เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 160 ใช้ชีวิตด้วยการเป็นหนี้
- Home
- เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]
- ตอนที่ 160 ใช้ชีวิตด้วยการเป็นหนี้
หล่อนเคยเห็นสิ่งนี้ภายในอำเภอ มันมีอยู่ในบ้านของพี่สาวใหญ่จ้าวและพี่สาวห้าจ้าว
แค่หมุนก็มีน้ำไหลออกมาแล้ว สะดวกสบายเป็นอย่างมาก แต่หล่อนกลับคิดไม่ถึงเลยว่าน้องสามีเล็กจ้าวเหวินเทาคนนี้จะติดตั้งไว้ในบ้านใหม่ด้วย
หล่อนลองไปหมุนดู แต่กลับไม่มีน้ำไหลออกมา
“เจ้าสิ่งนี้เอาไว้ทำอะไรเนี่ย?” หลี่เฟิน ภรรยาของเหล่าหวังสาม สะใภ้จ้วงและหญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ไม่เคยได้เห็นโลกภายนอกต่างเข้ามาดูด้วยความประหลาดใจ
พี่สะใภ้รองจ้าวจึงตอบ “นี่คือก๊อกน้ำ ถ้าหมุนก็จะมีน้ำไหลออกมา”
“ดีขนาดนี้เลย? แต่มันก็ไม่มีน้ำนี่?” ภรรยาเหล่าหวังสามกล่าว
แม้ว่าจะพูดว่าชีวิตภายในชนบทตอนนี้จะดีมากแล้ว แต่สิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตก็ยังแย่มาก
ยกตัวอย่างเช่นการดื่มน้ำ มีคนจำนวนมากที่ไม่มีบ่อน้ำภายในบ้าน จึงต้องไปที่บ่อน้ำใหญ่ของทีมใหญ่ เป็นบ่อน้ำที่ใช้รอกดึง แล้วค่อยหาบกลับมา
นอกจากนี้ยังไปหาบน้ำจากในแม่น้ำด้วย ฤดูหนาวก็ต้องทุบน้ำแข็งในแม่น้ำ แล้วนำกลับมาใส่ไว้ในหม้อเพื่อให้มันละลายถึงจะใช้ได้
ต่อให้ภายในบ้านจะมีเครื่องสูบน้ำแบบคันโยกหางลิงสำหรับสูบน้ำขึ้นมาจากบ่อบาดาล แต่ในทุกวันก็ต้องสูบน้ำลงไปในถัง แล้วค่อยเทเก็บไว้ในโอ่ง
ฤดูร้อนยังดีหน่อย แต่เมื่อถึงฤดูหนาวก็จะต้องทุกข์ทรมาน เพราะรอบ ๆ บ่อน้ำจะมีน้ำแข็งก้อนใหญ่ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ลื่นล้มจนขาหักตอนที่สูบน้ำ ต่อให้ไม่ได้ล้มจนขาหัก ตอนที่สูบน้ำก็เย็นเสียจนมือแข็งโป๊ก
ดังนั้นพวกผู้หญิงที่ทำอาหารทุกวันเหล่านี้จึงสนใจต่อของสิ่งนี้
“ทำไมถึงไม่มีน้ำล่ะ?” พี่สะใภ้รองจ้าวยังหมุนไม่หยุด
เย่ฉูฉู่เข้ามาก็ได้ยินคำพูดนี้ จึงกล่าวว่า “เหวินเทาเห็นคนจากหมู่บ้านไท่ผิงติดตั้งสิ่งนี้ไว้ ก็เลยทำไว้หนึ่งอัน แต่เขาลืมไปว่าทางฝั่งนั้นไฟฟ้าเข้าถึงแล้ว แต่บ้านพวกเรายังไม่มี ก็เลยใช้ไม่ได้น่ะค่ะ”
“สิ่งนี้ต้องใช้ไฟด้วย?” หลี่เฟินพูดด้วยความประหลาดใจ
“ใช่ค่ะ ต้องใช้ไฟด้วย พอสับสวิตช์ แค่หมุนน้ำก็ไหลออกมาแล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าว
“แล้วถ้าไม่มีไฟฟ้าก็ใช้ไม่ได้ตลอดเลยน่ะสิ?” พี่สะใภ้จ้าวสองถาม
“ใช่ ถ้าไม่มีไฟฟ้าก็ใช้ไม่ได้” เย่ฉูฉู่พยักหน้า
“แล้วของชิ้นนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไรล่ะ? ทางฝั่งนี้ของพวกเราไม่มีไฟฟ้าสักหน่อย” ภรรยาเหล่าหวังสามกล่าว
“นั่นสิ ของชิ้นนี้คงใช้เงินไปไม่น้อยเลยมั้งเนี่ย?” สะใภ้จ้วงกล่าว
“แน่นอนอยู่แล้ว เธอดูนี่สิ ดูเหมือนจะเป็นทองแดงด้วย” หลี่เฟินเองก็พูดเสริม
พี่สะใภ้สี่จ้าวเดินตามหลังเข้ามาเห็น ก็ร่วมพูดคุยด้วย
ทุกคนต่างก็ถกประเด็นเธอหนึ่งคำฉันหนึ่งคำ พี่สะใภ้รองจ้าวมองเย่ฉูฉู่แล้วถามว่า “ก๊อกนี่…ของสิ่งนี้ต้องใช้เงินเท่าไรเหรอ?”
“หมายถึงก๊อกน้ำเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่ถาม
“ใช่ ก๊อกน้ำ” พี่สะใภ้จ้าวสองพยักหน้า
“ก๊อกน้ำกับท่อน้ำรวมเข้าด้วยกันน่าจะหลายร้อยหยวนนะคะ ก๊อกน้ำราคาแพงอยู่” เย่ฉูฉู่กล่าว
“โอ๊ยตายแล้วคุณพระ!” ภรรยาเหล่าหวังสามถึงกับตบหน้าขา ถลึงตาโตพลางกล่าวว่า “ทำของที่ไม่มีประโยชน์ขึ้นมาแล้วใช้เงินไปตั้งหลายร้อยหยวนเนี่ยนะ?”
“นั่นสิ เงินหลายร้อยเอาไปทำอย่างอื่นไม่ดีกว่าเหรอ ดันเอามาทำเจ้าสิ่งนี้เนี่ยนะ!” หลี่เฟินเองก็ตกตะลึงเช่นกัน
“นี่คือมีเงินแต่ไม่รู้จะเอาไปใช้อะไรสินะ?” สะใภ้จ้วงพูดด้วยความอิจฉา
เย่ฉูฉู่กล่าว “ตอนนี้ยังใช้ไม่ได้ก็จริง แต่ถ้ารอให้ไฟฟ้าเข้าถึง ถึงเวลานั้นก็ใช้ได้แล้วค่ะ”
“สะใภ้หก เธอปล่อยให้น้องสามีหกทำเรื่องเหลวไหลมากเกินไปแล้วนะ ปล่อยไฟฟ้าเป็นเรื่องที่พวกเราจะพูดว่าปล่อยก็ปล่อยได้เหรอ? ของที่ใช้เงินเยอะขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะ!” พี่สะใภ้สี่จ้าวกล่าว
“ถ้าทั้งชีวิตนี้ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึงล่ะ เงินนั้นก็เท่ากับสูญเปล่าน่ะสิ?” ภรรยาเหล่าหวังสามกล่าว จากนั้นก็โน้มน้าวเย่ฉูฉู่ “อย่าหาว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะ ฉูฉู่ ต่อให้มีเงินก็ไม่ควรจะใช้เงินแบบนี้ เธอก็ดูแลหน่อยเถอะ ผู้ชายคนนี้เป็นพวกใช้เงินมือเติบ จะตามใจเขาทั้งหมดไม่ได้!”
พี่สะใภ้รองจ้าวไม่ได้พูดอะไร แต่รู้สึกได้ว่าทั้งร่างกายรู้สึกหนาวจนหนาวเหน็บ
เป็นเพราะต้องสร้างบ้านขึ้นมาหล่อนจึงเป็นหนี้ไปไม่น้อย แต่เป็นเพราะครอบครัวหล่อนเป็นครอบครัวใหญ่ ดังนั้นวัสดุที่เป็นไม้เหล่านั้นก็ไปอยู่ที่บ้านหล่อนหมด ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อ แต่ตอนที่ใช้รถขุดดินรวมถึงขนอิฐยังต้องใช้เงิน ส่วนอื่น ๆ ก็ใช้เงินอีกบางส่วนด้วย เมื่อมาคำนวณอย่างจริงจังแล้วก็ยังอยู่ในจุดที่รับได้
แต่พี่สะใภ้รองจ้าวคิดไม่ถึงเลยว่าฐานะทางบ้านของเจ้าหกจะอยู่ในจุดนี้แล้ว
ในมือต้องมีเงินเท่าไรถึงจะซื้อของที่มีราคาหลายร้อยหยวนแบบนี้กลับมาไว้ในบ้านให้ฝุ่นเกาะโดยไม่ได้ใช้?
เย่ฉูฉู่รอให้พวกหล่อนแสดงความคิดเห็นจนจบ จึงพูดว่า “ของพวกนี้ค้างจ่ายทั้งนั้นแหละ”
พี่สะใภ้รองจ้าวที่กำลังรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ในใจจับคำพูดสำคัญได้ในทันที “ค้างจ่าย?”
“ค่ะ ไม่งั้นจะไปเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหนล่ะคะ” เย่ฉูฉู่กล่าวพลางชี้ไปที่กระเบื้องบนเตาทำอาหาร พื้นและกำแพง “ยังมีอันนู้น อันนี้อีก ของพวกนี้ค้างจ่ายทั้งนั้นแหละ ค่อยจ่ายเงินปีหน้า สองปีข้างหน้า หรืออาจจะสามปีข้างหน้า”
เมื่อเอ่ยคำพูดนี้ออกไป ทุกคนต่างก็ตกตะลึง ค้างจ่าย? ของพวกนี้ที่อยู่ในบ้านปรากฏว่าค้างจ่ายทั้งหมดเลย?
“โอ้สวรรค์ เจ้าหกจ้าวนี่กล้าหาญเกินไปแล้ว ค้างจ่ายทั้งหมดเลย นี่ต้องติดหนี้เท่าไรกันเนี่ย? เขายังอยากจะใช้ชีวิตอีกหรือเปล่า?” ภรรยาเหล่าหวังสามตกตะลึงอ้าปากค้างจนทำตัวไม่ถูก
“ผู้ชายคนนี้ไม่สนใจไม่ได้นะ โดยเฉพาะเรื่องเงิน เธอต้องรั้งเขาไว้นะ!” ภายในใจของสะใภ้จ้วงรู้สึกสบายใจไม่น้อย ปากก็พูดพล่ามไป
“ผู้หญิงต่างก็ดูแลเรื่องเงินกันทั้งนั้น เธอไม่ดูแลได้ยังไง? สามีจะไปรู้จักการใช้ชีวิตที่ไหนกันล่ะ? ฉันเองยังไม่กล้าคิดเลย ถ้าฉันติดหนี้เยอะขนาดนี้ เกรงว่าไปหาแม่น้ำกระโดดลงไปยังจะผ่อนคลายมากกว่า ชีวิตนี้ไม่แน่อาจจะจบเห่แล้วก็ได้!” พี่สะใภ้สี่จ้าวพูดอย่างรับไม่ได้
“ก็นั่นน่ะสิ ผู้ชายเป็นคนหาเงิน ส่วนผู้หญิงถึงจะเป็นคนดูแลเรื่องเงิน ภายในบ้านเธอต้องเป็นใหญ่นะ” ภรรยาเหล่าหวังสามกล่าว
“ถ้าเขาไม่ยอมให้เงินเธอ ถ้าไม่ได้ก็ทะเลาะไปเลย ตอนนี้เธอเองก็ตั้งครรภ์อยู่ ร้องไห้โวยวายไปเลย ดูสิว่าเขาจะกลัวไหม!” สะใภ้จ้วงแนะนำ
พูดถึงตรงนี้ แม้แต่พี่สะใภ้รองจ้าวก็รู้สึกถึงความสมดุลภายในใจแล้ว
“น้องสะใภ้หก เธอเองก็ไม่ควรเอาแต่ตามใจน้องสามีหกนะ เธอก็ต้องพูดกับเขาด้วย ขาดแคลนเงินไม่เป็นไรหรอก พวกเราสร้างบ้านก็ขาดแคลนเงินเหมือนกัน แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้มากเกินไป เพราะถ้ามากไปอาจจะคืนไม่ไหวก็ได้นะ” พี่สะใภ้รองจ้าวพูดด้วยคำพูดที่อัดแน่นด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง
การสร้างบ้านใหม่ของหล่อนย่อมไม่อาจเทียบกับบ้านนี้ได้ก็จริง แต่ก็ไม่ได้เป็นหนี้มากขนาดนั้น ดังนั้นการใช้ชีวิตก็ไม่ควรสนใจแค่ความดูดี ต้องดูสถานการณ์ความเป็นจริงด้วย จ้าวเหวินเทาใช้ชีวิตด้วยการเป็นหนี้แบบนี้ แม้แต่หล่อนเองแค่ได้ยินก็รู้สึกกลัวแล้ว
คนๆ นี้ทำในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ ใช้เงินมากขนาดนี้ จะจ่ายคืนได้อย่างไรกัน?
เมื่อนึกเช่นนี้พี่สะใภ้รองจ้าวก็รู้สึกเห็นใจเย่ฉูฉู่อีกครั้ง ได้เห็นเมื่อเพียงครู่ก็ทำให้หล่อนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาจริง ๆ แต่ใครจะไปรู้ว่ามันเป็นแค่เปลือกนอก
เรื่องราวถูกส่งต่อจากปากของสะใภ้จ้วงและคนอื่น ๆ เพียงไม่นานพวกพี่ป้าน้าอาคนอื่น ๆ ก็ทราบกันหมดถึงเรื่องที่จ้าวเหวินเทาเป็นหนี้ก้อนโต
พวกหล่อนต่างก็มาคุยกับเย่ฉูฉู่ บอกให้เธอต้องดูแลสามีให้ดี ปล่อยปละละเลยแบบนี้ แม้แต่ท้องฟ้าก็อาจจะถูกเขาปีนขึ้นไปเจาะได้ ไม่เคยเห็นใครกล้าหาญขนาดนี้มาก่อนเลย!
แต่ก็อย่าพูดเลย วิธีการพูดเกี่ยวกับเรื่องติดหนี้ไม่มีใครสงสัยเลยจริง ๆ
เพราะแม้ว่าจะทราบดีว่าจ้าวเหวินเทาวิ่งออกไปขายของและได้เงินมานิดหน่อย แต่ต่อให้ได้เงินมามากกว่านี้ ก็ไม่มีทางที่จะรวยถึงขั้นนี้ได้จริง ๆ
ของเหล่านี้ต้องใช้เงินสักเท่าไร? เป็นไปไม่ได้เลยที่จะคืนเงินได้หมดจากการวิ่งออกไปค้าขาย
เมื่อมาคิด ๆ ถึงพฤติกรรมที่สอดคล้องกันของจ้าวเหวินเทา ดังนั้นจึงไม่มีใครสงสัย นี่ต้องค้างจ่ายแน่นอน ความกล้านี้มากกว่าเสือดาวอีก
ค้างจ่ายเพื่อสร้างบ้านยังพอทน คุณพ่อและคุณแม่จ้าวเพียงแค่หลับหูหลับตาข้างหนึ่ง ถึงอย่างไรก็ทราบดีว่าลูกชายคนเล็กได้เงินมาเท่าไร
แต่ใครจะไปคิดว่าจะค้างจ่ายมากขนาดนี้
คุณแม่จ้าวอดไม่ได้ที่จะถามหลังจากคนอื่น ๆ กลับไปแล้ว “เงินมากขนาดนี้ แกแน่ใจเหรอว่าจะจ่ายคืนในภายหลังได้?”
จ้าวเหวินเทารู้ดีว่าแม่เป็นกังวล จึงพูดด้วยรอยยิ้ม “แม่ ต้องคืนหมดสิ แต่ก็อาจจะสามปีมั้ง”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เขามีปัญญาจ่ายน่ะถึงทำขนาดนี้ ทุกอย่างล้วนผ่านการกลั่นกรองมาแล้ว ทุกคนไม่ต้องห่วงนะคะ ห่วงชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเองเถอะ อาหารการกินก็มีทำไมต้องไปคอยกินเผือกด้วย
ไหหม่า(海馬)