคมดังขึ้น พร้อมกับออร่าสีน้ำเงินส่องสว่างเป็นประกาย
ออร่าสีน้ำเงินกำลังห่อหุ้มไปทั่วดาบที่เฟเรสชักออกจากฝักอย่างรวดเร็ว
ปัง!
ในตอนที่เฟเรสกวัดแกว่งดาบเป็นครั้งที่สอง หินก้อนใหญ่ก็แตกออกเป็นสองซีก กลิ้งตกลงไปจากเนิน
แต่ถึงอย่างนั้นเฟเรสก็ยังไม่ยอมหยุดเขาแกว่งดาบออร่าอย่างบ้าคลั่ง เอาแต่ฟาดฟันลงบนหินก้อนใหญ่ไม่ยั้ง
หากฟันลงไปหนึ่งครั้งแล้วหินยังไม่ยอมแตก เขาก็จะฟาดฟันลงไปห้าครั้ง สิบครั้ง
เคร้ง! โครม!
“โอ้ว…”
เจ้าตระกูลไอบันออกคำสั่งเสียงดุดันไปยังเหล่าพลทหารที่ได้แต่ยืนมองภาพนั้นด้วยความตกตะลึงจนกลายเป็นรูปปั้นหิน
“มัวทำอะไรกันอยู่! รีบๆ เข้าไปย้ายหินที่ถูกตัดพวกนั้นสิ!”
“อ๊ะ ครับ! ขะ เข้าใจแล้วครับ!”