เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล - เล่ม 6 บทที่ 221.2
เล่ม 6 บทที่ 221.2
อีเดน ครูส ได้ยินเสียงนั้นจากไกลๆ ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาว่องไวราวกับหมาล่าเนื้อ
เขากระโดดกลับขึ้นไปบนม้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว ผิวปากเรียกอัศวินรอบๆ ให้มารวมตัวกันทันที
“ทางด้านนั้น!”
อีเดน ครูส ควบม้าศึกสีเทาของตัวเองวิ่งนำไปก่อน ด้านหลังมีอัศวินอังเกนัสหนึ่งคน และอัศวินกองกำลังส่วนพระองค์อีกสองคนควบม้าวิ่งตามหลังมาติดๆ
กุบกับ กุบกับ!
ตามการชักนำของผู้เป็นนาย ม้าของอีเดน ครูส วิ่งตรงไปบนถนนลอมบาร์เดียอย่างรวดเร็ว
“กรี๊ด!”
“หลบไป!”
ประชาชนเมืองลอมบาร์เดียสะดุ้งตกใจ พวกเขากรีดร้องหลบม้าที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงกันอย่างจ้าละหวั่น
“แงงงงง!”
ทว่ากลางถนนกลับมีเด็กน้อยคนหนึ่งล้มลง และหญิงสาวนางหนึ่งที่จับมือของเด็กน้อยคนนั้นเอาไว้ไม่อาจหลบออกไปได้พ้น
หญิงสาวมองม้าที่กำลังวิ่งตรงมาด้วยนัยน์ตาหวาดกลัว สองมือโอบกอดเด็กน้อยเอาไว้แน่นด้วยใบหน้ายอมรับชะตากรรม
และ ฮี้-!
อีเดน ครูส กระชากบังเหียนม้าอย่างแรง ม้าจึงกระโดดข้ามเด็กกับผู้หญิงไปได้สำเร็จ
กุบกับ กุบกับ!
เหลือบมองสองแม่ลูกด้วยหางตา หลังจากนั้นอีเดน ครูส ก็ยังควบม้าวิ่งต่อไปอย่างไม่ลังเล
และในที่สุดก็มองเห็นม้าที่เฟเรสกับเครย์ลีบันนั่งวิ่งอยู่ตรงหน้า
“ย่าห์!”
อีเดน ครูส เตะท้องม้าอย่างแรงอีกครั้ง
กุบกับ กุบกับ กุบกับ!
ม้าเริ่มเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“เร็ว! เร็วอีก!”
เฟเรสเร่งความเร็วม้าเมื่อเห็นว่าอีเดน ครูส เริ่มวิ่งตามเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
แต่ม้าที่เดิมทีมีไว้ใช้สำหรับลากรถม้า ย่อมไม่มีทางวิ่งได้เร็วกว่าม้าศึกอยู่แล้ว
“เครย์ลีบัน เพลเลส!”
อีเดน ครูส ตะโกนเรียกเครย์ลีบันเสียงดัง
เครย์ลีบันกัดฟันแน่น เขาสังหรณ์ใจว่าหากปล่อยไว้แบบนี้คงได้โดนจับตัวได้แน่
ในตอนนั้นเอง
“ถึงแล้ว!”
เสียงตะโกนของเฟเรสทำให้เครย์ลีบันต้องเงยหน้าขึ้น
คฤหาสน์ลอมบาร์เดียตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งคู่
“ที่นี่…”
เครย์ลีบันไม่เข้าใจ
แต่เฟเรสเพียงแค่กระชากสายบังเหียนแน่น เร่งความเร็วสุดแรง
กุบกับ กุบกับ!
และในตอนที่ม้าของอีเดน ครูส เพิ่มความเร็วมากกว่าเดิม
“ได้แล้ว!”
เฟเรสตะโกนเสียงดัง เด็กหนุ่มควบม้าวิ่งผ่านเข้าไปในอาณาเขตของคฤหาสน์ลอมบาร์เดีย
และในขณะเดียวกัน เหล่าอัศวินลอมบาร์เดียที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูเหล็กก็เริ่มขยับตัวทันที
เคร้ง เคร้ง!
พวกเขาสวมชุดเกราะเต็มยศ ก้าวเท้าออกมายืนขวางหน้าประตูคฤหาสน์ลอมบาร์เดียเอาไว้
ม้าของอีเดน ครูส วิ่งตรงมาด้วยความเร็วสูงจนน่ากลัว แต่พวกเขาไม่มีใครขยับตัวไปไหนทั้งสิ้น
ฮี้!
สุดท้ายม้าของอีเดน ครูส ก็หยุดวิ่งอย่างกะทันหัน มันส่งเสียงหวีดร้องลากยาวอีกครั้ง
“อ๊ากกกก!”
อีเดน ครูส กรีดร้องเสียงดังด้วยโทสะ สองตาจับจ้องภาพด้านหลังของเฟเรสกับเครย์ลีบันที่เริ่มวิ่งห่างออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
“หลบไป!”
ในตอนนั้นเองเหล่าอัศวินที่ควบม้าวิ่งตามมาข้างหลังอีเดน ครูส ก็ตะโกนเสียงดัง
“พวกข้ามาเพื่อจุบกุมนักโทษต้องสงสัยคดีกบฏ! หลีกไปเดี๋ยวนี้!”
“ไม่ได้หรอก”
หัวหน้ากองกำลังอัศวินตระกูลลอมบาร์เดียที่ยืนอยู่หน้าสุดกล่าวสั้นๆ
“เจ้าเป็นใคร กล้าดียังไงมาขวางหน้ากองกำลังอัศวินส่วนพระองค์!”
“ข้าหัวหน้ากองกำลังอัศวินลอมบาร์เดีย แลมเบิร์ต ลอมบาร์เดีย”
“ละ…ลอมบาร์เดีย…”
หลานสายรองของรูลลัก ลอมบาร์เดีย ผู้เป็นเจ้าตระกูลคนปัจจุบัน หัวหน้ากองกำลังอัศวินลอมบาร์เดียคนนี้ เป็นบุคคลที่อัศวินกองกำลังส่วนพระองค์เองก็ทราบนามของเขาเป็นอย่างดี
“เซอร์ลอมบาร์เดีย! ถ้าไม่รีบถอยไปเดี๋ยวนี้ จะถือว่าสมรู้ร่วมคิดกับกบฏ…!”
“บอกแล้วไงว่าไม่ได้”
แลมเบิร์ต ลอมบาร์เดีย กล่าวเสียงทุ้ม
“ตามสัญญาที่ปฐมกษัตริย์กับเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียรุ่นแรกตกลงร่วมกัน”
นัยน์ตาสีน้ำตาลของแลมเบิร์ตทอประกายดุดัน
“กำลังทหารของราชวงศ์ไม่สามารถเข้ามาในเขตคฤหาสน์ลอมบาร์เดียได้”
และเอ่ยพูดต่อพลางมองหน้าอีเดน ครูส ที่ยังคงเอาแต่จ้องไปทางด้านที่เครย์ลีบันกับเฟเรสหายตัวไปไม่ยอมละสายตา
“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสุนัขล่าเนื้อตระกูลอังเกนัสอย่างเจ้าเลย”
แสยะ
คำพูดนั้นแฝงเอาไว้ด้วยเสียงเยาะเย้ย