เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 269 ฟาร์มกระต่าย
ตอนที่ 269 ฟาร์มกระต่าย
ตอนที่ 269 ฟาร์มกระต่าย
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเลี้ยงกระต่ายแบบปล่อยให้อยู่ในธรรมชาติสีเขียวบริสุทธิ์ จ้าวเหวินเทาจึงใช้ความพยายามเป็นอย่างยิ่งเพื่อทำให้เป็นธรรมชาติ ไม่ให้มีร่องรอยของสิ่งประดิษฐ์โดยมนุษย์ที่มากเกินไป ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าไม่เลวเลยจริง ๆ
ลมฤดูใบไม้ผลิค่อย ๆ พัดผ่านพื้นดิน พื้นสีเขียวขจีเรียบ ๆ หนึ่งผืนมีหญ้าหนาและเปียกชื้นขึ้นปกคลุม ช่างเป็นบรรยากาศงดงามที่มีความคลุมเครือ ไม่ต้องพูดถึงกระต่ายที่อาศัยอยู่ที่นี่เลย คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ต่างก็เพลิดเพลินถึงขีดสุด!
ผู้อาวุโสที่เฝ้าสถานีรับซื้อในตำบลใช้โอกาสในช่วงวันหยุดตั้งใจเดินทางมาเยี่ยมชมที่นี่
“ลุง รู้สึกยังไงบ้าง?” จ้าวเหวินเทานำเขาเดินดูรอบ ๆ ขณะเอ่ยถาม
ชายชราก็มีแซ่จ้าวเช่นกัน เขาเดินยกมือไพล่หลังมองอย่างจริงจัง พยักหน้ากล่าวว่า “ไม่เลวเลยนะ แต่ฉันอยากถามนายหน่อย นายซื้อที่ดินใหญ่โตขนาดนี้ แค่เลี้ยงกระต่ายเรอะ? ไม่เลี้ยงอย่างอื่นเลยเหรอ?”
จ้าวเหวินเทาไม่รู้ว่าชายชราต้องการจะสื่ออะไร “แล้วลุงคิดว่าเลี้ยงอะไรเพิ่มดีล่ะ?”
ชายชรามองไปยังแม่น้ำหนึ่งสายที่ตัดผ่านฟาร์มกระต่ายตรงหน้า กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไอ้หนูนายนี่ฉลาดมากจริง ๆ ถึงได้ล้อมแม่น้ำเข้ามาด้วย”
จ้าวเหวินเทามีความสุข “ลุง เรื่องนี้ผมเองก็ไม่รู้ ตอนที่แบ่งพื้นที่ผมก็ไม่ได้คิดมากมายอะไรขนาดนั้น แค่คิดว่ามีภูเขามีน้ำและดูดี ผมก็เลยซื้อที่นี่”
“มีแม่น้ำนี่แหละดี เลี้ยงเป็ดสักหน่อย เอาไข่เป็ดมากินได้ แล้วก็เลี้ยงไก่อีกหน่อย ฤดูร้อนตั๊กแตนเยอะขนาดนั้น ไม่ต้องให้อาหารเลยด้วยซ้ำ ทำให้ไข่ที่ออกมามีโภชนาการด้วย” ลุงจ้าวพูดด้วยเหตุผล “แต่ว่านะ เลี้ยงเยอะเกินไปก็ไม่ได้ เลี้ยงเยอะเกินไปถ้าเกิดหายนะกับที่นี่ขึ้นมาคงไม่ดี สถานที่แห่งนี้ฉันว่านายเลี้ยงไก่ไว้สักห้าสิบตัว แล้วก็เป็ดอีกห้าสิบตัวก็ไม่มีปัญหาอะไร”
จ้าวเหวินเทาคำนวณดู ถ้ารวมเข้ากับกระต่ายก็ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลย แต่ชายชราคนนี้คิดบวกขนาดนี้ก็ไม่สามารถโต้แย้งได้ จึงพูดว่า “ได้สิ กลับไปผมจะไปลองถามดู ว่ามีใครอยากดูแลเป็ดกับไก่บ้าง”
ลุงจ้าวส่งเสียง ‘หึ’ เบา ๆ หนึ่งเสียง “นายยังจะถามใคร หรือที่ฉันมาแค่มากินข้าวฟรี ๆ เหรอ?”
จ้าวเหวินเทาชะงัก
ลุงจ้าวพูดอีกว่า “นายไม่ต้องไปหาใครหรอก เรื่องดูแลเป็ดกับไก่แค่นี้ฉันทำได้ ไม่งั้นฉันจะมาหานายทำไมล่ะ?”
จ้าวเหวินเทายิ้ม “ลุง ผมคิดว่าลุงมาเพื่อช่วยผมเลี้ยงกระต่ายเสียอีก”
“มีคนเลี้ยงกระต่ายตั้งเยอะแยะขนาดนี้ ยังต้องให้คนแก่อย่างฉันช่วยอีกเหรอ? ฉันรักษาความปลอดภัยหน้าประตูมาครึ่งค่อนชีวิตแล้ว ที่มาหานายก็เพื่อมาช่วยเฝ้าประตูให้ ระหว่างนั้นก็เลี้ยงไก่กับเป็ดนิด ๆ หน่อย ๆ ด้วย ฉันกินนิดเดียว ที่เหลือนายก็เอาไปขาย ก็ได้รายได้เพิ่มขึ้นด้วย”
ลุงจ้าวเป็นคนจริง ยังไม่ทันได้เริ่มงาน ก็เริ่มช่วยวางแผนให้เจ้านายอย่างจ้าวเหวินเทาแล้ว
จ้าวเหวินเทาคิดว่าตัวเองโชคดีจริง ๆ คนชรานับเป็นสมบัติอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะคนชราแบบลุงจ้าว
“ได้เลย ลุง งั้นฟาร์มกระต่ายนี้ลุงก็ช่วยดูแลด้วยนะ ไม่ต่างจากเฝ้าประตูหรอก” จ้าวเหวินเทากล่าว
ลุงจ้าวถลึงตาใส่เขา “ไอ้เด็กบ้า หลอกคนแก่แบบฉันให้มันน้อย ๆ หน่อย ดูแลฟาร์มกระต่ายเหมือนกับเฝ้าประตูเหรอ?”
“มันก็เหมือนกับจัดการดูแลเป็ดไก่นั่นแหละ ลุงดูแลเป็ดไก่ร้อยกว่าตัว คนในฟาร์มมีแค่สิบกว่าคนเอง”
ลุงจ้าวด่าด้วยรอยยิ้ม “ไอ้เด็กบ้า คนกับเป็ดไก่มันเหมือนกันเหรอ พูดจาเหลวไหล!”
“ผมเห็นลุงเคยไปทำสงครามมา หรือว่านี่จะยากกว่าการทำสงคราม?” จ้าวเหวินเทากล่าว มีคนแก่ที่มีความสุขุมรอบคอบมาดูแลฟาร์มกระต่ายเขาก็สบายใจ
ลุงจ้าวถอนหายใจ “นายพูดถูก แต่ฉันเองก็แก่แล้ว คงไม่ได้มีพลังมากมายขนาดนั้น นี่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน ไม่สิ ห้าปีก็ได้ ฉันคงกล้าดูแล ตอนนี้คงไม่ไหวแล้ว สัตว์ปริมาณมากฉันคงดูแลไม่ไหว ไก่กับเป็ดยังได้อยู่”
จ้าวเหวินเทาไม่ได้บังคับอะไรอีก “ลุง ลุงว่าไงก็เอาตามนั้นแหละ รอครั้งหน้าผมเข้าเมืองไปซื้อเป็ดกับไก่กลับมา ลุงก็ช่วยผมดูได้แล้ว”
ผลลัพธ์ที่ได้เขากลับถูกลุงจ้าวดูถูกอีกครั้ง “ไก่กับเป็ดยังต้องซื้ออีก? นายก็ไม่ต้องดูแลอะไรแล้ว ฉันได้ยินแม่ของนายบอกว่า แม่ไก่ที่บ้านนายกำลังฟักไข่ ถึงเวลานั้นฟักไข่ไก่มากหน่อยก็ออกมาเป็นตัวแล้ว เป็ดก็เหมือนกัน”
ยอมเขาเลย ครั้งนี้หมดห่วงได้เยอะเชียว! จ้าวเหวินเทาเป็นผู้นำที่ไม่ต้องทำอะไรอย่างมีความสุข เขานำลุงจ้าวไปด้านหน้าบ้านพักที่สร้างเรียงเป็นแถว เขาชี้ไปยังหนึ่งในนั้น “ลุง นี่คือที่พักของลุง ตรงนั้นเป็นที่พักของพ่อแม่ผม จะได้เป็นเพื่อนกันพอดีเลย ส่วนทางนี้เป็นบ้านสำหรับต้อนรับแขกเหรื่อที่มาเป็นครั้งคราว ตรงกลางที่เป็นห้องใหญ่เป็นสถานที่ไว้กินข้าว”
จ้าวเหวินเทาเป็นคนพิถีพิถัน เขาคิดว่าไม่ว่าจะเป็นกระต่ายหรือคน เรื่องการกินและที่พักอาศัยไม่สามารถทำแบบขอไปทีได้ ดังนั้นบ้านที่สร้างขึ้นมาก็ต้องอบอุ่นมาก ด้านในนั้นยังถูกตกแต่งไว้ด้วย
บ้านมีสองห้อง ด้านนอกห้องมีเตาขนาดเล็ก แล้วก็มีหม้อเล็ก ๆ ด้วย ตอนนี้ไฟฟ้ายังไม่เสถียร บางครั้งก็หยุดจ่ายไฟ ไม่สามารถหวังพึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ถ้าลุงจ้าวอยากรับประทานหรือดื่มอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ยังทำได้ ด้านในห้องมีเตียงเตาที่อยู่ติดกับหน้าต่างทิศใต้ กำแพงทางทิศเหนือมีตู้หนึ่งแถว นี่เป็นของที่จ้าวเหวินเทาเรียนรู้มาจากบ้านแบบแฟลตในเมือง เรียกว่าตู้ติดผนัง สามารถใส่ของได้สะดวกมาก ข้างเตียงยังมีโต๊ะและเก้าอี้อย่างละตัว ทั้งคู่เป็นสีไม้ดั้งเดิมทั้งหมด และถูกทาเคลือบให้มันเงาหนึ่งชั้น
พื้นปูด้วยอิฐแดง กำแพงทาด้วยสีขาว หน้าต่างเปิดออกกว้างขวางมาก กระจกก็ใหญ่มาก แสงแดดส่องลงบนครึ่งหนึ่งของเตียงแล้ว ดู ๆ ไปแล้วก็มีความสว่างมาก
ลุงจ้าวพึงพอใจมาก เขานั่งลงบนเตียง คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อมาถึงที่เตียงจะร้อนผ่าว เตียงต้องผ่านการอุ่นเตียง แบบนี้ทำได้รวดเร็ว ตอนนี้ก็ยังหลงเหลืออุณหภูมิสูงอยู่
“ถึงเวลานั้นผมจะซื้อแผ่นปูเตียงมาปูให้ ลุงชอบสีอะไรเหรอ?” จ้าวเหวินเทากล่าว
แผ่นปูเตียงก็คือเสื่อน้ำมันปูพื้น คนในเมืองใช้เพื่อปูพื้น คนในชนบทใช้เพื่อปูลงบนเตียงเตา มีลวดลายเยอะมาก มันวาวทำความสะอาดง่าย แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกัน คือไม่สามารถระบายอากาศได้ ใต้เตียงเตาก็จะเกิดความชื้นอยู่บ่อย ๆ
ลุงจ้าวส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันไม่ชอบของแบบนั้น ถึงเวลานั้นเดี๋ยวฉันทำเสื่อขึ้นมาสักผืน ปูด้วยอันนั้นสบาย ระบายอากาศดีแถมยังกันความร้อนด้วย เตียงเตาแบบนี้ใช้เสื่อนี่แหละดี แผ่นปูเตียงนั่นที่นายพูดถึงก็มีไว้เพื่อให้ดูดีสินะ”
จ้าวเหวินเทาก็คิดเช่นนี้ “ลุงพูดถูกต้องเลย ผมเองก็ไม่ชอบสิ่งนั้นเหมือนกัน ที่บ้านผมก็ปูด้วยเสื่อ แต่ตอนนี้ปูด้วยเสื่อน้ำมันดูทันสมัยกว่า”
“ทันสมัยก็ใช่ว่าจะเป็นของดี” ลุงจ้าวยืนกราน
หลังจากดูห้องเสร็จ จ้าวเหวินเทาก็ยื่นกุญแจห้องให้ลุงจ้าว แล้วเดินพาไปดูห้องอาหาร
ห้องอาหารมีขนาดใหญ่มาก จ้าวเหวินเทากลัวว่าฤดูหนาวจะหนาว จึงแบ่งออกเป็นสองห้อง ติดกับหน้าต่างมีโต๊ะยาวและเก้าอี้ยาววางอยู่ ทางทิศเหนือติดกับห้องครัว ที่นี่ก็เป็นจุดไว้เผาเตาด้วย จ้าวเหวินเทาได้สัมผัสถึงข้อดีของเครื่องทำความร้อนแล้ว เขาจึงติดตั้งให้พ่อกับแม่หนึ่งเครื่องด้วย ส่วนหม้ออยู่ในห้องครัว ติดกับห้องอาหารเป็นห้องของคุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าว
“ลุง ถึงเวลานั้นผมจะติดตั้งเครื่องทำความร้อนให้นะ ฤดูหนาวก็จะได้อบอุ่นด้วย ตอนนี้หม้อทำความร้อนยังไม่ได้ซื้อกลับมา ต้องรออีกสามสี่วันถึงจะติดตั้งได้” จ้าวเหวินเทาแนะนำ “ห้องของลุงกับพ่อแม่ผมอยู่สองข้างของห้องอาหาร อยู่ใกล้กับท่อทำความร้อนมาก เวลาทำอาหารก็จะได้เผาหม้อทำความร้อนไปด้วยเลย”
ลุงจ้าวมีความสุขจนหน้าบาน ห้องของพนักงานรักษาความปลอดภัยสถานีรับซื้อของในตำบลไม่มีเครื่องทำความร้อน แต่ลุงจ้าวรู้จักเครื่องทำความร้อนนี้ อบอุ่นกว่าเตาเสียอีก
“นายนี่มีน้ำใจนะ” ลุงจ้าวกล่าว
“ลุง อย่าเพิ่งดีใจเลย ของนี้เปลืองถ่าน ผมติดตั้งไว้ในห้องของลุงกับพ่อแม่ผม แต่ห้องอื่นผมไม่ได้ติดตั้งไว้ ถ้าฤดูหนาวมีแขกมา ก็ต้องขอนอนค้างในห้องลุงด้วยนะ” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ค้างก็ค้างไปสิ คนแก่ ๆ แบบฉันอยู่ตัวคนเดียว มีคนเยอะขึ้นสองสามคนก็คึกคักดี!” ลุงจ้าวไม่ได้ใส่ใจ
ลุงจ้าวพึงพอใจจ้าวเหวินเทาก็พึงพอใจ หลังจากออกมาจากห้องครัวก็ไปดูที่ห้องของคุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าว รูปแบบของห้องเหมือนกับห้องของลุงจ้าว มีการตกแต่งห้อง เพียงแต่มีห้องมากกว่าหนึ่งห้อง ห้องนี้เตรียมไว้เผื่อพวกพี่สาวใหญ่จ้าวและพี่สาวห้าจ้าวมาค้างแรม
……………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ทำฟาร์มกระต่ายออกมาดูดีเชียวเหวินเทา
มีลุงจ้าวมาช่วยนี่สบายแล้ว ไม่ต้องทำอะไรมากเลย
ไหหม่า(海馬)