เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 315 ภรรยาผู้เป็นขุมสมบัติ
- Home
- เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]
- ตอนที่ 315 ภรรยาผู้เป็นขุมสมบัติ
ตอนที่ 315 ภรรยาผู้เป็นขุมสมบัติ
ตอนที่ 315 ภรรยาผู้เป็นขุมสมบัติ
จ้าวเหวินเทากล่าว “พวกนายไม่ต้องห่วง อยากกินอะไร เดี๋ยวฉันทำให้เอง!”
ทุกคนหัวเราะร่า “ค่อยยังชั่ว! ไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษหรอก ขอเป็นอาหารในชนบทที่พวกเราไม่เคยกินมาก่อนน่ะ!”
จ้าวเหวินเทาเผชิญกับความลำบากเข้าแล้ว ของในชนบทที่ไม่เคยกินมาก่อน มันคืออะไรล่ะ?
เย่ฉูฉู่พูดราวกับนึกขึ้นได้แล้ว “ฉันรู้แล้ว”
จ้าวเหวินเทาย่อมเชื่อภรรยาอยู่แล้ว เขาพาคนอื่น ๆ ไปทุบทานตะวันแล้ว ส่วนเย่ฉูฉู่ก็ทำงานอยู่ที่บ้าน
สิ่งที่เย่ฉูฉู่ทำก็คือ จาวหมี่เก๋อเก๋อโต้ว
อาหารชนิดนี้ทำมาจากข้าวฟ่างเน่า หลังจากนำข้าวฟ่างล้างน้ำและแช่น้ำไว้ช่วงเวลาหนึ่ง ได้กลิ่นเปรี้ยวเมื่อไรก็สามารถนำมาทำได้ตอนนั้น ตอนที่ทำก็ให้ช้อนข้าวออกมา จากนั้นบดด้วยลูกกลิ้งหรือจะใช้เครื่องจักรก็ได้ แต่เนื้อสัมผัสที่ได้จากเครื่องบดสู้เนื้อสัมผัสที่ได้จากการใช้ลูกกลิ้งกดไม่ได้ หลังจากบดแป้งแล้ว ให้ใส่แป้งข้าวโพดลงไปนิดหน่อย หลังจากน้ำเดือดแล้ว ให้ผ่านน้ำเย็นหนึ่งรอบ กินเคียงกับกุยช่ายและไข่พะโล้ รสชาติลื่น ๆ ชุ่มคอ อร่อยมาก!
อาหารประเภทนี้จะกินแค่ในช่วงฤดูร้อน หากอยากกินในช่วงฤดูหนาวก็จะไม่ใช้ข้าวฟ่างแล้ว จะใช้เป็นแป้งบัควีทหรือแป้งสาลีขาว ก็จะเป็นอีกรสชาติหนึ่ง
ตอนนี้แม้ว่าฤดูร้อนจะผ่านไปแล้ว แต่ช่วงบ่ายก็ยังร้อนมากอยู่ดี เย่ฉูฉู่หมักข้าวไว้ส่วนหนึ่งแล้วและคิดไว้ว่าจะทำกินเอง คิดไม่ถึงเลยว่าคนในเมืองเหล่านี้จะมาที่นี่ ในเมื่ออยากกินของที่พิเศษสักหน่อย เธอจึงตัดสินใจทำเมนูนี้
แน่นอนว่าไม่สามารถให้กินแค่นี้ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำกับข้าวเพิ่มอีกสักสามสี่อย่าง ดังนั้นเย่ฉูฉู่จึงแสดงทักษะการทำอาหารที่แท้จริงของเธอออกมา!
หลังหั่นของให้เป็นเส้น ๆ จนละเอียดเหมือนกับเส้นผม หั่นเป็นชิ้น ๆ จนคล้ายจะโปร่งแสง มีความสมบูรณ์แบบเหมือนกับเรขาคณิต มันก็ดูงดงามในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่นและสี ตอนที่คนเหล่านี้มานั่งหน้าโต๊ะ และเห็นอาหารที่อยู่บนโต๊ะ พวกเขาต่างก็พากันตกตะลึงในทันที ในสมองเกิดคำศัพท์หนึ่งผุดขึ้นมา : อาหารอันมีกลิ่นหอมและน่าตื่นตา!
สวยงามเกินไปแล้ว นี่คือปลาหนึ่งตัวเหรอ? เป็นปลาที่โดดเด่นถึงเพียงนี้เชียวเหรอ? นี่คือดอกบัวช่อหนึ่งนี่นา สวยขนาดนี้เลย? นี่คือของกินเหรอ?
ทุกคนหยิบตะเกียบขึ้นมาดูนั่นแล้วก็ดูนี่ เกิดความเสียดายจนลังเลไม่ยอมลงมือกิน สวยขนาดนี้ ทำใจกินไม่ลงจริง ๆ
จ้าวเหวินเทาก็แอบตกตะลึงเช่นกัน ถึงอย่างไรโดยปกติแล้วอาหารที่ภรรยาทำแค่มีรสชาติอร่อย แต่ก็ไม่ได้มีลูกเล่นมากมายขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินฝีมือภรรยาตัวเองต่ำเกินไปแล้วสิ!
“พวกนายกินเถอะ ที่ชนบทไม่ได้มีของดี ๆ อะไรหรอก แต่มีดีที่สดใหม่ เป็นผักที่ปลูกในสวนของตัวเอง เก็บสด ๆ แล้วก็ทำเลย รสชาติน่าจะไม่เลว หวังว่าพวกนายจะชอบกันนะ” เย่ฉูฉู่กล่าวเคล้ารอยยิ้มจาง ๆ
“พี่สะใภ้ นี่พี่ทำเองทั้งหมดเลยเหรอ?” เด็กหนุ่มคนหนึ่งรีบเรียกด้วยความสนิทสนม “ก่อนหน้านี้พี่เคยเรียนทำอาหารสินะ?”
เย่ฉูฉู่กล่าวเคล้ารอยยิ้ม “นี่เป็นสิ่งที่ฉันเรียนมาจากแม่ ตอนนี้อยู่บ้านเลี้ยงลูกแล้ว ตอนที่ว่าง ๆ ก็คิดอยากกินเหมือนกัน แต่ฉันไม่อยากทำอาหาร เพราะยุ่งยากเกินไป ปกติเหวินเทาจะเป็นคนทำน่ะ”
จ้าวเหวินเทาฟังออกถึงความหมายในคำพูดของภรรยา ‘อย่าคิดว่าอร่อยแล้วจะมาหาฉันให้ทำให้กินทุกวัน ฉันไม่ยอมทำให้กินหรอก’
“ภรรยาของฉันไม่ลงมือง่าย ๆ หรอกนะ วันนี้เป็นเพราะพวกนายมา และขอบคุณที่พวกนายช่วยเหลือ หลังจากนี้ถ้าพวกนายมา เดี๋ยวฉันจะทำให้พวกนายกินเอง ฝีมือการทำอาหารของฉันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าภรรยาฉันหรอกนะ! มา ๆ พวกนายดื่มกันหน่อย อยากดื่มอะไรดี เบียร์หรือเหล้าขาว?” จ้าวเหวินเทารับช่วงต่อ
เย่ฉูฉู่พอใจกับปฏิกิริยาโต้ตอบของสามีมาก หลังจากบอกให้พวกเขากินกันตามสบาย เธอก็เข็นเสี่ยวไป๋หยางออกไปเดินเล่น ปล่อยให้พวกผู้ชายเหล่านั้นสังสรรค์กันเอง ส่วนเรื่องเสิร์ฟน้ำชา ถึงอย่างไรก็มีจ้าวเหวินเทาอยู่ทั้งคน เธอจัดการส่วนแรกไปแล้ว ที่เหลือไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว
เด็กหนุ่มคนหนึ่งคีบกลีบบัวเข้าปากหนึ่งกลีบ ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา “สวรรค์ นี่มันอะไรกัน มะเขือยาวเหรอ? อร่อยสุด ๆ เลย!”
“ฉันลองชิมบ้าง ๆ!” อีกคนหนึ่งยื่นตะเกียบไปคีบอาหาร จากนั้นก็พยักหน้ารัว ๆ “อร่อย ๆ อร่อยจริง ๆ!”
“ฉันขอชิมอันนี้บ้าง! โห อันนี้ก็อร่อย!”
“นี่คืออะไรเนี่ย? เต้าหู้เหรอ? ไม่คล้ายเลย นิ่มขนาดนี้เลย?”
“ดูเหมือนจะเป็นแตงกวานะ?”
“เชี่ย แตงกวาชัดๆ แต่นายกินเป็นรสชาติของเต้าหู้ได้ นายนี่เก่งจริง ๆ!”
“ไม่ใช่ นายกินดูสิ กินดู!”
“มีรสชาติของเต้าหู้จริง ๆ ด้วย”
ระหว่างที่กิน ทุกคนก็แย่งกันพูดจนฟังไม่ได้ศัพท์ ต่างก็ไม่มีใครสนใจที่จะดื่มเหล้าแล้ว
จ้าวเหวินเทาก็รีบชิมอาหารเช่นกัน รสชาตินี้ไม่เหมือนกับที่กินในทุก ๆ วันเลย เทียบกับก่อนหน้านี้ อืม รสชาติจืดลงนิดหน่อย นอกจากนี้ อะไรล่ะ ไม่รู้แล้ว ถึงอย่างไรก็อร่อยนั่นแหละ!
จ้าวเหวินเทานึกถึงคำพูดของพ่อและแม่ขึ้นมาอีกครั้ง ‘เจ้าเด็กคนนี้ เป็นคนโชคดี โชคที่ดีที่สุดของลูกก็คือได้แต่งงานกับภรรยาดี ๆ!’
เขาแต่งงานกับภรรยาดี ๆ ที่ไหนกันล่ะ เห็น ๆ อยู่ว่าได้แต่งงานกับภรรยาที่เป็นขุมสมบัติ!
ทุกคนไม่ได้ดื่มเหล้าเลย เอาแต่กินอาหารและข้าว กินจาวหมี่เก๋อเก๋อโต้ว อาหารที่ให้รสชาติเปรี้ยว ๆ ที่มีความพิเศษประเภทนี้ เมื่อได้กินแล้วรู้สึกสบายไปทั้งตัวเลย
ฐานะทางบ้านของพวกเขาก็ไม่เลว แต่ก็ไม่เคยกินของดี ๆ แบบนี้มาก่อน มันไม่สามารถบรรยายออกมาได้ แต่อร่อยมาก อร่อยจนเกิดความพึงพอใจ!
หลังจากกินและดื่มจนอิ่มหนำ ทุกคนก็มีกำลังใจเปี่ยมล้น คนจำนวนมากเหล่านี้พากันทุบทานตะวันตลอดทั้งวัน ช่วงค่ำก็รู้สึกเกรงใจที่จะอยู่กินข้าวกันที่นี่ พวกเขาต่างก็ไม่ใช่คนโง่ พอจะมองออกว่านายหญิงของบ้านหมดพลังไปกับอาหารมื้อเที่ยงอย่างมาก ช่วงค่ำยิ่งไม่ต้องคิดเลย
แต่เย่ฉูฉู่กลับเตรียมอาหารค่ำไว้ให้พวกเขาแล้ว แม้จะไม่ได้มีอาหารเต็มโต๊ะ แต่ข้าวต้มและเครื่องเคียงก็มีความประณีตอย่างมาก พวกเขากินเสร็จก็พูดกับจ้าวเหวินเทาตอนที่จะไปฟาร์มกระต่ายว่า มีงานอะไรให้ทำก็บอกพวกเขาได้อย่างเต็มที่ พวกเขารับประกันคุณภาพและปริมาณว่าจะทำให้เสร็จสิ้นแน่นอน!
จ้าวเหวินเทาถึงกับหมดคำพูด คนเหล่านี้ติดใจซะแล้วสิ!
หลังจากส่งพวกเขาและกลับมาจากฟาร์มกระต่าย จ้าวเหวินเทาก็เข้ามาโอบกอดภรรยา
“ภรรยา คุณไปเรียนรู้ความสามารถมากมายขนาดนี้มาจากไหนเนี่ย!” จ้าวเหวินเทาพูดด้วยอารมณ์ความรู้สึก
เย่ฉูฉู่พูดแบบสบาย ๆ “ฉันก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ ว่าฉันเรียนรู้มาจากแม่”
จ้าวเหวินเทาไม่เชื่อ เขาเคยมีประสบการณ์จากฝีมือการทำอาหารของแม่ยายมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ดีขนาดนี้!
เย่ฉูฉู่ไม่สนใจว่าเขาจะเชื่อหรือไม่ ถามไปตรง ๆ ว่า “อาหารที่ฉันทำอร่อยไหมคะ?”
“อร่อยสิ! อาหารที่ภรรยาของผมทำอร่อยมากเลย!” จ้าวเหวินเทารีบพยักหน้า
“งั้นหลังจากนี้คุณยังอยากกินอีกไหม?” เย่ฉูฉู่ถามด้วยรอยยิ้มตาหยี
“อยากสิ ภรรยา หลังจากนี้ทำให้ผมกินนะ ใครมาก็ไม่ต้องทำให้กินแล้ว!” จ้าวเหวินเทาพูดอย่างมีความสุข
“ฝันหวานเชียวนะ ฉันไม่ทำหรอก!” เย่ฉูฉู่พูดอย่างง่าย ๆ “รู้หรือเปล่าว่าฉันทำอาหารโต๊ะหนึ่งต้องใช้เวลาขนาดไหน? ใช้เวลาถึงสามชั่วโมงเต็มเลยนะ!”
จ้าวเหวินเทารีบพูด “ภรรยา ไม่ต้องทำเยอะขนาดนั้นก็ได้ ทำแค่อย่างเดียวก็พอแล้ว”
“งั้นก็ไม่ทำค่ะ!” เย่ฉูฉู่แย้มยิ้ม “ปล่อยให้คุณหิวตายไปเลย!”
“ภรรยา ผมหิว ผมอยากกินคุณจัง!” จ้าวเหวินเทาถูไถ
ลมหายใจของเย่ฉูฉู่แอบยุ่งเหยิงเล็กน้อย รีบผลักเขาออกไปทันที “กลางวันแสก ๆ คุณก่อกวนอะไรเนี่ย!”
“ผมแค่ใกล้ชิดกับภรรยาตัวเอง แบบนี้เรียกว่าก่อกวนอะไรกันล่ะ!” จ้าวเหวินเทาถูไถต่อ
“ลูกมองอยู่นะ!” เย่ฉูฉู่เห็นเสี่ยวไป๋หยางที่กำลังจ้องมองมาทางนี้ด้วยดวงตากลมโต ก็เกิดความเขินอายและผลักสามีออกไปทันที
จ้าวเหวินเทารู้สึกหดหู่ใจ นี่เรียกว่าลูกชายเหรอ เห็น ๆ กันอยู่ว่าเป็นก้างขวางคอต่างหากล่ะ!
“ลูกชายจ๋า ลูกอยากนอนไหมเอ่ย? ดูสิเล่นมาตั้งแต่เช้าแล้ว ควรนอนได้แล้วนะ” จ้าวเหวินเทาเจรจากับลูกชาย
เย่ฉูฉู่มองท่าทางเช่นนั้นของสามี ก็รู้สึกขบขันอย่างห้ามไม่อยู่
…………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
แค่นึกภาพตามก็น้ำลายสอแล้วค่ะ มันต้องสดอร่อยมากแน่ๆ
อะไรเหวินเทา คิดจะทำน้องให้ไป๋หยางเหรอคะ
ไหหม่า(海馬)