เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 356 นี่คือแม่แท้ ๆ เหรอ
- Home
- เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]
- ตอนที่ 356 นี่คือแม่แท้ ๆ เหรอ
ตอนที่ 356 นี่คือแม่แท้ ๆ เหรอ
ตอนที่ 356 นี่คือแม่แท้ ๆ เหรอ
จ้าวเหวินเทาพูดต่อไปว่า “พี่สี่ของผมเป็นคนซื่อตรง แต่พี่สี่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เขายังมีพี่ชายและยังมีน้องชายอย่างผมอีกคน ผมเองก็ไม่ใช่คนซื่ออะไร ใครมารังแกคนในตระกูลจ้าวของผม ก็อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจก็แล้วกัน! ป้าคิดว่าไง?”
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวเนื้อตัวสั่นเทา รีบพูด “ไม่มี ๆ!”
“ถ้ามันไม่มากเกินพอดี ญาติที่นิสัยดี ๆ ตระกูลจ้าวก็พร้อมต้อนรับเสมอ แต่ถ้ามีความคิดอยากเอาเปรียบ อย่าได้คิดว่าตระกูลจ้าวของพวกเราเป็นคนโง่ ไม่งั้นผมทุบจนขาหักแน่!”
ระหว่างที่พูดจ้าวเหวินเทาก็เดินไปหยิบพลั่วขึ้นมา และปักลงบนพื้นแรง ๆ เศษดินจึงฟุ้งกระจายใส่ขาของแม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าว ทำให้อีกฝ่ายถึงกับส่งเสียงร้องด้วยความตกใจและวิ่งหนีไปข้าง ๆ
“กระดูกของป้านี่ดีจริง ๆ ไม่มีปัญหาอะไรสักนิดเลย!” จ้าวเหวินเทาพูดพลางเดินถือพลั่วเข้าไปในบ้าน
พี่สี่จ้าวจึงเดินตามเข้าไปในบ้านด้วย
หลังจากเข้ามาในบ้านจ้าวเหวินเทาจึงถามว่า “หน้าของพี่สะใภ้สี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร” พี่สะใภ้รองจ้าวกำลังปลอบใจพี่สะใภ้สี่จ้าว
เส้นผมของพี่สะใภ้สี่จ้าวถูกหวีจนกลับมาเรียบร้อย หล่อนกำลังก้มหน้าร้องไห้
จ้าวเหวินเทาพูด “พี่สะใภ้สี่ เดิมทีผมก็ไม่ได้อยากจะพูดเรื่องนี้หรอกนะ แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพี่สี่ของผม ครั้งนี้ตอนที่พวกเราออกไปข้างนอกดันเจอคนมาดักปล้น เงินที่พวกเราหามาได้ไม่ใช่ง่าย ๆ เลย พี่สะใภ้สี่ ถ้าพี่คิดจะใช้ชีวิตของพี่สี่แลกเป็นเงินเพื่อเอาไปให้น้องชาย ผมคงพูดได้แค่ว่า พี่กลับไปอยู่กับน้องชายพี่เถอะ ส่วนลูกก็ทิ้งไว้ที่นี่ทั้งหมดนั่นแหละ ถึงยังไงพี่ก็ไม่ได้ชอบลูกสาวอยู่แล้ว ถ้าพี่ยังอยากใช้ชีวิตอยู่กับพี่สี่ ก็อย่าทำเหมือนพี่สี่เป็นคนโง่! คืนนี้พี่สี่จะไปนอนค้างที่บ้านผม พี่คิดดูให้ดี ๆ ก็แล้วกัน”
จ้าวเหวินเทาพูดจบก็หมุนตัวเดินออกไป
“อาเล็ก!” ซานหยาเดินตามไป “หนูอยากไปด้วย”
“หนูด้วยค่ะ!” ซื่อหยากล่าว
จ้าวเหวินเทากำลังจะตอบตกลง แต่เมื่อนึกได้ว่าภรรยาของเขาเป็นพวกรักความสะอาดขนาดนั้น และเห็นสภาพของหลานสาวสองคนนี้ จึงเกิดอาการลังเล
พี่สะใภ้รองจ้าวจึงพูดว่า “ซานหยาซื่อหยา คืนนี้พวกเธอไปนอนที่บ้านป้า ไปนอนกับพี่ต้าหยานะ”
ซานหยาและซื่อหยาได้ยินก็รีบตอบตกลงทันที ถึงอย่างไรแม้ว่าบ้านของอาเล็กจะดี แต่พวกเธออยากเล่นกับต้าหยามากกว่า
“ตกลง งั้นซานหยาซื่อหยาไปเล่นกับต้าหยาที่บ้านป้ารองนะ” จ้าวเหวินเทาพูดจบก็ดึงพี่สี่จ้าวเดินออกไป
พี่สะใภ้สี่เอาแต่ร้องคร่ำครวญไม่พูดไม่จา พี่สะใภ้รองจ้าวพาเด็กสองคนกลับไปแล้ว พี่สะใภ้สามจ้าวที่อุ้มอู่หยาอยู่ก็เตรียมตัวกลับเช่นกัน แต่ตอนที่เธอวางอู่หยาลงเด็กน้อยก็ร้องไห้งอแงแล้ว ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้คงตกใจมาก
จ้าวเหวินเทาและพี่สี่จ้าวกลับไปแล้ว แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวจึงเดินเข้ามาในบ้าน นางก็ทำตัวกร่างขึ้นมาอีกครั้ง รีบปรี่ตัวเข้ามาทุบตีพี่สะใภ้สี่จ้าวยกใหญ่ ปากก็ก่นด่าด้วยคำพูดไม่น่าฟัง เพื่อนบ้านสองสามคนพยายามจะห้ามแต่ก็ห้ามไม่อยู่
พี่รองจ้าวและพี่สามจ้าวก็รั้งไว้ไม่อยู่เช่นกัน พี่สะใภ้สามจ้าวเห็นฉากนี้ก็ถึงกับโกรธจนตะโกนเสียงดังว่า “ถ้ายังทุบตีคนอื่นอีกจะส่งตัวไปที่สถานีตำรวจแล้วนะ!”
“ฉันตีลูกสาวตัวเองแล้วพวกเธอมายุ่งอะไรด้วย!” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวทำตัวหยิ่งผยอง
นางแค่กลัวจ้าวเหวินเทา ส่วนคนอื่น ๆ นางไม่ได้เห็นอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ เพราะนางรู้ดีว่าคนของตระกูลจ้าวต่างก็เป็นคนซื่อตรง มีแค่จ้าวเหวินเทาที่ไม่ได้มีความตงฉินอะไรเลย ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น
ทว่าก็ต้องทำตัวดุสักหน่อยถึงจะดี มิเช่นนั้นคนอื่นคงเห็นว่านางไม่สู้คน
พี่สะใภ้สามจ้าวกล่าว “ถ้าจะตีก็กลับไปตีกันที่บ้านตัวเอง!”
“น้องสะใภ้สี่ ถ้าเธอถูกแม่ทุบตีจนบาดเจ็บ เธอก็กลับไปรักษาตัวที่บ้านแม่เธอแล้วกันนะ!” พี่สามจ้าวพูดด้วยความโกรธ
“แกมันตัวขาดทุน ตายไปก็สมควรแล้ว!” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวก่นด่า “นังลูกเนรคุณ ชาตินี้ไม่มีลูกชาย ชาติหน้าแกก็ไม่มีลูกชายหรอก!”
คำพูดนี้ทำให้พี่สะใภ้สี่จ้าวถึงกับโกรธ หล่อนยื่นมือผลักแม่ออกไป “ถ้าฉันไม่มีลูกชายฉันก็จะตายตอนนี้เลย!”
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวถึงกับชะงัก มองดูลูกสาวที่ดวงตาแดงก่ำราวกับจะกินคน ตอนที่กำลังจะพูด พี่สะใภ้สี่จ้าวก็ยกนิ้วชี้ไปที่ประตูใหญ่ด้านนอก “ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าแม่อีกแล้ว! หลังจากนี้ไม่ต้องมาที่นี่อีก! ถ้าแม่ไม่ไป ฉันจะตายตอนนี้เลย!” พี่สะใภ้สี่จ้าวพูดพลางวิ่งออกไปหยิบน้ำหมักขึ้นมาหนึ่งขวดทำท่าจะดื่ม
พี่สามจ้าวทำเต้าหู้ทุกวัน ย่อมทราบดีว่านั่นคือน้ำหมัก จึงรีบเข้าไปแย่งด้วยความตกใจ “น้องสะใภ้สี่จะทำอะไร ถ้าเธอตายไปแล้วลูก ๆ จะอยู่กันยังไง!”
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวยังมีความอดทน กระทืบเท้าพูดว่า “แกกินสิ กินเข้าไปตอนนี้เลย!”
พี่สะใภ้สามจ้าวทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว “นี่ป้าเป็นแม่แท้ ๆ จริงเหรอ? นั่นลูกสาวป้านะ!”
“คู่เวรคู่กรรมสิไม่ว่า! ตอนนั้นฉันน่าจะบีบคอมันให้ตาย ๆ ไปซะ!” ความอับอายทั้งหมดที่แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวได้รับเมื่อครู่ถูกระบายมาที่พี่สะใภ้สี่จ้าวทั้งหมด
พี่รองจ้าวโกรธแม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวจนทนไม่ไหวแล้ว
ผู้หญิงสองสามคนรีบลากพี่สะใภ้สี่จ้าวไปที่ห้องตะวันตก แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวยังคงด่าไม่หยุด พี่สามจ้าวทนไม่ไหวอีกต่อไป “พอแล้ว เลิกด่าสักที ผมจะเอารถแล้วขับไปส่ง!”
คิดไม่ถึงเลยว่าแม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวจะรีบพูดขึ้นว่า “ฉันกลับไปแบบนี้ไม่ได้ ฉันมาอยู่เป็นเพื่อนมันตั้งหลายวันขนาดนี้ จะให้ทำให้ฟรี ๆ ได้ยังไง! เขาไปขนข้าวสารมาไม่ใช่เหรอ ฉันต้องเอากลับไปสักหน่อย แล้วก็กระต่ายด้วย! ตอนนี้มันได้ใช้ชีวิตสุขสบายแล้ว ไม่คิดจะสนใจน้องชายตัวเองเลยหรือไง!”
พี่สามจ้าวได้ยินถึงกับหมดคำพูด นี่คือแม่แท้ ๆ จริงเหรอ? บนโลกใบนี้ยังมีแม่แบบนี้อยู่ด้วย เขาเองก็ขี้เกียจจะสนใจแล้ว จึงหันไปโบกมือเรียกพี่สะใภ้สามจ้าว “ไป ๆ พวกเรากลับเถอะ!”
“แต่ว่า…” พี่สะใภ้สี่จ้าวยังเป็นห่วงพี่สะใภ้สี่จ้าว
“ผมไปนะ คุณอยากอยู่ที่นี่ก็ตามสบาย!” พี่สามจ้าวไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบก็หมุนตัวเดินออกไป
พี่สะใภ้สามจ้าวอุ้มอู่หยาไว้ในมือ จะไปก็ไม่ได้จะอยู่ก็ไม่ได้เช่นกัน ท้ายที่สุดจึงหันไปพูดกับพี่สะใภ้สี่จ้าวว่า “ฉันจะอุ้มอู่หยาไปอยู่ที่บ้านสักคืนแล้วกันนะ พวกเธอสองคนแม่ลูกก็คุยกันให้ดี ๆ สะใภ้สี่ เธออย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ลูก ๆ ทั้งสามคนจะทำยังไง? ป้าก็อีกคน ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจริง ๆ ป้าก็หนีไม่พ้นเหมือนกัน!” จากนั้นจึงลุกขึ้นและเดินออกไป
พี่รองจ้าวเห็นพี่สามจ้าวกลับไปแล้ว เขายังจะอยู่ทำอะไรอีกล่ะ จึงหมุนตัวเดินออกไปด้วยเช่นกัน
เพื่อนบ้านคนอื่น ๆ เห็นเช่นนี้ พวกเขาจะทำอย่างไร นี่ถ้ามีคนตายขึ้นมาจริง ๆ จะทำอย่างไร! จึงพากันโน้มน้าวสะใภ้สี่จ้าวให้ไปบ้านตนเอง แต่สะใภ้สี่จ้าวกลับไม่ยอมไป
“ถ้าฉันไป แม่คงขนทุกอย่างในบ้านหลังนี้ไปจนหมด!” พี่สะใภ้สี่จ้าวตอบ
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวที่อยู่ด้านนอกจึงเริ่มก่นด่าอีกครั้ง “ฉันเอาไปทั้งหมดมันก็สมควรแล้ว ฉันเป็นแม่แกนะ! ไอ้เด็กเวร พอมีผัวก็ลืมแม่ตัวเอง แกยังเป็นคนอยู่รึเปล่า? สวรรค์ก็ทนดูแกไม่ได้ ถึงไม่ยอมให้แกมีลูกชายยังไงล่ะ!”
ทุกคนทนฟังไม่ไหวแล้ว คนคนนี้เป็นแม่แบบไหนกัน! พวกเขาเป็นแค่คนนอกจึงพูดอะไรมากไม่ได้ พากันพูดโน้มน้าวใจพี่สะใภ้สี่จ้าวสองสามประโยค ก่อนจะทยอยแยกย้ายกันกลับไป
หลังจากคนสุดท้ายเดินออกไป พี่สะใภ้สี่จ้าวก็เดินถือมีดหั่นผักออกมา พร้อมกับยกขึ้นมาชี้หน้าแม่ตัวเอง
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวตกใจจนสะดุ้งโหยง “แกจะทำอะไร แกคิดจะฆ่าฉันเหรอ?”
พี่สะใภ้สี่จ้าวมองอีกฝ่ายด้วยท่าทางเย็นชา “แม่แช่งไม่ให้ฉันมีลูกชายฉันก็จะฆ่าแม่ มากสุดก็แค่ใช้ชีวิตแลกชีวิต!” จากนั้นหล่อนก็ยกมีดขึ้นมาไล่ฟัน
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวตะโกนเสียงดังว่า “ฆ่าคนแล้ว! ลูกสาวแท้ ๆ จะฆ่าแกงแม่ตัวเองแล้ว!” พร้อมกับวิ่งออกไปด้านนอก
พี่สะใภ้สี่จ้าวไล่อีกฝ่ายออกไปครึ่งทาง จากนั้นจึงกลับมาล็อคประตูบ้านและตะโกนไปว่า “ถ้าฉันมีลูกชายไม่ได้ ต่อให้ตายฉันก็ไม่ปล่อยแม่ไว้แน่!”
ระหว่างที่พูดหล่อนก็ส่งเสียงร้องไห้ฟูมฟายออกมา
เพื่อนบ้านจึงทนไม่ไหวพากันออกมาปลอบใจหล่อนอีกครั้ง ทว่าพี่สะใภ้สี่จ้าวกลับไม่ยอมเปิดประตู ข้างนอกอากาศหนาวขนาดนั้น เพื่อนบ้านทำอะไรไม่ได้จึงทำได้เพียงแค่ดึงแม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวเข้าไปพักค้างคืนที่บ้านตนเอง
หลังจากโหวกเหวกโวยวายจนเกือบถึงช่วงกลางดึก นอนหลับไปได้ไม่นาน วันรุ่งขึ้นเพื่อนบ้านก็รีบไปหาจ้าวเหวินเทา จ้าวเหวินเทาจึงหารถและให้คนแก่ในหมู่บ้านขับไปส่งแม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวที่บ้าน เรื่องนี้จึงสิ้นสุดลง
…………………………………………………………………………………. สารจากผู้แปล
นังแก่นี่มาป่วนหมู่บ้านนี้แล้วก็รีบ ๆ กลับบ้านเดิมไปซะ อยู่นานกว่านี้ได้วุ่นวายกันทั้งหมู่บ้านแน่
ถือว่ายังมีบุญนะที่ไม่โดนพี่สี่ทุบ ไม่งั้นคงไม่ได้ปากเก่งกับลูกสาวต่อหรอก
ไหหม่า(海馬)