เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 355 ยอมแล้ว
ตอนที่ 355 ยอมแล้ว
ตอนที่ 355 ยอมแล้ว
พี่สี่จ้าวได้เห็นเช่นนี้ก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ “พวกมึงไสหัวออกไปให้หมดเลย! อย่ามายืนอยู่หน้าบ้านกูให้กูต้องอับอายชาวบ้าน!”
“ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จานะ…ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จา!” เพื่อนบ้านโน้มน้าว
ตอนนี้พี่รองจ้าว พี่สะใภ้รองจ้าว พี่สามจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวถูกเรียกตัวมาที่นี่แล้ว พวกเขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน จึงอยู่ใกล้กัน ตอนที่มาเห็นก็ถึงกับตกตะลึง
พี่รองจ้าว “เจ้าสี่ทำอะไรเนี่ย กินเหล้ามาใช่ไหม ถึงได้ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร!”
พี่สี่จ้าวตอบ “พี่รองไม่ต้องมายุ่ง วันนี้ผมจะคุยให้รู้เรื่อง เจ้าสี่จ้าวคนนี้เป็นคนซื่อตรง แต่ไม่ได้เป็นไอ้โง่ วัน ๆ เอาแต่มาขอนู้นขอนี่ ผมกือบจะตายอยู่ข้างนอกแล้ว ยังจะมาเอาของของผมอีก แม่งยังเป็นคนอยู่รึเปล่าวะ!”
“เจ้าสี่หุบปาก!” พี่รองจ้าวได้ยินพี่สี่จ้าวสบถว่าแม่งขึ้นมา มีหรือจะปล่อยไปได้ “ถึงยังไงเขาก็เป็นคนเฒ่าคนแก่นะ”
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวได้ยินเช่นนี้ ราวกับมีคนคอยหนุนหลัง จึงเริ่มส่งเสียงร้องขึ้นมาอีกครั้ง “รีบมาดูเร็ว ลูกเขยทุบตีแม่ยายแล้ว!”
พี่สะใภ้รองจ้าวเห็นเช่นนี้ก็โน้มน้าวว่า “ป้าอย่าพูดแบบนี้สิ นี่ไม่ใช่คำพูดน่าฟังอะไรเลยนะ ไปเถอะ เข้าไปคุยกันในบ้าน!”
“ฉันไม่เข้าไปหรอก มันคงได้ฆ่าฉันตายแน่! เมื่อกี้มันถือมีดด้วยนะ!” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวเริ่มแหกปากร้องไห้
พี่สี่จ้าวก่นด่าด้วยความโกรธ “เออ กูนี่แหละที่จะฆ่ามึง เดี๋ยวกูไปนั่งในคุกเอง แค่นี้ก็ไม่มีอะไรต้องแปดเปื้อนแล้ว!”
“เจ้าสี่อย่าพูดจาเหลวไหล!” พี่สามจ้าวใช้มือตีเขา เรื่องแบบนี้มาพูดซี้ซั้วได้เหรอ?
พี่สะใภ้สามจ้าวก็รีบร้อนเช่นกัน “น้องสี่พูดให้มันน้อย ๆ หน่อย”
ในเวลานี้มีคนตะโกนขึ้นมาว่า “จ้าวเหวินเทามาแล้ว!”
“เหวินเทามาแล้ว มา ๆ มาดูพี่สี่ของนาย ไม่รู้เป็นอะไรไปแล้ว!”
จ้าวเหวินเทามาถึงที่นี่เร็วขนาดนี้ เป็นเพราะซานหยาเห็นพ่อของเธออาละวาดด้วยความโกรธ จึงตกใจและรีบวิ่งไปหาจ้าวเหวินเทาในทันที
ตั้งแต่จ้าวเหวินเทาช่วยพูดโน้มน้าวใจแม่ของเธอเพื่อให้เธอได้เรียนหนังสือ สาวน้อยคนนี้ก็ชื่นชมอาเล็กคนนี้อย่างมาก ไม่ว่ามีเรื่องอะไรก็จะนึกถึงอาเล็กทันที
“อาเล็ก!” ซานหยาตกใจจนเนื้อตัวสั่นเทา
จ้าวเหวินเทากอดซานหยาพร้อมพูดปลอบใจ “ไม่เป็นไรนะซานหยา ไปหาป้าสามก่อน”
พี่สะใภ้สามจ้าวได้ยินก็รีบเดินมารับซานหยาทันที
“พี่สะใภ้สาม พี่พาซานหยาเข้าบ้านไปก่อน ฝากดูเด็ก ๆ ด้วยนะ” จ้าวเหวินเทากล่าว
พี่สะใภ้สามจ้าวตอบ “ได้…เอ่อ…คุยกันดี ๆ นะ!” พูดจบเธอก็อุ้มซานหยากลับเข้าไปในบ้าน
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!” จ้าวเหวินเทาเดินมายืนตรงหน้าพี่สี่จ้าว “พี่สี่ เกิดอะไรขึ้น? ออกจากบ้านไปยี่สิบกว่าวัน แต่ละวันได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง แถมยังเกือบตายเพราะต้องออกไปหาเงิน เพิ่งกลับมาถึง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?”
แม้ว่าคำพูดนี้กำลังพูดกับพี่สี่จ้าว ทว่าทุกคนกลับฟังออกว่าจ้าวเหวินเทากำลังช่วยพูดแทนพี่สี่จ้าว
“ลูกเขยทุบตีแม่ยายแล้ว!” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวโอดครวญขึ้นมา
“จริงเหรอ? ป้าบอกว่าพี่สี่ของผมทุบตีป้า นี่เป็นคดีอาญาเลยนะ ต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อแก้ปัญหาแล้ว นี่เป็นเรื่องใหญ่ พี่สะใภ้สี่ แจ้งตำรวจเถอะ!” จ้าวเหวินเทาพูดอย่างตรงไปตรงมา “พี่สาม พี่ไปขับรถของฉันมาหน่อย พาป้าไปที่สถานีตำรวจ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ผมจัดการไม่ไหวหรอก”
“หา?”
ทุกคนถึงกับตกตะลึง นี่มันอะไรกัน ไปสถานีตำรวจ เรื่องใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?
ในชนบท หากเกิดเรื่องทุกคนก็จะพยายามแก้ปัญหากันเอง ไม่มีใครอยากรบกวนรัฐบาล โดยเฉพาะหน่วยงานราชการอย่างสถานีตำรวจเช่นนี้ ชาวบ้านตัวเล็กต่างก็กลัวที่จะรับมือกับคนเหล่านี้ตามสัญชาตญาณ
พี่สะใภ้สี่จ้าวเงยหน้าขึ้น เป็นเพราะถูกแม่ของตนเองข่วนจึงมีบาดแผลหลายเส้นบนใบหน้า “น้องหก แจ้งตำรวจไม่ได้นะ!”
“พี่สะใภ้สี่ หน้าพี่ไปโดนอะไรมาเนี่ย ใครเป็นคนทำ?” จ้าวเหวินเทาถามด้วยความประหลาดใจ
“ถูกป้าคนนี้ข่วน” ผู้หญิงคนหนึ่งตอบ
จ้าวเหวินเทาไม่รอให้อีกฝ่ายพูดอะไร ก็พูดในทันทีว่า “พี่สะใภ้สี่ พี่ถูกข่วนจนอยู่ในสภาพแบบนี้แล้ว ต้องแจ้งความ! ถ้าถูกข่วนจนเสียโฉมขึ้นมาจะทำยังไง พี่สาม รีบไปขับรถมา!”
พี่สามจ้าวไม่รู้ว่าจ้าวเหวินเทากำลังคิดอะไรอยู่ จึงพูดติดอ่างว่า “ท้องฟ้ามืดขนาดนี้แล้ว คนในสถานีคงเลิกงานกันหมดแล้วมั้ง?”
“ไม่เป็นไร ผมมีคนรู้จักอยู่ในสถานีตำรวจ มีคนที่อยู่ที่นั่นยี่สิบสี่ชั่วโมง ต่อให้ไม่สามารถสอบปากคำได้ทันที แต่ก็สามารถขังตัวไว้หนึ่งคืนแล้วค่อยสอบปากคำในวันรุ่งขึ้นได้”
“ขังหนึ่งวัน ขังที่ไหน?” พี่สามจ้าวถามโดยไม่รู้ตัว
“ก็ขังในห้องมืด ๆ แคบ ๆ นั่นแหละ! แถมยังถูกจับมัดไว้ด้วยนะ ปล่อยให้แสดงอำนาจไปก่อน จากนั้นค่อยถาม แบบนี้ถึงจะยอมพูดออกมา” จ้าวเหวินเทาพูดเป็นตุเป็นตะ
พี่สะใภ้รองจ้าวชะงัก “จะส่งตัวไปที่สถานีตำรวจจริง ๆ เหรอ?”
“จริงสิ เรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ลูกเขยทุบตีแม่ยาย พี่สะใภ้สี่ก็โดนข่วนจนอยู่ในสภาพนี้ นี่ถ้าเป็นบาดทะยักได้ตายแน่! จริงสิ พี่สะใภ้รอง พี่รีบพาพี่สะใภ้สี่เข้าไปทาทิงเจอร์เถอะ ถ้าเป็นบาดทะยักขึ้นมาตายได้เลยนะ ถึงเวลานั้นพวกเด็ก ๆ จะทำยังไง? ถ้าพี่สี่จะแต่งงานใหม่ แต่มีลูกติดตั้งสามคนคงหาเมียลำบากแย่เลย!”
ทุกคนมองจ้าวเหวินเทาด้วยความตกตะลึง นี่…นี่มันอะไรกัน ทำไมถึงพูดเรื่องหาภรรยาใหม่?
พี่สะใภ้รองจ้าวเห็นจ้าวเหวินเทาพูดด้วยใบหน้าเย็นชาจนทำให้คนตกใจ จึงรีบดึงพี่สะใภ้สี่จ้าวเข้าไปทำแผลในบ้าน
จ้าวเหวินเทาพูดกับแม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวว่า “ป้า ฉันถามป้าอีกรอบ พี่สี่ของผมทุบตีป้าจริงเหรอ?”
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวอ้าปากค้างแต่ไม่ได้พูดอะไร นางจำได้ว่าเมื่อครู่จ้าวเหวินเทาบอกว่ารู้จักคนในสถานีตำรวจ หากถูกส่งไปสถานีตำรวจนางจะทำอย่างไร?
“ถ้าทุบตีป้าจริง ๆ ผมต้องส่งป้ากับพี่สี่ไปที่สถานีตำรวจ แต่ป้าไม่ต้องห่วง ที่นั่นมีคนที่ผมรู้จัก พูดจาดี ๆ หน่อย ป้าบอกให้ลูกชายเอาเงินไปด้วยนะ อย่าปล่อยให้ป้าต้องถูกมัดเชียว แค่ถูกขังก็พอแล้ว…เออนี่พี่สาม…ถึงเวลานั้นพี่อย่าลืมขับรถไปรับตัวลูกชายของป้า…ชื่อจินเป่าใช่ไหม? ไปพาตัวเข้ามาด้วย อย่าลืมบอกให้เขาพกเงินไปด้วยนะ…”
“เปล่า!” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวรีบพูด “เมื่อกี้ฉันพูดโกหก! พี่สามของเธอดื่มเหล้าไปนิดหน่อย ก็เลยเมา ไม่ได้ทุบตีอะไรฉัน ไม่ต้องไปถึงสถานีตำรวจหรอก เรื่องแค่นี้พวกเราจัดการกันเองได้ จะเอาเงินไปจ่ายทำไม!”
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวไม่รอให้จ้าวเหวินเทาพูดจบก็รีบพูดขึ้นมา
จ้าวเหวินเทาบังคับให้ไปสถานีตำรวจอีกครั้ง ทำให้นางตกใจจริง ๆ
“งั้นเหรอ ไม่ต้องไปสถานีตำรวจจริง ๆ เหรอ?”
“ไม่ต้องแล้ว ไม่ต้องแล้วจริง ๆ!” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวจัดเส้นผมก่อนจะลุกขึ้นยืน “เธอดูสิ ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ฉันกลับดีกว่า”
“ป้ากลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้ไม่ดีหรอก ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ผมคงรับผิดชอบไม่ไหว อยู่ค้างสักคืนสิ พรุ่งนี้ค่อยกลับก็ได้”
“ฉันไม่ค้างแล้ว!” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวมองพี่สี่จ้าวด้วยสายตาเย็นชา “ฉันกลับดีกว่า”
จ้าวเหวินเทากล่าว “ป้า เอาแบบนี้แล้วกัน ป้ากับพี่สี่มีปัญหากัน เดี๋ยวผมให้พี่สี่ไปนอนบ้านผม ส่วนป้าก็อยู่ค้างที่นี่สักคืนแล้วกัน พรุ่งนี้ป้าค่อยกลับ”
“เอางั้นก็ได้” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวตอบ
จ้าวเหวินเทากล่าวอีกว่า “ในเมื่อทุกคนรู้กันหมดแล้ว งั้นผมจะพูดอีกสักหน่อยแล้วกัน ครั้งนี้พี่สี่ของผมออกไปข้างนอกได้เงินกลับมาก็จริง แต่ก็เกือบต้องแลกด้วยชีวิต ใครที่มายังมายุ่งกับเงินส่วนนี้ คงต้องถูกส่งตัวไปสถานีตำรวจ! ไม่ว่าจะเป็นญาติหรือเพื่อน การช่วยเหลือเป็นเรื่องระหว่างกันและกัน เป็นหนี้บุญคุณก็ตอบแทนกัน ไม่ควรต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียเปรียบอยู่ตลอด ต่อให้เป็นลูกชายก็ไม่ได้ ป้า…เหตุผลนี้ถูกต้องไหม?”
“ถูกต้อง…ถูกต้อง!” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวพยักหน้ารัว ๆ
……………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สกิลปากเหวินเทาสุดยอด ฟังเหมือนจะช่วยนังแก่นี่แต่จริงๆ คือมาช่วยเหยียบซ้ำ
ไหหม่า(海馬)