เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล - เล่ม 6 บทที่ 220.2
เล่ม 6 บทที่ 220.2
“ให้ตายเถอะ”
เธอมองใบหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวของลอรีล แล้วก็ต้องสบถออกมาเสียงดัง
“นี่สินะ สิ่งที่จักรพรรดินีเล็งไว้แต่แรก”
บางทีเบเลซักอาจจะเป็นแค่เหยื่อล่อตั้งแต่แรกแล้วก็ได้
หันเหความสนใจของเธอกับเฟเรสไปทางด้านนั้น แล้วเล็งเป้าไปที่เครย์ลีบัน
“เหตุใดกองกำลังอัศวินส่วนพระองค์ถึงได้…”
ลอรีลเอ่ยถามเสียงสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวสุดใจ
“คงคิดที่จะหาเอกสารสัญญานั่นแหละ เอกสารกู้ยืมเงินที่มีที่ดินของอังเกนัสเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน”
“แต่กองกำลังอัศวินส่วนพระองค์เคลื่อนไหวเพราะเรื่องแบบนั้น…”
“คงตกลงกับจักรพรรดิเอาไว้ก่อนแล้วแน่ๆ และยังมีตัวแปรอีกหนึ่งอย่างที่เหมาะจะให้กองกำลังอัศวินส่วนพระองค์เคลื่อนไหวด้วยตัวเองอยู่พอดีไม่ใช่เหรอไง”
“ระ…หรือว่า…”
ริมฝีปากของลอรีลสั่นระริก ไม่อาจแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยคำพูดนั้นออกมาได้
“ใช่แล้วละ คดีลอบสังหารองค์จักรพรรดิ คงตั้งใจหาทางดึงเครย์ลีบันเข้าไปเกี่ยวให้ได้”
เหมือนอย่างที่ปลอมแปลงจดหมายลาตายของเบเลซัก คงสร้างหลักฐานแบบนั้นเตรียมเอาไว้แล้วน่ะสิ หรือจะแค่หาข้ออ้างปากเปล่าเธอเองก็สุดจะรู้ได้
แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เธอมั่นใจ
นั่นก็คือ จักรพรรดิโยบาเนสเองก็รู้เห็นการกระทำของจักรพรรดินีราวีนี
“ทางด้านนั้นจับตัวเครย์ลีบันได้แล้วหรือ”
“ยะ…ยังค่ะ ได้ยินแค่ว่าคฤหาสน์กับร้านค้าถูกบุกเข้ารื้อค้น…”
ถ้าอย่างนั้นก็ยังพอจะมีโอกาสอยู่บ้าง
“พวกเราต้องเป็นฝ่ายตามหาตัวเครย์ลีบันให้เจอก่อนพวกนั้นให้ได้”
เธอพูดพลางหันไปมองเฟเรส
“เฟเรส ให้คนของเจ้าค้นให้ทั่วลอมบาร์เดียกับเมืองหลวง”
“เมืองหลวง”
“ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เครย์ลีบันบอกข้าไว้น่ะ วันนี้มีตารางต้องไปประชุมกับท่านพ่อที่ร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันสาขาใหญ่ ข้าไม่แน่ใจว่ากี่โมงกันแน่ แต่อาจจะออกเดินทางไปเมืองหลวงแล้วก็ได้”
“เข้าใจแล้ว ข้าจะลองหาดู”
เธอมองตามหลังเฟเรสที่คลายม้าออกจากรถม้า แล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนหลังของมัน ก่อนจะควบม้าวิ่งจากไปจนลับสายตา หลังจากนั้นจึงหันมาพูดกับลอรีล
“พวกเราไปกองกำลังอัศวินลอมบาร์เดียกันเถอะ”
“กองกำลังอัศวินเหรอคะ”
“อื้อ มีเรื่องต้องไปรบกวนพวกเขาหน่อยน่ะ”
ถึงแม้จะรีบก้าวเดินทันทีไม่พูดอะไรอีกต่อไป แต่ในใจเธอกำลังพลุ่งพล่านไปด้วยความโกรธจนกักเก็บไว้แทบไม่อยู่
จักรพรรดินีราวีนีกล้ายุ่งกับคนของเธองั้นหรือ
* * *
“ค้นให้ทั่ว! เครย์ลีบัน เพลเลส จะต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งแน่!”
“ครับ!”
กองกำลังอัศวินส่วนพระองค์และพลทหารบุกเข้าไปในร้านค้าเพลเลส ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชานเมืองลอมบาร์เดีย
ไวโอเล็ตโมโหเดือด นางวิ่งออกมาจากห้องทำงาน แล้วเดินมุ่งไปหาอัศวินที่ดูน่าจะเป็นหัวหน้าของอัศวินกลุ่มนี้
แต่แปลกเหลือเกิน
คนที่ออกคำสั่งพวกอัศวินกองกำลังส่วนพระองค์นั่น กลับไม่ใช่อัศวินจากกองกำลังส่วนพระองค์ แต่เป็นอัศวินประจำตระกูลอังเกนัส
อัศวินที่สูงกว่าคนอื่นๆ หนึ่งช่วงศีรษะ และกำลังยืนอยู่บริเวณใจกลางร้านค้าเพลเลสคนนี้ เป็นคนที่ไวโอเล็ตเองก็รู้จักดี
อีเดน ครูส คนคนนี้เป็นหัวหน้ากองกำลังอัศวินอังเกนัส ทั้งยังรับฟังเฉพาะคำสั่งขององค์จักรพรรดินีโดยตรงเพียงพระองค์เดียว
หัวหน้ากองกำลังอัศวินตระกูลอังเกนัสเป็นคนออกคำสั่งอัศวินจากกองกำลังส่วนพระองค์อย่างนั้นเหรอ
มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่จักรพรรดินีเป็นบุคคลที่มีความสามารถมากพอจะทำให้มันเป็นไปได้
และไวโอเล็ตก็สามารถคาดเดาได้จากภาพตรงหน้าทันทีว่า กำลังมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้น
แต่ถึงอย่างไรนางก็ไม่อาจปล่อยให้คนพวกนั้นบุกรื้อค้นร้านค้าเพลเลสตามอำเภอใจแบบนี้ได้
ไวโอเล็ตเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ นางก้าวเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าอีเดน ครูส
“ไวโอเล็ต ลิปเป้ รองหัวหน้ากลุ่มการค้าประจำร้านเพลเลสค่ะ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่คะ”
“รองหัวหน้ากลุ่มการค้า”
ทว่าอีเดน ครูส กลับไม่แม้แต่จะตอบคำถามของนาง เขากวาดสายตามองไวโอเล็ตตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก่อนจะออกคำสั่งไปทางอัศวินกองกำลังส่วนพระองค์ที่ยืนรอคำสั่งอยู่ข้างกาย
“ลากตัวไปสอบสวน”
“ปล่อยข้านะ! ข้าบอกให้ปล่อย!”
คนพวกนี้ไม่คิดที่จะสนทนาพาทีอยู่แล้ว ไวโอเล็ตพยายามต่อต้านสุดแรง แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะพละกำลังอันแข็งแกร่งของพวกอัศวินจากกองกำลังส่วนพระองค์ได้เลย