เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 232 พี่สาวน้องสาว
ตอนที่ 232 พี่สาวน้องสาว
สองสามีภรรยารับประทานเกี๊ยวย่างไปพลางพูดคุยไปพลาง รู้ตัวอีกทีก็รับประทานจนอิ่มแปล้แล้ว
เย่ฉูฉู่รู้สึกอาย “นี่ก็กินอิ่มแล้ว ไม่ต้องต้มแล้วล่ะค่ะ”
จ้าวเหวินเทาเรอ “ก็ดีเหมือนกัน ประหยัดเวลาด้วย!”
จะว่าไปการทำแบบนี้ก็ไม่ต้องเผาฟืนต้มน้ำให้ร้อน ไม่ต้องหยิบจาน ไม่ต้องล้างทำความสะอาดหม้อ และยังได้รับประทานอาหารอร่อย ๆ อีกด้วย คิดแบบนี้แล้วเย่ฉูฉู่ก็รู้สึกโล่งใจ
นอกจากนี้ยังเหลือเกี๊ยวอีกหนึ่งถาด จึงนำออกไปวางข้างนอกเพื่อแช่แข็งไว้ พรุ่งนี้เช้าทำโจ๊กสักหน่อยแล้วก็ต้มเกี๊ยวด้วย ก็ได้มื้อเช้าที่อุดมสมบูรณ์มากอีกหนึ่งมื้อ
ผ่านไปได้ไม่กี่วัน เฮ่อซงจือก็พาเพื่อนสนิทรวมถึงน้องสาวของเพื่อนมาที่นี่ ครั้งนี้เฮ่อซงจือก็ไม่ได้อุ้มลูกมาอีกเช่นเคย
“นี่คือฉูฉู่ เป็นเพื่อนสนิทที่สุดหลังจากที่ฉันแต่งงานเข้ามาอยู่ที่นี่!” เฮ่อซงจือแนะนำทั้งสองฝ่าย “ฉูฉู่ นี่คือไห่เยี่ยนเพื่อนที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กตอนอยู่ที่บ้านเกิด ส่วนนี่คือชุนเยี่ยนน้องสาวของไห่เยี่ยน”
“มาเถอะ รีบเข้ามาในบ้าน พวกเธอมากันยังไงเหรอ หนาวหรือเปล่า?” เย่ฉูฉู่อุ้มลูกนำพวกหล่อนให้เข้ามาในบ้าน จากนั้นจึงรินน้ำชาให้
“พวกเราขี่จักรยานมา ก็พอได้อยู่นะคะ ไม่ได้หนาวขนาดนั้น” ไห่เยี่ยนนั่งที่ขอบเตียง “พี่ฉูฉู่ ไม่ต้องยุ่งยากหรอกค่ะ พวกเรายังไม่ดื่มหรอก”
“ไม่เป็นไร ดื่มน้ำร้อนสักหน่อยร่างกายจะได้อุ่น ๆ” เย่ฉูฉู่กล่าว
เฮ่อซงจือขึ้นมานั่งตรงตำแหน่งใกล้ปากเตาโดยไม่ได้รู้สึกเกรงใจ “ฉูฉู่ ฉันชอบมาบ้านเธอจัง อบอุ่นและสะอาดจริง ๆ!”
“งั้นเธอก็มาเถอะ” เย่ฉูฉู่เสร็จธุระแล้วก็มานั่งข้าง ๆ เฮ่อซงจือ จากนั้นก็กวาดตามองสองพี่น้อง
ไห่เยี่ยนมีหน้าตาธรรมดา ค่อนไปทางอวบนิดหน่อย นี่คงเป็นเพราะเคยผ่านการมีลูกมาแล้ว หล่อนมีใบหน้ากลมมน ดูแล้วแอบมีอายุนิดหน่อย สีหน้าก็ไม่ค่อยเปล่งปลั่งเท่าไรนัก ท่าทางดูเหนื่อยล้ามาก เย่ฉูฉู่จำจากที่เฮ่อซงจือเคยเล่าให้ฟังได้ เพื่อนวัยเด็กของหล่อนคนนี้แต่งงานกับครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะเท่าไรนัก สามีหล่อนมีพี่น้องหลายคน คนที่เธอแต่งงานด้วยก็เป็นพี่ชายคนโต ดังนั้นจึงต้องช่วยเหลือพวกน้องชายคนอื่น ๆ ทำให้เหนื่อยมาก ๆ
เพียงแต่ในยุคนี้คนที่แต่งงานก็จะเลือกตระกูลที่มีพี่น้องเยอะ ๆ แต่งงานกับครอบครัวยากจน ต้องเป็นแบบนี้ถึงจะใช้ได้จริง ส่วนจะเหนื่อยหรือเปล่าไม่ได้พิจารณาถึงจุดนั้น ถึงอย่างไรการใช้ชีวิตของทุกคนก็เหนื่อยมากอยู่แล้ว
ส่วนชุนเยี่ยนผู้เป็นน้องสาวก็มีหน้าตาธรรมดาเช่นกัน เพียงแต่มีรูปร่างผอมบางกว่า ดู ๆ ไปแล้วสูงกว่าพี่สาวนิดหน่อย รูปหน้าของหล่อนค่อนข้างแหลม ดวงตารียาว สวมผ้าโพกศีรษะสีแดงกระชับเข้ากับใบหน้าเล็ก ๆ ดูแล้วน่าสงสารมาก
นี่คือคนที่เจ้ารองฉวี่ชอบเหรอ? เย่ฉูฉู่รำพึงในใจ
“บ้านหลังนี้ดีจริง ๆ!” ไห่เยี่ยนแสดงความอิจฉาของตนออกมาด้วยท่าทางนิ่งสงบ
เย่ฉูฉู่ยิ้ม “ใช้เงินเยอะเหมือนกัน สร้างบ้านหลังนี้ทำให้เราเป็นหนี้เยอะมากเลยนะ”
“เป็นหนี้ก็ยังคุ้มค่านะ” ไห่เยี่ยนกล่าว
ชุนเยี่ยนนั่งอยู่ด้านหลังพี่สาวของตน หล่อนกวาดสำรวจภายในบ้าน ดวงตาประกายด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน ตั้งแต่เล็กจนโตนี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนทราบว่าบ้านสามารถสร้างเป็นแบบนี้ได้ เมื่อนึกถึงบ้านของตัวเองก็ไม่สามารถนำมาเทียบกับหลังนี้ได้เลย ไม่เพียงแต่รกรุงรัง แต่ยังหนาวจนแทบแข็งตาย
หลังจากคุยกันครู่หนึ่ง เฮ่อซงจือก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา จึงลงจากเตียง “พวกเธอสองคนรออยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวฉันออกไปแป๊บหนึ่ง”
สองพี่น้องต่างก็ทราบดีว่าเฮ่อซงจือจะไปทำอะไร พี่สาวยังดีหน่อย แต่น้องสาวกลับหน้าแดงทั้งยังก้มหน้าก้มตา
เฮ่อซงจือเดินออกไปแล้ว เย่ฉูฉู่จึงคุยกับสองพี่น้อง ระหว่างนั้นก็กล่อมลูกไปพลาง ๆ หัวข้อสนทนาย่อมต้องเกี่ยวกับการขยายบ้านที่อยู่รอบ ๆ จากนั้นก็คุยเรื่องกระต่าย
“ฉันรู้มาว่ากระต่ายของข้าวซานถุนมีชื่อเสียง งั้นพวกพี่ก็ร่ำรวยเพราะกระต่ายสินะ?” ไห่เยี่ยนพูดด้วยความสงสัยใคร่รู้
เย่ฉูฉู่ตอบอย่างจนใจ “กระต่ายของข้าวซานถุนมีชื่อเสียงจริง ๆ แต่เรื่องที่บอกว่าพึ่งพากระต่ายจนรวยไม่มีหรอก นี่เพิ่งจะผ่านไปเท่าไรเอง หนึ่งปีกว่า ๆ ได้มั้ง จะรวยง่าย ๆ แบบนั้นได้ยังไง”
ชุนเยี่ยนอดไม่ได้ที่จะพูด “แต่ฉันได้ยินมาว่า หมู่บ้านของพวกพี่ต่างก็อยากจะสร้างบ้านใหม่กันหมดเลยน่ะค่ะ!”
ที่เธอได้ยินมา คงได้ยินมาจากเจ้ารองฉวี่สินะ? เย่ฉูฉู่แอบรู้สึกขบขันอยู่ในใจ
“ใช่ แต่ก็เป็นการสร้างบ้านที่ทำให้อดอยากเหมือนกัน ไม่เรียกว่าร่ำรวยหรอก” เย่ฉูฉู่ไม่อยากหลอกสาวน้อยผู้บริสุทธิ์
ชุนเยี่ยนแอบผิดหวัง แต่เมื่อเห็นบ้านหลังนี้ดีขนาดนี้จึงพูดว่า “ขอแค่สร้างบ้านแบบนี้ขึ้นมาได้ต่อให้อดอยากก็ยังคุ้มค่าอยู่ดีนะคะ”
เย่ฉูฉู่ยิ้ม “ถ้าเธอคิดแบบนี้ก็ได้ ขอแค่เธอมีรายได้ คืนเงินทุกปี ยังไงก็คืนจนหมดนั่นแหละ”
ไห่เยี่ยนถามเรื่องเลี้ยงกระต่าย เย่ฉูฉู่จึงตอบคำถามอย่างละเอียด
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นแขก เธอต้องต้อนรับอย่างจริงจัง สามีกลับมาคงต้องพูดสักหน่อยแล้ว บอกให้เขาจ่ายเงินเดือนให้เธอด้วย! เย่ฉูฉู่คิดด้วยรอยยิ้มอยู่ในใจ
เฮ่อซงจือออกไปไม่นานก็กลับมา แน่นอนว่าคนที่มากับเธอยังมีเจ้ารองฉวี่และยายเฒ่าฉวี่แม่ของเจ้ารองฉวี่ด้วย
ในเวลาแบบนี้การมาดูตัวหากให้มาคนเดียวคงรู้สึกไม่ดีเท่าไรนัก ถึงอย่างไรก็ต้องมีผู้อาวุโสมาด้วย ครั้งก่อนเจ้ารองฉวี่ไปกับคุณแม่จ้าว ส่วนครั้งนี้เป็นแม่ของเขาเอง
“ป้าใหญ่มาแล้ว!” เย่ฉูฉู่กล่าวทักทายและเดินไปหยิบแก้วน้ำชามาให้
ยายเฒ่าฉวี่รีบมองไห่เยี่ยนและชุนเยี่ยนอย่างรวดเร็ว สายตาของนางมองไปยังชุนเยี่ยนก่อนจะเบือนไปยังเสี่ยวไป๋หยาง “อุ้ย เด็กน้อยจ้ำม่ำ ตัวใหญ่ขนาดนี้แล้วเหรอ มา ๆ ขอป้าอุ้มหน่อยนะจ๊ะ!” นางปรบมือและเดินเข้าไปอุ้มเสี่ยวไป๋หยาง
“ไปลูก ให้คุณป้าอุ้มหน่อยนะ” เย่ฉูฉู่ยื่นเสี่ยวไป๋หยางให้อีกฝ่าย
เสี่ยวไป๋หยางเป็นเด็กเข้ากับคนง่าย เขายิ้มพลางเตะเท้าไปมา ไม่ได้เห็นคนอื่นเป็นคนแปลกหน้าแม้แต่น้อย ยายเฒ่าฉวี่ยื่นแขนออกไปอุ้ม ส่วนเสี่ยวไป๋หยางก็หัวเราะออกมา
“เด็กคนนี้ดีจริง ๆ เลย ยิ้มเก่งจัง!” ยายเฒ่าฉวี่พูดพลางนั่งที่ขอบเตียง
เจ้ารองฉวี่ซุกมืออยู่ในเสื้อทั้งยังยืนอยู่ที่ประตูด้วยท่าทางงุนงง
เฮ่อซงจือรีบทำหน้าที่พูดคุยให้ “ป้าใหญ่มาถามเรื่องกระต่ายน่ะ กระต่ายที่บ้านคลอดลูกออกมาอีกหนึ่งครอกแล้ว อากาศเย็นแบบนี้ ควรจะคลุมด้วยอะไรสักหน่อยหรือเปล่า?”
เย่ฉูฉู่เกือบจะหลุดหัวเราะออกมา ข้ออ้างเห่ย ๆ แบบนี้เฮ่อซงจือก็ยังพูดออกมา ตระกูลฉวี่เลี้ยงกระต่ายมาหนึ่งปีแล้ว ยังจะไม่รู้เรื่องพวกนี้อีกเหรอ แต่ปากก็ยังให้ความร่วมมือแบบไม่ใส่ใจอะไร
ไห่เยี่ยนลุกขึ้นยืนเดินมาหาเย่ฉูฉู่ “พี่ฉูฉู่ ฉันขอดูบ้านของพี่หน่อยได้ไหม?”
เย่ฉูฉู่กล่าว “ได้สิ เดี๋ยวฉันพาไปดูนะ!” จากนั้นก็พูดกับเสี่ยวไป๋หยาง “อยู่ที่นี่อย่าซนนะลูก เดี๋ยวแม่กลับมานะ”
เสี่ยวไป๋หยางส่งเสียงอ้อแอ้ตอบรับกลับมา
สองพี่น้องเดินตามเย่ฉูฉู่ออกจากห้องตะวันออก ส่วนเฮ่อซงจือก็ดึงเจ้ารองฉวี่ให้ออกมา จากนั้นก็เดินไปที่ห้องตะวันตก
เย่ฉูฉู่เข้าใจความหมายของเฮ่อซงจืออย่างถ่องแท้ จึงมาที่ห้องตะวันตกด้วย เหลือเพียงชุนเยี่ยนที่อยู่ภายในห้อง ส่วนไห่เยี่ยนก็ตามออกมาเช่นกัน เฮ่อซงจือเดินตามออกมา จากนั้นทั้งสามคนก็เดินไปเดินมาอยู่ในห้องครัวด้านหลัง ไห่เยี่ยนเห็นเครื่องทำความร้อนและก๊อกน้ำ โดยเฉพาะก๊อกน้ำที่แค่หมุนน้ำก็ไหลออกมา ก็รู้สึกแปลกใหม่มาก
“ตอนแรกฉันคิดว่าของชิ้นนี้จะติดตั้งได้แค่ในเมืองเท่านั้น ชนบทของพวกเราไม่สามารถติดตั้งได้ คิดไม่ถึงเลยว่าชนบทของเราก็ติดตั้งได้ด้วย” ไห่เยี่ยนกล่าว
เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีอะไรที่ติดตั้งไม่ได้หรอก ในเมืองกับชนบทก็เหมือนกันนั่นแหละ”
“นั่นสิ ในเมืองก็ไม่ได้อยู่บนสวรรค์สักหน่อย ต่างก็อยู่บนพื้นดินเหมือนกัน ไม่มีอะไรทำไม่ได้หรอก!” เฮ่อซงจือกล่าว “ฉันตัดสินใจแล้ว รอให้ฉันสร้างบ้านเมื่อไรก็จะติดตั้งเจ้าสิ่งนี้ด้วย ของแบบนี้สะดวกสบายมาก โดยเฉพาะหน้าหนาว อากาศหนาวมาก ๆ ไม่มีใครอยากออกไปปั๊มน้ำหรอก”
เย่ฉูฉู่จึงอธิบายให้ไห่เยี่ยนฟังหนึ่งรอบเกี่ยวกับหม้อต้มว่านำความร้อนได้อย่างไร เมื่อได้ยินเสียงเสี่ยวไป๋หยางร้องจึงเดินกลับมา
“เด็กคนนี้ ช่างขี้ขลาดจริง ๆ! พอหายไปนานก็เรียกหาแม่ซะแล้ว!” ยายเฒ่าฉวี่กล่าว
‘ขี้ขลาด’ ในชนบทเป็นคำพูดชื่นชมเด็ก ความหมายก็คือฉลาดปราดเปรื่อง
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ดูให้ความร่วมมือกับการดูตัวกันดีมากเลยค่ะ คราวนี้เจ้ารองฉวี่จะตกลงปลงใจกับสาวคนนี้ไหมนะ
ไหหม่า(海馬)