เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 157 ไม่ยอมไป
พวกเขาพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าลิงน้อยยังไม่ลงมา ทุกคนต่างก็กลับบ้านของตัวเอง
จ้าวเหวินเทากล่าว “จากความหมายของพี่สะใภ้สี่ หล่อนคงกลัวลิงจะทำให้ตกใจสินะ”
เย่ฉูฉู่เองก็ทราบดี เธอโบกมือเรียกลิงน้อย มันจึงรีบลงมาในทันทีและนั่งยอง ๆ อยู่ข้างเย่ฉูฉู่ ดวงตาเล็ก ๆ เป็นประกายขณะมองจ้าวเหวินเทา ช่างฉลาดเหลือเกิน
“คนกลุ่มนี้มาที่นี่ ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ทำให้ตกใจ” เย่ฉูฉู่กล่าวพลางลูบหัวของเจ้าลิงน้อย
จ้าวเหวินเทามองออกว่าภรรยาของเขาชอบลิงน้อยตัวนี้มาก
เย่ฉูฉู่ชอบลิงน้อยที่มีความเฉลียวฉลาดตัวนี้มากจริง ๆ แต่ก็ทราบดีว่าปล่อยไปน่าจะดีกว่า ให้มันได้กลับไปใช้ชีวิตบนภูเขา แบบนั้นถึงจะเรียกว่าเป็นชีวิตที่มันควรจะมีตั้งแต่แรก
“เลี้ยงให้หายดีแล้วค่อยส่งกลับไปก็แล้วกันนะ” เย่ฉูฉู่กล่าว
จ้าวเหวินเทาเองก็ไม่ได้พูดอะไร เขาคิดว่าสักวันจะไปหาดูว่ามีลูกแมวหรือลูกสุนัขน่ารัก ๆ หรือไม่ ถ้ามีเขาจะได้อุ้มกลับมาให้ภรรยาของเขาเลี้ยง
แต่ลิงน้อยนี่ไม่เหมาะจริง ๆ
ดังนั้นเขาจึงพูดกับลิงน้อยว่า “ฟาไฉ งั้นแกอยู่ที่นี่ไปก่อน แต่ถ้าจะอึจะฉี่ต้องออกไปข้างนอกนะ ขับถ่ายในบ้านไม่ได้ เข้าใจไหม?”
ลิงน้อยฟังอย่างเข้าใจ มันจึงส่งเสียงร้องอย่างเชื่อฟังสองครั้ง ตอนที่อยู่กับเจ้าของคนเก่าก่อนหน้านี้หากฉี่ในห้องก็จะถูกทุบตี มันจึงเข้าใจ
ท่าทางเช่นนี้ทำให้เย่ฉูฉู่ที่เห็นถึงกับถอนหายใจ มันคงถูกทุบตีไปไม่น้อยอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นคงไม่ฉลาดแสนรู้ขนาดนี้
แต่จะว่าไป ลิงกินอะไรเป็นอาหารนะ?
เธอเองก็พอจะทราบว่ามันกินกล้วย แต่เธอไม่มีกล้วยให้มันกินหรอก
เย่ฉูฉู่ทำบะหมี่ให้จ้าวเหวินเทารับประทาน จึงทำให้มันหนึ่งชามด้วย คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะกินเลียนแบบได้
มันมองจ้าวเหวินเทาที่ทุบกระเทียมและรับประทานบะหมี่แล้วก็แอบรู้สึกอิจฉาขึ้นมา ทว่าก็ไม่ได้ยื่นมือออกไปขอ เอาแต่มองดูจ้าวเหวินเทารับประทานอยู่อย่างนั้น
จ้าวเหวินเทายิ้ม กล่าวว่า “สิ่งนี้แกกินไม่ได้ มันเผ็ดเกินไป แกกินหมี่นั่นแหละดีแล้ว”
ลิงน้อยส่งเสียงร้อง ความหมายประมาณว่าอยากจะลองชิมดู
เอาสิ อยากชิมก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว จ้าวเหวินเทาจึงบิกระเทียมออกมาให้มันหนึ่งชิ้นเล็ก
ลิงน้อยยัดใส่ปากของมัน จากนั้นก็พ่นออกมา จ้าวเหวินเทาถึงกับหัวเราะ เย่ฉูฉู่เองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“บอกแล้วว่าอย่ากินแกก็ไม่เชื่อ” จ้าวเหวินเทาพูดเคล้ารอยยิ้ม
ลิงน้อยจึงส่งเสียงเรียกเขา ความหมายประมาณว่า ‘ทำไมนายถึงได้กินของไม่อร่อยแบบนี้ล่ะ?’
จ้าวเหวินเทาพูดด้วยรอยยิ้ม “รีบกิน กินเสร็จจะได้ไปนอน”
เย่ฉูฉู่ถาม “เก็บของทำที่นอนให้มันสิคะ”
จ้าวเหวินเทากล่าว “ไม่ต้องเก็บกวาดอะไรหรอก พวกเรามีกล่องลังไม่ใช่เหรอ ใช้กล่องลังเป็นที่นอนก็ได้แล้ว”
ถึงจะพูดแบบนี้ แต่เย่ฉูฉู่ก็ยังเตรียมหมอนใบเล็กให้ลิงน้อยอยู่ดี ทั้งยังมีผ้าห่มผืนเล็กด้วย ทำไว้เหมือนกันกับที่เธอนอน
จ้าวเหวินเทาเห็นก็แอบรู้สึกขบขัน ภรรยาของเขาจิตใจดีเกินไปแล้ว
ที่นอนของลูกลิงถูกจัดไว้ที่ขอบเตียงเตา ซึ่งทำมาจากลังกระดาษแข็ง แต่ก็ดูเหมือนกันมาก
หลังจากเย่ฉูฉู่ทำเสร็จแล้ว นางจึงพูดกับลิงน้อยด้วยความพึงพอใจ “ไฉไฉ แกนอนตรงนี้ชั่วคราวไปก่อนนะ ลองดูสิว่าเป็นยังไงบ้าง?”
ลิงน้อยมองที่นอนขนาดเล็กของมันปราดหนึ่ง ก่อนจะส่งเสียงร้อง ‘เจี๊ยก ๆ’ สองสามครั้ง เสียงนี้ของมันฟังดูผ่อนคลายมาก เห็นได้ชัดว่าดีใจเป็นอย่างยิ่ง
เย่ฉูฉู่พูดด้วยรอยยิ้ม “ฟังรู้เรื่องทุกอย่างจริง ๆ”
จ้าวเหวินเทารับประทานอิ่มแล้ว เขาจึงเดินออกมาบ้วนปากเช็ดปากด้านนอก ลิงน้อยก็เลียนแบบเขา จ้าวเหวินเทาจึงพูดอย่างขบขันว่า “ผ้าขนหนูผืนนี้ของแก อย่าหยิบผิดล่ะ”
ลิงน้อยส่งเสียงร้องกลับมา จากนั้นก็ใช้ผ้าขนหนูของมันเช็ดปาก
ตอนนี้จ้าวเหวินเทาเองก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว เขาอยากจะงีบสักหน่อย จึงกลับไปที่ห้อง ลิงน้อยก็เช่นกัน ทั้งคนและลิงต่างก็ไปนอนกันแล้ว
จ้าวเหวินเทานอนอยู่บนเตียง ส่วนลูกลิงนอนอยู่ในที่นอนของมัน ทั้งนอนหนุนหมอนและห่มผ้าห่มผืนเล็ก ผ้าห่มผืนเล็กย่อมเป็นของเก่าอยู่แล้ว แต่ก็มีความทนทานเช่นกัน
มันเลียนแบบเหมือนกับมนุษย์คนหนึ่ง
นอนไปครู่เดียวก็ถึงช่วงค่ำแล้ว ทั้งคนและลิงจึงตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงีย
คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวต่างก็กลับมาแล้ว แต่คุณพ่อจ้าวไม่ได้มาหา มีแค่คุณแม่จ้าวที่เดินมา
นางคุยกับเย่ฉูฉู่อยู่ข้างนอก ประเด็นก็คือนางได้ยินเรื่องที่ลูกชายคนเล็กพาลูกลิงกลับมาจากด้านนอกแล้ว นางจึงเกิดความเป็นกังวลว่านิสัยดุร้ายของมันจะทำให้ลูกสะใภ้ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงหรือไม่?
เย่ฉูฉู่เองเข้าใจได้ เธอจึงบอกไปว่าลิงน้อยได้รับบาดเจ็บ และพากลับมาเลี้ยงแค่ไม่กี่วัน หลังจากบาดแผลหายดีจะพาไปส่งบนเขา อีกอย่างลูกลิงตัวนี้ก็เชื่อฟังมาก ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับบาดเจ็บ
“ต่อให้เชื่องกว่านี้มันก็ยังเป็นสัตว์ป่า เธออย่าไปตามใจเหวินเทาให้มาก ลิงตัวนี้ยังไงก็เลี้ยงไม่ได้ ถ้าเขายังไม่ฟังที่เธอพูด เดี๋ยวแม่จะไปทุบเขาเอง” คุณแม่จ้าวกล่าว
เย่ฉูฉู่จึงตอบรับไป
หลังจากคุณแม่จ้าวกลับไปแล้ว จ้าวเหวินเทาก็เดินหาวออกมา สองสามีภรรยาสบตากัน ไม่ต้องพูดอะไรแต่ก็สามารถเข้าใจกันได้
สามต้านและสามหยากลับมาดูลิงอีกครั้ง ครั้งนี้ลิงน้อยได้นอนหลับไปแล้ว มันจึงรู้สึกสุขสบายเป็นอย่างมาก แม้จะยังระแวดระวังพวกเขา แต่คนเหล่านี้ก็เป็นเด็กทั้งหมด มันจึงไม่ได้หวาดกลัวขนาดนั้นแล้ว
สามต้านและสามหยารู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสิ่งแปลกใหม่มาก
จ้าวเหวินเทาอธิบาย “พวกเธอคุยกับไฉไฉก็พอ อย่าไปลูบมันนะเข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้วครับ/ค่ะ!” สามต้านสามหยารีบพยักหน้าหงึก ๆ
ด้วยเหตุที่ในบ้านมีลิง ผ่านไปได้ไม่กี่วัน เด็กจากทั้งหมู่บ้านก็เข้ามาดู
เย่ฉูฉู่ไม่ได้รู้สึกรำคาญ เพียงแต่บอกพวกเขาว่าอย่าทำให้ลิงน้อยตกใจ
เย่ฉูฉู่เล่าให้พวกเขาฟังถึงความน่าสงสารของลิงน้อยก่อนหน้านี้ไปหนึ่งรอบ ว่ามันต้องออกไปแสดงเพื่อขอเงิน ถ้าไม่ได้เงินก็จะถูกทุบตี สิ่งนี้ทำให้พวกเด็ก ๆ รู้สึกเห็นอกเห็นใจเป็นอย่างมาก จากนั้นก็พากันด่าคนที่ทารุณกรรมลูกลิงคนนั้น
หลังจากเลี้ยงไปได้ไม่กี่วัน สภาพของลูกลิงก็ฟื้นฟูขึ้นไม่น้อย บาดแผลบนร่างกายก็หายอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจ้าวเหวินเทาก็ถือโอกาสตอนที่ว่าง เพื่อพาลิงน้อยไปปล่อยบนเขา
“กลับไปเถอะ กลับไปอยู่กับธรรมชาติ ธรรมชาติต่างหากล่ะที่เป็นบ้านของแก” จ้าวเหวินเทากล่าวพลางผลักมันเพื่อส่งสัญญาณให้มันกลับไปบนภูเขา
แต่ลิงน้อยกลับไม่ยอมไป ไม่เพียงแต่ไม่ไป ดูเหมือนว่ามันจะฟังจ้าวเหวินเทาเข้าใจด้วย และเข้าใจว่าจ้าวเหวินเทากำลังจะปล่อยมันไปแล้ว มันจึงกอดน่องของจ้าวเหวินเทาไว้แน่น ทั้งยังส่งเสียงเรียกราวกับกำลังบอกว่า ‘ฉันไม่ไป’
จากนั้นมันก็ก้มหน้าไม่ส่งเสียงอะไรอีก แต่ท่าทางของมันดูน่าสงสารมาก
มันถูกทุบตีมาตั้งแต่เล็ก ไม่เคยเห็นใครออกหน้าเพื่อมันมาก่อน จ้าวเหวินเทาคือคนแรกที่ออกตัวเพื่อมัน ทั้งยังเป็นคนที่ให้มันกินลูกอม
ในวันนั้นมันจึงแอบคลายเชือกเงียบ ๆ มันคลายเชือกไว้นานแล้ว แต่ต่อให้คลายเชือกได้ก็ไม่รู้จะหนีไปไหน ทว่าเมื่อได้เจอจ้าวเหวินเทา มันก็อยากจะตามเขามา
ภายหลังมันจึงกลับมาพร้อมกับเขา และได้เจอนายหญิงของบ้าน นายหญิงดีกับมันมาก ให้มันกินอาหาร ทั้งยังเตรียมชุดและที่นอนให้มัน ทำให้มันได้นอนหลับสบายอย่างมาก
มันจึงตัดสินใจอย่างเงียบ ๆ ว่าตนจะไม่ไปไหนทั้งนั้น มันจะอยู่กับนายท่านและนายหญิง
จ้าวเหวินเทาเห็นลิงน้อยเริ่มเล่นลูกไม้ เขาก็หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกอย่างช่วยไม่ได้ จึงทำได้แค่พามันกลับมาอีกครั้ง
เย่ฉูฉู่เดิมทีก็แอบรู้สึกหดหู่นิดหน่อย คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นเขาพาลิงน้อยกลับมาอีกครั้ง
“หมดกัน ถูกพันธนาการแล้ว ไม่ยอมไปเลย” จ้าวเหวินเทาพูดเคล้ารอยยิ้ม
เย่ฉูฉู่ยิ้ม “งั้นก็ให้มันอยู่ต่อเถอะค่ะ รอให้มันอยากไปเมื่อไหร่ ถึงเวลานั้นค่อยปล่อยมันไปก็ได้”
ดังนั้นลิงน้อยจึงได้อยู่ที่นี่
คุณแม่จ้าวเองก็หมดคำพูดแล้ว พี่สะใภ้สี่จ้าวเองก็บ่นร้องทุกข์ไปไม่น้อย ก่อนหน้านี้หล่อนจะมาคุยกับเย่ฉูฉู่เป็นครั้งคราว เวลาที่น้องสามีคนเล็กไม่อยู่บ้านเธอก็สามารถมานั่งซุบซิบนินทาได้
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
น้องคงรักและผูกพันกับบ้านนี้มาก เพราะดูแลน้องดีมากอย่างที่เจ้าของเก่าไม่เคยทำ ให้กลับไปดิ้นรนอยู่ตามธรรมชาติด้วยตัวเองเหรอไม่กลับแล้ว
ไหหม่า(海馬)