เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 280 ลูกลิงผู้กล้าหาญ
ตอนที่ 280 ลูกลิงผู้กล้าหาญ
ตอนที่ 280 ลูกลิงผู้กล้าหาญ
เย่ฉูฉู่ตอนนี้คล้ายกับกลายเป็นซุปเปอร์เกิร์ลที่ปกป้องลูกชาย เธอเหวี่ยงไม้กวาดฟาดไปที่อีกฝ่ายอย่างแรง
เธอไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือเพราะเกรงว่าจะทำให้ลูกตกใจกลัว จึงหวังจะทุบตีอีกฝ่ายให้ออกไปจากบ้านด้วยตัวเอง
คนๆ นั้นคิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ทำร้ายตัวเองจะเป็นผู้หญิง เมื่อดู ๆ ไปแล้วยังเป็นหญิงสาวอายุไม่มากด้วย เรื่องนี้จึงกระตุ้นความอับอายของเขา แม้ว่ามือจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังถือมีดอยู่ เขาจึงโยนไม้ตะบองทิ้งและเปลี่ยนมาใช้มีด จากนั้นก็เงื้อง่าพุ่งตัวเข้ามาโดยไม่สนใจไม้กวาด
เย่ฉูฉู่ไม่ได้สังเกตเห็น เธอยังคงพุ่งตัวออกไป ในเวลานี้เองลูกลิงที่อยู่ด้านหลังก็ส่งเสียงร้องด้วยความโกรธเคือง มันพุ่งตัวกระโดดข้ามศีรษะของเย่ฉูฉู่ แล้วตะปบเข้าใส่หน้าชายคนนั้น
ชายคนนี้ตัวสูงกว่าเย่ฉูฉู่ แต่ลูกลิงก็สามารถกระโดดเข้าใส่ได้อย่างแม่นยำ จากนั้นมันก็ลงมือข่วนทันที ปากก็ส่งเสียงร้องเจี๊ยก ๆ จนชายคนนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มีดในมือก็ไม่อาจถือไว้ได้แล้ว จึงปล่อยร่วงหล่นลงบนพื้น
เย่ฉูฉู่เห็นมีดเล่มนั้นก็เข้าใจได้ในทันทีว่าถ้าไม่ใช่เพราะลูกลิงมาขัดขวางไว้ มีดเล่มนี้คงแทงใส่ร่างของเธอไปแล้ว เมื่อเห็นลูกลิงยังคงข่วนหน้าของอีกฝ่าย เธอจึงใช้ไม้กวาดปัดมีดไปอีกด้านหนึ่งในสวน จากนั้นก็ยกเท้าเตะเข้าที่ท้องของชายคนนั้นจนกระเด็น ยังไม่จบแค่นี้ เย่ฉูฉู่รู้สึกโกรธมากที่เขากล้าเอามีดมาทำร้ายคนอื่น เธอจึงวิ่งไปที่ด้านข้างสวน แล้วหยิบจอบเล่มหนึ่งมาทุบซ้ำลงที่ขาของเขา
“อ๊าก!” ชายหนุ่มแผดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
โชคดีที่ร่างกายของลูกลิงยังเกาะอยู่บนหน้าของอีกฝ่าย เสียงนั้นจึงไม่ดังเท่าไรนัก
เย่ฉูฉู่ยังไม่หายโกรธ เธอยกจอบขึ้นมาแล้วทุบเข้าใส่ร่างของคนๆ นั้นอีกครั้ง ทำให้เขาถึงกับร้องด้วยความเจ็บปวดไม่หยุด
“ภรรยา!” จ้าวเหวินเทาเพิ่งวิ่งเข้ามาในสวน ฉากนี้ทำเอาเขางงเป็นไก่ตาแตก
ลูกลิงเห็นจ้าวเหวินเทาเข้ามา มันจึงแยกเขี้ยวใส่ทำท่าจะพุ่งตัวเข้าหา เมื่อเย่ฉูฉู่เห็นว่ามันคงเข้าใจผิด จึงรีบเรียกมันไว้ “ไฉไฉ!”
“พี่หก!”
“พี่หกจ้าว!”
ทุกคนที่อยู่ด้านหลังวิ่งกระหืดกระหอบมาที่หน้าประตูบ้าน ฉากที่เห็นก็ทำเอางงเป็นไก่ตาแตกเช่นกัน
ลูกลิงประหลาดใจที่มีคนมากมายขนาดนี้ มันส่งเสียงร้อง ‘เจี๊ยก ๆ’ แสดงออกว่ามันทั้งโกรธและกลัว แต่ยังคงไม่หนีไปไหน
เย่ฉูฉู่โล่งอก รู้สึกว่าร่างกายตนอ่อนยวบ จึงพูดเสียงเบา “ไฉไฉ กลับมา ไม่มีอะไรแล้ว!”
ลูกลิงจึงรีบกลับมาอยู่ข้าง ๆ เย่ฉูฉู่ ทั้งยังแยกเขี้ยวใส่ทางฝั่งจ้าวเหวินเทาด้วย
“ภรรยา!” จ้าวเหวินเทาเดินเข้ามาหา
ลูกลิงเห็นว่านี่คือจ้าวเหวินเทา มันจึงร้อง ‘เจี๊ยก ๆ’ ด้วยความสับสน ก่อนจะหมุนตัวกระโดดเข้าไปในบ้านทางช่องหน้าต่าง
เย่ฉูฉู่กอดจอบและหอบหายใจอยู่ครู่หนึ่ง “หมอนี่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน ในมือมีมีดด้วย แถมยังทุบจนกระจกแตกเลย มีดอยู่ในสวนแล้ว คุณจัดการเถอะค่ะ ไฉไฉข่วนเขาจนมีสภาพแย่แล้ว”
พูดจบก็เดินไปที่ประตูบ้าน แต่ตอนที่มาถึงด้านหน้าก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าประตูบ้านล็อคจากด้านใน เธอจึงวางจอบลง จากนั้นก็หมุนตัวไปที่หน้าต่างแล้วปีนเข้าไป
“ภรร…” จ้าวเหวินเทาเห็นภรรยาปีนเข้าไปทางหน้าต่างบ้านอย่างสบาย ๆ ก็แอบรู้สึกพิกล
“พี่หก คนนี้คือเถียนชีนั่นที่วิ่งหนีมาใช่ไหม?” ชุยต้าถาม
เถียนชีนอนร้องโอดโอยอยู่ที่พื้น ใบหน้าชุ่มไปด้วยเลือด สภาพของเขาดูน่าสยดสยองมาก
“จับตัวได้ไหม?” เจ้าหน้าของสถานีตำรวจที่อยู่ด้านหลังก็ตามมาถึงแล้ว เมื่อเห็นสภาพของเถียนชีก็ถึงกับชะงัก “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
จ้าวเหวินเทารีบกลับมาอธิบาย “หมอนี่บุกเข้ามาในบ้านผม ลิงที่บ้านผมก็เลยข่วน”
“อะไรนะ บ้านนายยังมีลิงด้วย?” สหายจากสถานีตำรวจคนนั้นจับประเด็นสำคัญ
จ้าวเหวินเทารีบพูด “เป็นลิงจากบนภูเขาน่ะครับ มันชอบมาขโมยของกินอยู่บ่อยๆ ก็เลยคุ้นชินกัน บางครั้งก็อยู่ในหมู่บ้านไม่ยอมไปไหน ในหมู่บ้านของเรามีสัตว์เยอะ คนกับสัตว์ต่างก็เป็นมิตรต่อกัน”
หากบอกว่าเลี้ยงไว้ที่บ้าน ก็คงถูกนำตัวไปด้วย แบบนี้เขาจะไปอธิบายกับภรรยาอย่างไร?
“สหาย เขาพกมีดติดตัวด้วยนะ! ชุยต้า เร็วหน่อย ไปหามีดในสวน อย่าเหยียบสวนของฉันพังนะ!” จ้าวเหวินเทาเปลี่ยนประเด็น
เพียงไม่นานก็เจอมีด คนจากสถานีตำรวจจึงไม่ถามเรื่องลิงอีก ประกอบกับท่าทางของเถียนชีที่ดูพร้อมจะหมดลมได้ตลอดเวลาและจำเป็นต้องรักษาทันที
หลังจากพาตัวคนร้ายไปแล้ว ก็เข้ามาเรียกเย่ฉูฉู่ให้ลงบันทึกประจำวัน
เย่ฉูฉู่ได้ยินสิ่งที่จ้าวเหวินเทาพูดกับคนของสถานีตำรวจแล้ว เมื่อพูดเรื่องของลูกลิง จึงบอกแค่ว่าเคยให้อาหารลิงไปสามสี่ครั้ง บางครั้งลิงก็จะมาหาของกินที่นี่ คืนนี้ก็ได้เจอกัน
เรื่องที่ลิงมักลงมาหาของกินช่วงกลางดึกดูเหมือนจะมีน้ำหนักพอ ถึงอย่างไรลิงก็ไม่รู้เวลากลางวันกลางคืน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่ได้จดจ่ออยู่กับลิง เพียงแต่นึกทึ่งกับร่างกายบอบบางของเย่ฉูฉู่ที่สามารถซัดคนร้ายหมอบกระแตได้ ผู้หญิงชนบทไม่ใช่คนที่จะยั่วยุได้เลยจริง ๆ!
หลังจากบันทึกเสร็จแล้ว คนของสถานีตำรวจก็กลับไป ชุยต้าและคนอื่น ๆ ก็กล่าวชื่นชม “พี่สะใภ้สุดยอดจริง ๆ!”
เย่ฉูฉู่แอบรู้สึกเขินอาย
“พวกนายพอได้แล้ว นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว รีบกลับบ้านซะ ไปบอกคนในบ้านด้วย!” จ้าวเหวินเทาบอกให้พวกเขากลับไป
“ภรรยา…” จ้าวเหวินเทาแอบรู้สึกกลัว “ผมไม่ควรไปฟาร์มกระต่ายเลย ผม…”
“พอแล้ว คุณเองก็ไม่ใช่คนรู้ก่อนกาลสักหน่อย จะไปคิดมากมายขนาดนั้นได้ไงล่ะคะ” เย่ฉูฉู่ปลอบใจ “ไม่เป็นไร นี่เป็นเหตุสุดวิสัย คุณก็อย่าไปใส่ใจเลยค่ะ”
จะไม่ให้ใส่ใจได้ด้วยเหรอ คนที่ก่อคดีอาชญากรรมเข้ามาในบ้านตัวเอง แล้วในบ้านก็มีแค่ภรรยากับลูก จ้าวเหวินเทาไม่อยากจะคิดมากไปกว่านั้นเลย เขากอดภรรยาไว้ “ภรรยา หลังจากนี้ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีก ต่อให้ฟ้าถล่มผมก็ต้องปกป้องคุณกับลูก ผมจะไม่ไปไหนแล้ว!”
“คุณพูดจาเหลวไหลให้มันน้อย ๆ หน่อย เกิดเรื่องแบบนี้ครั้งเดียวยังไม่พอ ยังจะให้มีครั้งที่สองอีกเหรอ!”
“เปล่านะ ผมหมายถึงว่าถ้าเกิดเรื่องอีกผมจะไม่ไปไหนแล้ว” จ้าวเหวินเทากอดภรรยาไว้อย่างแนบแน่น “ผมกลัวมากจริง ๆ”
เย่ฉูฉู่รู้สึกได้ว่าจ้าวเหวินเทากำลังตัวสั่น ร่างกายของเธออ่อนยวบลงขณะกอดตอบกลับไป “เหวินเทา ไม่เป็นไรแล้ว ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ นะคะ ฉันโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันรู้ว่าควรทำยังไง”
จ้าวเหวินเทาไม่ได้พูดอะไร
เย่ฉูฉู่พูดเคล้ารอยยิ้ม “โชคของคุณดีออกขนาดนั้น คนเลว ๆ มาเจอกับคุณคงได้จบเห่กันหมด!”
“ดีกับผีเถอะ ถ้าดีคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอก!” จ้าวเหวินเทาพูดด้วยความขุ่นเคือง
“พอแล้ว เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าไปคิดถึงมันเลย คุณเล่าให้ฉันฟังหน่อยค่ะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เย่ฉูฉู่ผลักเขาออกไป
จ้าวเหวินเทาจึงเล่าให้เธอฟังแบบง่าย ๆ ไปหนึ่งรอบ เย่ฉูฉู่ถึงกับถอนหายใจ นี่คือความซวยที่ส่งตรงมาถึงในบ้านจริง ๆ
“จริงสิ ลูกไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” จ้าวเหวินเทารีบถาม
เย่ฉูฉู่ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม มองลูกที่นอนอยู่บนเตียง “ดูลูกชายคุณสิคะ นอนหลับสบายขนาดไหน!”
เย่ฉูฉู่กลัวว่าจะทำให้ลูกชายตื่นตกใจ ถ้าเด็กเล็กตกใจในช่วงกลางดึกจะทำให้ป่วยได้ และยากที่จะรักษา ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ผลลัพธ์ที่ได้คือเธอกังวลเก้อ ลูกชายนอนหลับปุ๋ยตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้ถูกรบกวนการนอนสักนิด ตอนนี้ไม่รู้กำลังฝันอะไรอยู่ กำลังยิ้มอยู่เลย
จ้าวเหวินเทาถอนหายใจ “หากลูกชายของเราโตขึ้น ต้องเป็นพวกไม่กังวลกับเรื่องอะไรแน่ ๆ คุณดูสิ ขนาดเกิดเรื่องใหญ่โตแบบนี้ยังหลับสบายอยู่เลย!”
เย่ฉูฉู่หัวเราะ “คนที่ไม่คิดอะไรมากก็คือคนที่ไม่กังวลกับเรื่องอะไรเลยไม่ใช่เหรอคะ”
“ภรรยา คนไม่คิดมากถือเป็นพรที่ยิ่งใหญ่นะ มีตั้งหลายคนที่อยากเป็นแต่ก็ยังเป็นไม่ได้เลย!” จ้าวเหวินเทาพูดอย่างภาคภูมิใจ
…………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สกิลต่อสู้ของฉูฉู่โหดมาก แต่ต้องขอบคุณไฉไฉด้วยค่ะ ไม่งั้นเรื่องคงพลิกกลายเป็นอีกอย่างหนึ่ง
ฟาดเคราะห์ไปเสียทีนะบ้านหก
ไหหม่า(海馬)