เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล - เล่ม 5 บทที่ 199.1
เล่ม 5 บทที่ 199.1
ตอนที่ 199
“ฮึบ!”
ลอร์ดสโลนเองก็คงจะคิดเช่นเดียวกัน เขาเริ่มลงมือโจมตีด้วยความรวดเร็ว
ฮ่า!
เขาตะเบ็งเสียงเรียกแรงฮึกเหิม ขณะเดียวกันร่างกายสูงใหญ่ก็เริ่มเปลี่ยนจังหวะในการก้าวกระโดด
มันอาจดูเหมือนเป็นท่าพื้นฐาน แต่มันก็เป็นการเคลื่อนไหวที่ไร้ซึ่งจุดบอด และตัดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นทิ้งไป
สมกับที่เป็นถึงรองหัวหน้าหน่วยจากกองกำลังอัศวินส่วนพระองค์
ลอร์ดสโลนใช้ปลายเท้ายันพื้นแล้วพุ่งกระโจนไปข้างหน้า จิตสังหารอันแรงกล้าแผ่ซ่านไปทั่วราวกับพร้อมที่จะฟาดฟันดาบลงมือสังหารราโมนาได้ทุกเมื่อ
ทว่า
เรื่องแปลกประหลาดก็พลันเกิดขึ้นอีกครั้ง
“มะ…ไม่สิ?”
ในขณะเดียวกันราโมนาก็เริ่มเว้นระยะออกห่างจากลอร์ดสโลน
และทุกจังหวะการย่างก้าวของทั้งสองคนก็เหมือนกันราวกับสะท้อนออกมาจากกระจก
“นะ…นั่นมันอะไรกัน”
ใครบางคนร้องตะโกนด้วยความตกตะลึง
มันไม่ใช่แค่การกรอเทปกลับด้านให้พวกเขาได้ดูจังหวะการขยับของตำแหน่งเท้า
แต่วิธีการขยับที่ราโมนาแสดงออกมาให้ได้เห็น มันทั้งเหมือนกับจังหวะก้าวของลอร์ดสโลน แต่ก็แตกต่างกันในบางจุด
ต้องบอกว่ามันดูซับซ้อนและให้ความรู้สึกเหนือชั้นกว่าละมั้ง
และ
ฟึบ! เคร้ง!
ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วเสี้ยววินาที
นัยน์ตาของราโมนาเปลี่ยนเป็นส่องประกายดุดันขึ้นมา แล้วเริ่มร่ายเพลงดาบด้วยสกิลแบบเดียวกันกับที่ลอร์ดสโลนใช้เมื่อครู่
แต่คราวนี้ก็มีอะไรบางอย่างแตกต่างกันออกไป
มันต่างกันครึ่งต่อครึ่ง
นางใช้สกิลการป้องกันที่ลอร์ดสโลนเคยแสดงออกมาให้เห็น เปลี่ยนเป็นการโจมตีแทน
ครืนนนน!
สายลมพัดหวนอย่างรุนแรงตามความเร็วของดาบที่พุ่งออกไป
“แฮก แฮก”
เพียงพริบตาปลายดาบของราโมนาก็จ่อเข้าที่ลำคอของลอร์ดสโลนโดยไม่มีใครทันได้สังเกตเห็นว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่
ลอร์ดสโลนได้แต่ยืนกะพริบตาปริบๆ อยู่อย่างนั้น เขามองปลายดาบของราโมนาที่ส่องประกายคมกริบสะท้อนแสงในงานเลี้ยงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมจำนนในที่สุด
“พะ…แพ้แล้วครับ”
“ว้าวววว!”
“สุดยอด!เจ๋งสุดๆ ไปเลย!”
เสียงโห่ร้องดังขึ้นจากทั่วทุกสารทิศ
แปะ แปะ แปะ!
เสียงปรบมือเองก็ดังก้องไปทั่วลาน
กระทั่งอัศวินจากกองกำลังส่วนพระองค์ก็ยังเผลอลืมไปว่าฝ่ายพวกเขาเป็นแพ้ พวกอัศวินต่างก็ยืนเบิกตากว้างมองราโมนาด้วยความรู้สึกทึ่ง
“อัศวินคนนั้นเป็นใครกันแน่!”
“เห็นว่าเป็นองครักษ์ของคุณหนูลอมบาร์เดีย ก็คงจะเป็นอัศวินตระกูลลอมบาร์เดียนั่นแหละ!”
“ยังไงก็ช่างเถอะ สุดยอดไปเลย!”
ดูเหมือนทุกคนจะลืมไปจนหมดแล้วว่า ความจริงการประลองครั้งนี้เป็นการประลองที่เดิมพันด้วยเกียรติยศของแต่ละฝ่าย
“เมื่อครู่นี้มัน…ไม่สิ ไม่ใช่ ทั้งหมดเลย…”
ลอร์ดสโลนพึมพำเสียงแผ่วด้วยใบหน้าสับสน
มันเป็นการพ่ายแพ้อย่างราบคาบจนทำให้ลืมไปจนหมดสิ้นแม้กระทั่งเรื่องที่ตนเป็นฝ่ายแพ้ ลอร์ดสโลนเอ่ยถามราโมนาด้วยนัยน์ตาแรงกล้าราวกับจะพ่นไฟออกมาทางสายตา
“ทำได้ยังไงกันครับ”
มันเป็นคำถามที่ทุกคนในที่แห่งนี้ที่เคยฝึกวิชาดาบมาก่อนต่างก็อยากถามออกไปทั้งนั้น
เพราะการเคลื่อนไหวที่ราโมนาแสดงออกมาให้พวกเขาได้ประจักษ์แจ้ง มันเกินขอบเขต ‘ความรู้พื้นฐาน’ ที่พวกเขาเคยฝึกฝนกันมา
“ได้โปรดสอนข้าทีเถอะครับ เซอร์บราวน์”
ลอร์ดสโลนเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะร้องขอ
ทั้งๆ ที่ยังปรับลมหายใจที่เหนื่อยหอบให้สงบลงไม่ได้ด้วยซ้ำ
“…”
เหล่าอัศวินต่างก็ลุ้นเสียจนแทบหยุดหายใจ
แต่ไม่มีใครคาดหวังอะไรมาก
อันที่จริงพวกเขาไม่หวังหรอกว่า จะมีใครยอมสอนเทคนิคอันยอดเยี่ยมแบบนั้นให้ในสถานที่สาธารณะแบบนี้
“สกิลการฟันดาบที่ลอร์ดสโลนแสดงออกมาให้เห็นในตอนแรกนั้นมันเป็นสกิลที่ไม่สมบูรณ์ค่ะ”
แต่ราโมนากลับเปิดปากพูดเสียงเรียบ
“ที่จริงมันไม่ควรจบที่การเคลื่อนไหวตอนจังหวะหมุนตัวแบบนี้ แต่ต้องชักดาบกลับมาอีกครั้งค่ะ ถ้าทำแบบนี้ จังหวะการหายใจของคู่ต่อสู้…”
ใจดีถึงขนาดยกดาบขึ้นสาธิตให้ดูกันอีกครั้ง
ภาพนั้นทำให้บรรดาอัศวินต่างก็ตื่นตระหนก แต่ก็พากันเขยิบเข้าไปใกล้คนละก้าวสองก้าวโดยไม่รู้ตัว เพราะกลัวว่าจะพลาดคำสอนของราโมนาไป
สถานการณ์ที่จู่ๆ ลานประลองก็ถูกเปลี่ยนเป็นลานฝึกไปเสียแล้ว ทำเอาพวกชนชั้นสูงที่รู้จักแต่ส่งเสียงร้องเชียร์ได้แต่เอียงศีรษะไม่เข้าใจ เพราะรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างแปลกๆ หรือเปล่า
“ถ้าอย่างนั้นจังหวะเท้าล่ะครับ ทำยังไง”
หนึ่งในอัศวินที่ยืนฟังคำสั่งสอนอยู่เงียบๆ คนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น
“เรื่องนั้น…”
ครั้งนี้ก็ไม่มีลังเล
ราโมนาอธิบายให้ทุกคนฟังอย่างละเอียดทีละจุดๆ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ
ยิ่งนางช่วยสอนให้แบบนี้ ใบหน้าของเหล่าอัศวินกองกำลังส่วนพระองค์ก็ยิ่งสะท้อนแววกระหายอยากเรียนรู้ออกมา
ทุกคำที่ราโมนา บราวน์ เอ่ยออกมา มันช่างล้ำค่าเหลือเกิน
สำหรับพวกอัศวินแล้ว คำแนะนำนี้เหมือนเป็นชีวิต เป็นเลือด เป็นเนื้อของพวกเขา
ในบรรดาพวกเขาหลายคนที่เคยได้แต่ย่ำอยู่กับที่มาหลายเดือน ยังถึงกับทะลุผ่านกำแพงที่เคยขวางกั้นตัวเองเอาไว้ได้อีกด้วย