เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 275 ท้องก่อนแต่ง
ตอนที่ 275 ท้องก่อนแต่ง
ตอนที่ 275 ท้องก่อนแต่ง
“ลูกชายฉันไม่ซนเลยจ้ะ มีเวลาให้ฉันทำงานด้วย รีบนั่งสิ” เย่ฉูฉู่ชี้ไปที่เก้าอี้พลางกล่าว
ภรรยาเหล่าหวังสามนั่งลงบนเก้าอี้ กล่าวกับเฮ่อซงจือด้วยรอยยิ้ม “ก่อนอื่นขอยินดีกับเธอด้วยนะ!”
เฮ่อซงจือถึงกับตะลึงงันกับคำพูดยินดีนี้ “เธออย่าพูดจาเหลวไหลสิ ฉันมีเรื่องน่ายินดีอะไรกัน!”
ภรรยาเหล่าหวังสามเม้มปากยิ้ม “เธอยังไม่รู้สินะ ภรรยาของเจ้ารองฉวี่น่ะมีแล้วนะ เธอที่เป็นแม่สื่อจับคู่ได้ง่ายมากจริง ๆ แค่แป๊บเดียวก็เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว!”
เย่ฉูฉู่ชะงัก นางแอบไม่เข้าใจ มีอะไรกัน
เฮ่อซงจือประหลาดใจเล็กน้อย สีหน้าของหล่อนเปลี่ยนเป็นเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวแดง หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งจึงพูดขึ้นว่า “เธอไปได้ยินมาจากไหน?”
ภรรยาเหล่าหวังสามยื่นมือออกมาตีเฮ่อซงจือ “ก็ได้ยินมาจากยายฉวี่น่ะสิ! แม่สามีพูดแบบนี้แล้ว ยังจะเป็นเรื่องโกหกได้อีกเหรอ?”
เฮ่อซงจือตกตะลึงอีกครั้ง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมหล่อนถึงไม่รู้อะไรเลย?
เย่ฉูฉู่เข้าใจแล้ว นางพูดด้วยความประหลาดใจ “พวกเขายังไม่แต่งงานกันไม่ใช่เหรอ? ไปมีกันตอนไหนเนี่ย?”
ภรรยาเหล่าหวังสามกล่าวเคล้ารอยยิ้ม “ฉูฉู่ ดูเธอพูดเข้าสิ เรื่องแบบนี้ยังต้องรอจัดงานแต่งอีกเหรอ? มันก็ทำได้ทุกที่ทุกเวลานั่นแหละ เกิดขึ้นตอนไหนเหรอ จากที่ได้ยินความหมายของยายฉวี่ ดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงเดือนแรกของปีนี่แหละ เธอยังไม่ทันได้แต่งงานเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ก็มาที่บ้านแล้วไม่ใช่เหรอ แถมยังใส่กางเกงบางตัวเดียวด้วย ผลลัพธ์ที่ได้ก็หนาวจนป่วยเลย อยู่ที่บ้านตระกูลฉวี่ตั้งหลายวันแน่ะ คงเป็นช่วงนั้นแหละ!”
เย่ฉูฉู่ลองคำนวณดูแล้วถ้าเป็นช่วงนั้น ถึงตอนนี้ก็น่าจะท้องได้สี่เดือนกว่า ๆ แล้วสิ? ผ่านมาตั้งนานขนาดนี้แล้วฝ่ายหญิงไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ?
ภรรยาเหล่าหวังสามตบหน้าขา “ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ฉันว่านะฝ่ายหญิงนั่นรู้ตั้งนานแล้ว แต่ไม่กล้าพูดแน่ ๆ ถึงได้ปิดบังจนถึงตอนนี้ เป็นเพราะปิดไม่อยู่ถึงได้พูดออกมา”
เฮ่อซงจือหัวแทบจะระเบิด นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนเป็นแม่สื่อ กลับเจอฝ่ายหญิงที่เป็นแบบนี้ ทั้งยังเป็นน้องสาวที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก ๆ ทำไมถึงกลายเป็นคนพึ่งพาอะไรไม่ได้แบบนี้นะ?
“ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ ทำไมถึงได้เกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ได้” เฮ่อซงจือโกรธจนกัดฟันกรอด
“ตระกูลฉวี่ต้องรู้แน่นอน แต่ตระกูลฉวี่น่าจะจงใจปิดบัง นี่ถ้าท้องขึ้นมา เงินสินสอดยังต้องให้อีกเหรอ?” ภรรยาเหล่าหวังสามส่ายหน้าพลางเดาะลิ้น
คำพูดนี้ไม่ผิดเลย ในชนบทคนที่ท้องก่อนแต่งถือเป็นเรื่องที่เสียหน้ามาก เรื่องแบบนี้โดยปกติแล้วจะโทษฝ่ายหญิงก่อน ส่วนฝ่ายชายก็สามารถใช้เรื่องนี้เพื่อไม่ให้สินสอดฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงจะกล้าพูดอะไรได้ ถึงอย่างไรก็ตั้งท้องลูกของอีกฝ่ายไปแล้ว อยากจะหาความบริสุทธิ์ก็หาอะไรไม่ได้แล้ว
แน่นอน การหย่าและหอบลูกไปแต่งงานใหม่ก็เป็นคนละเรื่องกัน คนในชนบทเห็นความสำคัญของความบริสุทธิ์ก่อนแต่งงานมาก ดังนั้นต่อให้ฝ่ายชายไม่ให้สินสอด ฝ่ายหญิงก็ต้องแต่งอยู่ดี
“ตระกูลฉวี่นี่วางแผนดีเชียวนะ พวกเธอคิดดูสิ สู่ขอลูกสะใภ้คนนี้ประหยัดเงินไปตั้งเยอะ!” ไม่รู้ว่าภรรยาของเหล่าหวังสามตื่นเต้นอะไรนักหนา “แต่ถ้าจะให้พูดคนที่ออกแรงก็ยังเป็นเจ้ารองฉวี่ เจ้าเด็กคนนี้ ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเลยนะ ดูเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่กลับทำเรื่องใหญ่โตแบบนี้เสียได้!”
เย่ฉูฉู่ก็แอบเกิดอารมณ์ความรู้สึก เจ้ารองฉวี่ทำให้รู้สึกเหนือความคาดหมายจริง ๆ
เฮ่อซงจือถึงกับหมดแรง “มีลูกแล้วยังจะให้ฉันเป็นแม่สื่อทำไมอีก!”
ภรรยาเหล่าหวังสามกล่าว “ดูพูดเข้าสิ นี่ก็ยังไม่ได้แต่งงานกันเลย ทำไมแม่สื่ออย่างเธอจะไม่มีประโยชน์ล่ะ?”
เย่ฉูฉู่กล่าวเคล้ารอยยิ้ม “นั่นสิ ยังไงก็ต้องมีแม่สื่ออย่างเธอเพื่อให้พวกเขาทั้งสองฝ่ายคุยเรื่องแต่งงานกัน”
เฮ่อซงจือยิ้มอย่างโมโห “ฉันเองก็จะรอดูว่าพวกเขาจะมีหน้ามาบอกฉันยังไง!”
“ต่อให้มีหรือไม่มีหน้าก็ต้องมาบอกสิ” ภรรยาของเหล่าหวังสามทำท่าทางราวกับเป็นผู้ชมไม่ได้เดือดร้อนอะไร “นี่ถ้าผ่านไปอีกสักสองเดือน ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าท้อง แบบนั้นคงทำให้คนหัวเราะเยาะแย่เลย!”
เฮ่อซงจือคิด ๆ ดูแล้วก็เห็นด้วย เรื่องนี้เป็นฝ่ายหญิงนี่แหละที่จะเดือดร้อน
“เฮ้อ!” เฮ่อซงจือถอนหายใจอีกครั้ง
เย่ฉูฉู่ปลอบใจ “เธอก็อย่าโมโหไปเลย พวกเขาสองคนต่างก็ยินดีทั้งคู่ ตอนนี้ก็สร้างบ้านแล้วด้วย งั้นก็แต่งงานเถอะ ถึงยังไงไม่ช้าก็เร็วก็ต้องแต่งงานอยู่ดี”
ภรรยาของเหล่าหวังสามกล่าว “มันก็ใช่ที่ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องแต่งงานกัน แต่ก่อนที่จะแต่งงานดันมามีลูกซะแล้ว มันไม่เหมือนกับตอนที่มีลูกหลังแต่งงานหรอกนะ อีกอย่าง ตอนแรกฝ่ายหญิงก็บอกว่าต้องมีบ้านสามห้องนอนและเตียงเตาอีกหนึ่ง ให้เธอทำแค่งานบ้าน ถึงจะยอมแต่งงาน ตอนนี้ไม่ทันแล้วล่ะ บ้านเพิ่งจะสร้างขึ้นมา แถมยังเป็นหนี้อีก แต่งงานรอบนี้ก็ต้องเป็นหนี้ด้วยนะ!”
“ถ้าบ้านสร้างขึ้นมาแล้ว เก็บกวาดสักหน่อยก็อยู่ได้แล้วใช้เวลาไม่กี่วันหรอก” เย่ฉูฉู่กล่าว “ไม่เอาสินสอด แต่จะไม่จัดการบ้านให้ดี ๆ เหรอ?”
ภรรยาเหล่าหวังสามบุ้ยปาก “ตระกูลฉวี่เป็นแบบนั้น ฉันเห็นแล้วก็ทนไม่ไหว คนบ้านนั้นใช้ชีวิตเป็น อีกอย่าง ฝ่ายหญิงท้องใหญ่เต็มที่ เธอจะให้ฝ่ายหญิงใช้ชีวิตด้วยตัวเองเหรอ หล่อนจะใช้ชีวิตได้เหรอ? เจ้ารองฉวี่ก็ไม่ใช่คนที่จะทำอาหารเป็นด้วย!”
เฮ่อซงจือกล่าว “ไม่ใช่คนที่ทำอาหารเป็นก็ต้องทำ มีภรรยากับมีลูกแล้วถ้าเขาไม่ทำแล้วจะให้ใครทำ!”
“เธอดูสิผู้ชายคนไหนบ้างที่เดินวนอยู่รอบเตาทำอาหารบ้าง!” ภรรยาเหล่าหวังสามกล่าว
เฮ่อซงจือหันมองเย่ฉูฉู่ “ก็มีอยู่คนหนึ่งไม่ใช่เหรอ?”
เย่ฉูฉู่ยิ้ม “เขากลับมาก็มาช่วยทำกับข้าว แต่ฉันก็ต้องตามเก็บกวาดเหมือนกัน”
ภรรยาเหล่าหวังสามถึงกับส่งเสียงอุทาน “จ้าวเหวินเทาของเธอนี่จะมีใครสู้ได้ ทั้งหาเงินเป็น แถมยังรักภรรยาอีก ฉูฉู่ เธอนี่หนูตกถังข้าวสารเลยนะ!”
แม้ว่าจะเป็นคำพูดชื่นชม แต่เย่ฉูฉู่ได้ยินแล้วไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกทะแม่ง ๆ ชอบกล
หยุดพักนานขนาดนี้ เฮ่อซงจือก็ควรกลับไปดูลูกแล้ว หล่อนลุกขึ้นยืนและเดินกลับไป ส่วนภรรยาเหล่าหวังสามก็กลับไปอย่างอาลัยอาวรณ์ การพักผ่อนในสวนหย่อมของเย่ฉูฉู่มันสบายเกินไปแล้ว
หลังจากทุกคนกลับไป เย่ฉูฉู่ก็พูดกับลูกชาย “เสี่ยวไป๋หยาง พวกเราก็ควรทำอาหารกันแล้วนะ ลูกอยากกินอะไรเอ่ย?”
เสี่ยวไป๋หยางอ้าปากหาวในทันที
“เสี่ยวไป๋หยางง่วงแล้วเหรอจ๊ะ?” เย่ฉูฉู่อุ้มลูกชายเดินกล่อมเข้าไปในบ้าน
ครั้นจ้าวเหวินเทากลับมาในตอนค่ำ เย่ฉูฉู่ก็พูดเรื่องของเจ้ารองฉวี่ให้เขาฟัง จ้าวเหวินเทาก็รู้สึกเหนือความคาดหมายมาก
“มีลูกแล้ว? เจ้ารองฉวี่คนนี้เป็นคนมีความสามารถขนาดนี้เลย!” จ้าวเหวินเทาหัวเราะหึหึ “สุดยอดกว่าผมอีกนะเนี่ย!”
“รู้จักแต่พูดจาเหลวไหลนะคะ!” เย่ฉูฉู่ถลึงตามองเขาปราดหนึ่ง
“ไม่ได้พูดเหลวไหลสักหน่อย ตอนที่พวกเราหมั้นกันแรก ๆ ผมยังไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย”
“แล้วคุณคิดอะไร?”
“ผมก็คิดว่าอย่าได้แต่งงาน ถ้าแต่งงานก็จะมีคนมาดูแลแล้ว ไม่สามารถขึ้นเขาลงห้วยได้อีกแล้ว แต่เจ้ารองฉวี่นี่เยี่ยมเลยนะ รีบร้อนขนาดนี้ ทำเรื่องนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เลย!”
จ้าวเหวินเทาพูดโดยสนใจแค่ความรู้สึกของตัวเอง เขาไม่ทันได้เห็นสายตาไม่เป็นมิตรของภรรยา
“คุณจะบอกว่าคุณไม่อยากแต่งงานกับฉัน?” เย่ฉูฉู่ย้อนถาม
“ใช่ที่ไหนกันล่ะ! ที่ผมพูดคือผมไม่อยากแต่งงาน” จ้าวเหวินเทาพูดถึงตรงนี้ก็เพิ่งได้สติ รีบพูดว่า “ถ้ารู้ว่าได้แต่งงานกับคุณแล้วชีวิตจะดีขนาดนี้ ผมคงแต่งงานกับคุณตั้งแต่คลอดออกมาแล้ว!”
เย่ฉูฉู่ยิ้มด้วยความโกรธเคือง “จะไปไหนก็ไปเลย ยิ่งพูดก็ยิ่งเชื่อถือไม่ได้!”
จ้าวเหวินเทาก็หัวเราะ “ภรรยา ผมพูดจริงนะ”
เย่ฉูฉู่หน้าแดงระเรื่อ ภายในใจรู้สึกได้ถึงความหวานหยด คำพูดของสามีจริงหรือเท็จเธอย่อมแยกได้อย่างชัดเจน เพียงแต่คนคนนี้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งน่าสะอิดสะเอียน ไม่ว่าจะคำพูดอะไรก็พูดออกมาหมด!
“ตอนนี้เฮ่อซงจือลำบากใจแล้วล่ะ” เย่ฉูฉู่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
จ้าวเหวินเทาก็พูดตามเออออว่า “นั่นสิ ฝ่ายหญิงเป็นน้องสาวของเพื่อนตัวเอง เกิดเรื่องแบบนี้แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหล่อนที่เป็นแม่สื่อ แต่ถ้าฝ่ายชายไม่ยอมจ่ายเงินค่าสินสอด หล่อนจะรับเงินก็ไม่ได้ ไม่รับก็ไม่ได้อีก เฮ้อ ทำเรื่องแบบนี้ จริง ๆ เล๊ย!”
…………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ทำตัวเองให้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเสียแล้วเจ้ารองฉวี่เอ๊ย แถมกระทบคนอื่นอีก
เหวินเทาพูดให้ดีๆ นะ เดี๋ยวภรรยางอนขึ้นมาต้องง้อนานนะคะ
ไหหม่า(海馬)