เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล - เล่ม 5 บทที่ 182.2
เฮือก
คิลลาร์ด บราวน์ สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความตกตะลึง
“เรื่องนั้น…”
“เจ้าหมาล่าเนื้อนั่นสั่งมาหรือไง ในเมื่อเจ้าตัวไม่มีอำนาจในที่ประชุมสภาขุนนาง เลยให้พวกเจ้ามาลองเดิมพันกับลอมบาร์เดียดู”
“…ขออภัยครับ”
คิลลาร์ด บราวน์ พูดอะไรไม่ออก
เพราะมันเป็นอย่างที่รูลลักพูด
การส่งสารมาหาเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียเป็นความคิดของเจ้าชายลำดับที่สอง และพวกเขาก็คิดที่จะใช้ความสนิทสนมของตระกูลบราวน์กับลอมบาร์เดียในอดีตให้เป็นประโยชน์จริงๆ
“อืมมมม”
มุมปากของรูลลักกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ยามมองเจ้าตระกูลบราวน์ที่นั่งนิ่งด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความรู้สึกผิด
“รู้เสียเถอะว่าเจ้าโชคดีแล้ว”
“ครับ…?”
นัยน์ตาของคิลลาร์ด บราวน์ เบิกกว้าง
“โชคดีที่ช่วงนี้ข้าไม่ถูกใจพวกอังเกนัสเอาเสียเลยน่ะสิ”
“ท่านผู้อาวุโส ถ้าอย่างนั้น…”
รูลลักนิ่งเงียบไม่ตอบอะไรอยู่ครู่หนึ่ง
และกดกริ่งข้างกาย
พ่อบ้านโยฮันจึงเดินเข้ามาในห้องทำงาน
รูลลักหันไปมองหน้าอีกฝ่ายพลางเอ่ยพูด
“พาเทียมาพบข้า”
* * *
“ทราบ…อยู่แล้วหรือคะ”
เสียงของราโมนา บราวน์ สั่นเทา
“ค่ะ”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่สิ ได้ยังไงกัน….”
เธอเพียงแค่ยิ้มน้อยๆ แทนคำตอบ
“ราโมนา”
แคทเธอรีนเดินเข้ามาจับไหล่ของราโมนาเอาไว้
พฤติกรรมอาจจะดูเหมือนแค่กำลังปลอบโยนราโมนาที่ดูจะตื่นตระหนก แต่ที่จริงมันไม่ใช่
ตอนนี้แคทเธอรีนกำลังห้ามปรามไม่ให้ราโมนาถามอะไรข้ามเส้นไปมากกว่านี้
“ขออภัยค่ะ ท่านฟีเรนเทีย”
ดูจากที่นางขอโทษแทนราโมนาก็รู้ได้แล้วไม่ใช่เหรอนั่น
“ไม่หรอกค่ะ แคทเธอรีน แล้วก็…”
เธอเอ่ยพูดพลางมองราโมนากับแคทเธอรีนที่ยืนอยู่ข้างกัน
“ทั้งสองคนเองก็ดูคล้ายกันมากด้วย”
แคทเธอรีนมีรูปร่างหน้าตาเรียบง่าย ดูอ่อนโยน ส่วนราโมนามีผมสีแดง นัยน์ตาสีฟ้า และยังมีรูปร่างหน้าตางดงามสูงเพรียว อันที่จริงทั้งสองคนดูแตกต่างกันมาก
แต่นัยน์ตาคม และบรรยากาศรอบตัวกลับให้ความรู้สึกคล้ายกันเป็นอย่างยิ่ง
ในชีวิตก่อนแคทเธอรีนได้เดินทางมาขอร้องให้ท่านปู่ช่วยเหลือตระกูลบราวน์
แต่ท่านปู่กลับตอบปฏิเสธ ทำให้สุดท้ายแคทเธอรีนจึงเลือกที่จะกลายเป็นคนของเฟเรสโดยสมบูรณ์
สำหรับแคทเธอรีนผู้มีความรักและความจงรักภักดีต่อลอมบาร์เดียสูงมากแล้ว มันเป็นการตัดสินใจที่ยากและเจ็บปวดต่อนางมาก
แต่สุดท้ายแคทเธอรีนก็ตัดสินใจเลือกตระกูลของตัวเอง
ราโมนาได้กลายเป็นคนรักอย่างเป็นทางการของเฟเรส ตระกูลบราวน์เองก็ฟื้นตัวกลับสู่สังคมชั้นสูงได้อย่างประสบความสำเร็จ และได้ขึ้นเป็นตัวแทนเขตแดนตะวันตกแทนอังเกนัส
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ท่านเจ้าตระกูลบราวน์ก็คงจะพบท่านปู่อยู่สินะคะ”
คำพูดของเธอทำให้ราโมนาตกใจอีกครั้ง
“ต่อให้ถามว่ารู้ได้ยังไงอีก ข้าก็คงไม่บอกให้ทราบหรอกนะคะ”
“อา…”
ใบหน้าของราโมนาขึ้นสีแดงก่ำ
ราโมนาสมควรจะโกรธเธอที่เอาแต่พูดเย้าหยอก ทั้งๆ ที่ปากก็บอกว่ารู้ความลับเกี่ยวกับตระกูลนางทุกเรื่อง แต่กลับไม่ยอมบอกว่ารู้เรื่องราวพวกนั้นได้ยังไงแท้ๆ
แต่ราโมนากลับไม่มีสีหน้าเช่นนั้นเลย
นัยน์ตาสีฟ้าดั่งทะเลสาบคู่นั้นกลับยิ่งดูจะให้ความสนใจในตัวเธอมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“นั่งกันก่อนดีมั้ยคะ”
เธอเดินนำทั้งสองคนไปยังห้องรับรอง
“ว่าแต่แคทเธอรีน ข้าขอถามอะไรสักอย่างได้หรือเปล่าคะ”
“ค่ะ เชิญกล่าวมาได้เลยค่ะ”
“ทำไมถึงได้อยากแนะนำคุณหนูราโมนา บราวน์ ให้ข้ารู้จักล่ะคะ”
อันที่จริงมันเป็นเรื่องที่เธอไม่เข้าใจมากที่สุด
การพาราโมนาไปให้ท่านปู่ได้เห็นหน้าสักครั้งย่อมถือเป็นเรื่องที่ดีต่อราโมนามากกว่าจะพาตัวมาพบเธอแบบนี้
แคทเธอรีนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตอบคำถามเธอ
“เพราะท่านฟีเรนเทียเป็นคนสำคัญค่ะ”
“คนสำคัญ?”
แคทเธอรีนพยักหน้า
“เป็นอีกหนึ่งคนที่มีอำนาจมากที่สุดในอาณาจักรลอมบาร์เดียในปัจจุบัน นอกจากท่านเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียค่ะ”
อา ใช่แล้ว
แคทเธอรีนเป็นนางกำนัลประจำตัวเฟเรสนี่นะ
แน่นอนว่าเฟเรสไม่มีทางเล่าเรื่องเกี่ยวกับเธอให้แคทเธอรีนฟังอย่างละเอียดทุกเรื่องอยู่แล้ว
แต่แคทเธอรีนเป็นคนที่คอยดูแลอยู่ข้างกายเฟเรสมาตั้งแต่สมัยก่อน
ดังนั้นนางจึงรับรู้เรื่องต่างๆ มากมายไปด้วยโดยธรรมชาติ
บางทีก็คงจะรู้เรื่องเกี่ยวกับเธออยู่มาก จนพอที่จะคาดเดาปะติดปะต่ออะไรได้บ้าง
ดูจากปฏิกิริยาของราโมนาที่มองเธอสลับกับแคทเธอรีนด้วยนัยน์ตาตกใจ แสดงว่าบางทีแคทเธอรีนก็คงจะไม่ได้อธิบายรายละเอียดให้หลานสาวของตัวเองได้รู้แม้แต่เรื่องเดียว
นางปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนางกำลังประจำพระราชวัง ซึ่งต้องคอยเก็บความลับทุกอย่างที่ได้ล่วงรู้ระหว่างทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สมกับเป็นแคทเธอรีนจริงๆ
เธอพยักหน้าลงด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจแปลกๆ
“แล้วยังไงล่ะคะ”
“ข้าคิดว่าราโมนาจะได้เรียนรู้อะไรมากมายจากท่านฟีเรนเทียค่ะ”
เธอหันไปมองราโมนา
เรื่องที่ราโมนาหลงรักเฟเรสนั้นเธอรู้อยู่แล้ว
มองแค่ปราดเดียวก็เห็นได้ชัดขนาดนั้น จะไม่รู้ได้ยังไงล่ะ
แต่ราโมนาคนนั้นกลับจะมาเรียนรู้จากเธอเนี่ยนะ
“ขอดูมือหน่อยได้มั้ยคะ”
เธอพูดกับราโมนา
ราโมนาลังเลไปชั่วครู่ แต่ก็ยอมยื่นมือให้เธอ
“ไม่เคยวางดาบเลยสินะคะเนี่ย”
ราโมนาเป็นคนของตระกูลบราวน์
และได้เรียนวิชาฟันดาบจากอะคาเดมีพร้อมกันกับเฟเรส
แต่นั่นก็เป็นเรื่องเมื่อหลายปีก่อน
ถึงแม้จะใช้ชีวิตยุ่งวุ่นวายจากการเดินทางไปทั่วในฐานะสมาชิกกลุ่มการค้าโมนัค แต่มือของราโมนาก็ยังคงหยาบกระด้าง
แคทเธอรีนเองก็เคยฝึกฝนวิชาดาบก็จริง แต่หลังจากเข้าวังไปเป็นนางกำนัล นางก็ได้เลือกทางเดินอื่นที่ต้องวางดาบลง
“ฝึกฝนตลอดไม่เคยเว้นแม้แต่วันเดียวค่ะ”
ราโมนาเอ่ยตอบพลางส่ายหน้าไปมา
“ยังไงข้าก็เป็นคนตระกูลบราวน์นี่คะ”
เธอรับรู้ได้จากท่าทางของราโมนาที่ตอบกลับมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ
รู้ได้ถึงความหมายที่แคทเธอรีนต้องการจะสื่อ
รู้สึกอยากหัวเราะชะมัด
ในตอนนั้นเอง
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับพ่อบ้านโยฮันที่เดินเข้ามาในห้อง
เขาเอ่ยพูดพลางโค้งศีรษะทักทายอย่างนอบน้อม
“ท่านเจ้าตระกูลเรียกพบคุณหนูฟีเรนเทียครับ”