เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 374 เสี่ยวไป๋หยางจอมดื้อ
- Home
- เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]
- ตอนที่ 374 เสี่ยวไป๋หยางจอมดื้อ
ตอนที่ 374 เสี่ยวไป๋หยางจอมดื้อ
ตอนที่ 374 เสี่ยวไป๋หยางจอมดื้อ
เย่ฉูฉู่แย้มยิ้ม “พี่สะใภ้สามเก่งจริง ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ขายออกไปได้ในราคาที่สูงทั้งนั้นเลย!”
“พี่สะใภ้สามบอกว่าเงินจากคนมีเงินเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายที่สุดแล้ว หากทำให้พวกเขาชอบ ก็สามารถทำให้พวกเขาจ่ายเงินได้เช่นกัน!” เย่หมิงเป่ยกล่าว
เย่ฉูฉู่ได้ยินก็ถึงกับหลุดขำ หลังจากคุยเรื่องพี่สี่จ้าวจบแล้ว จึงถามถึงคุณแม่เย่ “พี่สาม แม่เป็นยังไงบ้างคะ?”
“แม่สบายดี ตอนเช้ากับตอนเที่ยงก็ออกไปเดินเล่น ระหว่างนั้นก็ไปจ่ายตลาดด้วย ตอนค่ำก็ไม่ได้ออกไปไหน”
“พาเยว่เยว่ออกไปด้วยเหรอ?”
“ใช่ อยู่ในบ้านเยว่เยว่เอาแต่นอน ถ้าออกไปข้างนอกก็พอได้เล่นกับเขาหน่อย เสี่ยวไป๋หยางล่ะ?”
“เสี่ยวไป๋หยางนอนกลางวันบ่อย ถ้านอนเยอะตอนค่ำก็จะนอนดึก แต่ถ้านอนกลางวันไม่เยอะตอนค่ำก็เข้านอนเร็ว อากาศหนาว ๆ ก็ไม่อยากอยู่ในห้อง อยากจะออกไปข้างนอกให้ได้ ตอนนี้เขาเดินได้แล้ว ถ้าไม่พาเขาออกไป เขาก็เดินออกไปเองแล้ว แต่ก็ยังมีไฉไฉที่พาเขาออกไปเดินเล่นได้” เย่ฉูฉู่ถอนหายใจ
เมื่อเสี่ยวไป๋หยางเริ่มเดินได้ก็เริ่มเลี้ยงยากเป็นพิเศษ การอยู่ในห้องไม่สามารถคลายความอยากรู้อยากเห็นของเขาได้ รถเข็นเด็กก็ไม่ยอมนั่งแล้ว โดยเฉพาะตอนที่เขาเรียนรู้ที่จะปีนออกมาจากรถเข็นเด็กด้วยตัวเอง หากไม่จับตาดูให้ดีก็จะวิ่งหายไป แต่ก็ยังมีเจ้าลิงน้อยที่พอช่วยเหลือได้บ้าง ตอนนี้ทุกครั้งที่เย่ฉูฉู่ทำงานบ้านเธอก็จะรู้สึกหวาดระแวงตลอด ต้องคอยหันมาดูทุก ๆ สองสามนาที
“ก่อนหน้านี้เวลาทำอาหาร ฉันแค่วางเขาไว้ในรถเข็นเด็กให้เขานั่งดู ตอนนั้นฉันแทบไม่ต้องหันไปสนใจเลย แต่ตอนนี้ถ้านาน ๆ หันไปมองที เขาก็จะมุดออกมาจากรถและวิ่งออกไปข้างนอก แถมยังออกไปแบบเงียบ ๆ ด้วยนะคะ” เย่ฉูฉู่บ่นพลางมองเสี่ยวไป๋หยางที่กำลังเล่นกับเจ้าลิงน้อยอยู่บนเตียง
“เยว่เยว่ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย วัน ๆ เอาแต่นอน” เย่หมิงเป่ยพูด “พี่กับพี่สะใภ้สามของเธอพาเยว่เยว่ไปตรวจที่โรงพยาบาลดูแล้ว หมอบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร เด็กที่ชอบนอนก็เป็นเพราะกำลังอยู่ในช่วงตัวยืด เลี้ยงเด็กสักคนนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ”
ก่อนหน้านี้เย่ฉูฉู่ได้ยินคุณแม่เย่เล่าเรื่องที่เยว่เยว่รักการนอนมาก่อนแล้ว แม้ว่าเด็กเล็กจะชอบนอน แต่เยว่เยว่กลับนอนมากกว่าเด็กคนอื่น ๆ สิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกเป็นกังวลใจ
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ” เย่ฉูฉู่คุยกับเย่หมิงเป่ยต่อไม่กี่ประโยคก็วางสาย
จากนั้นจึงหันกลับไปมองเสี่ยวไป๋หยางที่กำลังลองปีนลงจากเตียง โดยมีเจ้าลิงน้อยที่ใช้มือคว้าเสื้อของเขาไว้ เย่ฉูฉู่ทั้งโกรธทั้งขำ เดินเข้าไปพร้อมกับยกตัวเขากลับขึ้นไปบนเตียง “หนูจะลงไปทำอะไรคะ?”
“เล่น!” เสี่ยวไป๋หยางตอบห้วน ๆ
“อากาศหนาวขนาดนี้ หนูยังจะออกไปเล่นอีกเหรอ!”
“เล่น!” เสี่ยวไป๋หยางบิดตัว หันไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าลิงน้อย
เจ้าลิงน้อยส่งเสียงร้องเจี๊ยก ๆ
“ลูกชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยนะ!” เย่ฉูฉู่พูดด้วยท่าทางเคือง ๆ “อากาศหนาวขนาดนี้จะออกไปทำอะไร!”
เสี่ยวไป๋หยางเห็นแม่ของตนเองโกรธแล้ว จึงใช้ท่าไม้ตายด้วยการอ้าปากร้องไห้
“เอาล่ะ ๆๆๆ ไม่ต้องร้องแล้ว ออกไปเล่นกันนะ!” เย่ฉูฉู่กลัวเด็กร้องไห้มากที่สุด เธอจึงรีบพูดเช่นนี้
หลังจากสวมใส่เสื้อผ้าและรองเท้า เธอจึงพาเขาออกไปด้านนอก โดยมีเจ้าลิงน้อยวิ่งตามหลังไป
เมื่อไม่กี่วันก่อนมีหิมะตกลงมาแล้ว อากาศจึงหนาวขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าดูเหมือนว่าเสี่ยวไป๋หยางจะไม่กลัวแม้แต่น้อย ทั้งยังเดินออกไปถึงประตูใหญ่
“เล่นในลานบ้านก็พอแล้วมั้ง?” เย่ฉูฉู่ถึงกับหมดคำพูด
เสี่ยวไป๋หยางส่ายหน้า แสดงออกว่าไม่ได้
เธอจึงทำได้แค่พาเขาออกไปข้างนอกอย่างจนปัญญา
ที่นี่คือตงเหลียง เป็นพื้นที่ราบสูง อากาศจึงเย็นกว่าในหมู่บ้าน เสี่ยวไป๋หยางยืนอยู่ที่ประตูใหญ่ ชะโงกหน้าออกไปมอง ก่อนจะวิ่งไปตามถนนมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก
“หนูจะไปไหนคะ?”
“อู่หยา!” เสี่ยวไป๋หยางตอบ
หลายวันมานี้เป็นเพราะพี่สี่จ้าว พี่สะใภ้สี่จ้าวจึงต้องกระเตงอู่หยามาที่นี่ด้วย เสี่ยวไป๋หยางและอู่หยาสนิทกันแล้ว และอู่หยาก็เป็นเพื่อนคนแรกของเขา จึงทำให้เขานึกถึงเธอ
“อากาศหนาวเกินไปแล้ว อู่หยาออกมาไม่ได้หรอก” เย่ฉูฉู่เดินตามพลางพูดกับเขา
เสี่ยวไป๋หยางไม่สนใจ ยังคงเดินไปตามทางของตัวเอง
เจ้าลิงน้อยไม่ยอมเดินแล้ว มันส่งเสียงร้องเจี๊ยก ๆ ไล่หลัง เสี่ยวไป๋หยางก็ยังไม่สนใจ เย่ฉูฉู่พอจะมองออกว่านิสัยของเด็กคนนี้คงเป็นเด็กหัวรั้น ตัวแค่นี้ยังขนาดนี้ โตขึ้นมาก็คงไม่ต่างกัน
ลมเย็นพัดผ่านจนทำให้เสี่ยวไป๋หยางเซและล้มลงบนพื้น ทว่าเขาไม่ได้ส่งเสียงร้อง แต่กลับลุกขึ้นมาและเดินหน้าต่อ
“เสี่ยวไป๋หยาง อากาศหนาวเกินไปแล้ว พวกเรากลับกันก่อนเถอะ รอให้ป้าสี่พาอู่หยามาเล่นที่บ้านของพวกเราดีไหมครับ?” เย่ฉูฉู่พยายามเกลี้ยกล่อมเสี่ยวไป๋หยาง
เสี่ยวไป๋หยางยังคงไม่สนใจ
เย่ฉูฉู่เห็นเขาเดินออกมาระยะหนึ่งแล้วและคงรู้สึกเหนื่อยเช่นกัน เธอจึงลองใช้อีกเหตุผลหนึ่ง “พ่อของหนูใกล้จะกลับมาแล้วนะ ถ้าเห็นว่าพวกเราไม่อยู่บ้านพ่อคงเป็นห่วงแย่เลย”
เสี่ยวไป๋หยางได้ยินว่าพ่อกำลังจะกลับมาแล้ว จึงหยุดเดิน
เย่ฉูฉู่ถึงกับกลั้นขำไม่อยู่ “พ่อของหนูซื้อของอร่อย ๆ มาแล้วนะ”
เสี่ยวไป๋หยางหมุนตัวเดินกลับบ้านทันที เพียงแต่เป็นเพราะเดินมาค่อนข้างไกล จึงรู้สึกเหนื่อย เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็หยุดเดินและส่งเสียงร้องให้อุ้ม เย่ฉูฉู่จึงอุ้มเขาขึ้นมาและเรียกเจ้าลิงน้อยให้กลับบ้าน
“พ่อ…ของอร่อย!” เสี่ยวไป๋หยางพูด
“ใช่แล้ว พ่อเอาของอร่อยมาให้เสี่ยวไป๋หยางแล้วนะ เสี่ยวไป๋หยางชอบกินอะไรเอ่ย?” เย่ฉูฉู่ถูแก้มเย็น ๆ ของเขา
“เนื้อ! เนื้อ ๆ!” เสี่ยวไป๋หยางตอบอย่างไม่ลังเล
“เหมือนพ่อไม่มีผิดเลยจริง ๆ ชอบกินเนื้อเหมือนกันเลยนะ!” เย่ฉูฉู่ยิ้มพร้อมกับใช้นิ้วเคาะหน้าผากอีกฝ่ายเบา ๆ
เจ้าลิงน้อยก็ส่งเสียงร้องเจี๊ยก ๆ ขึ้นมา
“ไฉไฉไม่ชอบกินเนื้อ ไฉไฉชอบกินแอปเปิ้ล” เย่ฉูฉู่พูดกับเจ้าลิงน้อย
เจ้าลิงน้อยไม่ได้รู้สึกประทับใจกับแอปเปิ้ล แต่เมื่อนึกถึงมันก็รู้สึกได้ว่ามันเองก็ชอบกิน แต่ไม่รู้ว่าทำไม ตอนนี้ถึงหาไม่เจอแม้แต่ลูกเดียว
หลังจากกลับมาถึงบ้าน เย่ฉูฉู่ก็พาเสี่ยวไป๋หยางไปล้างมือและเริ่มทำอาหาร
ช่วงเช้าของฤดูหนาวจะสั้น ตลอดทั้งวันคงไม่ต้องคิดจะทำอะไร แค่ใช้เวลาทำอาหารสามมื้อก็หมดวันแล้ว
“เสี่ยวไป๋หยาง คืนนี้กินอะไรดีเอ่ย?” เย่ฉูฉู่พูดกับลูกชาย
เสี่ยวไป๋หยางตอบกลับมาตรง ๆ “เนื้อ ๆ!”
“ได้เลย ทำเนื้อ ๆ ให้เสี่ยวไป๋หยางแล้วกันนะ!”
เย่ฉูฉู่นวดแป้งเพื่อเตรียมเส้นบะหมี่ทำมือ น้ำซุปเป็นซุปใส่เนื้อสัตว์ และเธอก็ตักแบ่งให้เสี่ยวไป๋หยางหนึ่งชามด้วย
เส้นบะหมี่ทำออกมาแล้ว จ้าวเหวินเทาก็กลับมาถึงบ้านพอดี
“ภรรยา ผมกลับมาแล้ว!” จ้าวเหวินเทาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับตะโกน
“พ่อ! พ่อ!” เสี่ยวไป๋หยางได้ยินเสียงก็รีบวิ่งออกมาจากด้านในห้อง วิ่งเซไปเซมาด้วยความตื่นเต้น
จ้าวเหวินเทาอุ้มลูกชายขึ้นมาและยกตัวลอยขึ้นกลางอากาศ “เจ้าลูกชาย คิดถึงพ่อไหมเอ่ย?”
“พ่อ! พ่อ!” เสี่ยวไป๋หยางตอบคำถามของจ้าวเหวินเทาอย่างกระตือรือร้น
จ้าวเหวินเทาหอมแก้มเขา “วันนี้เป็นเด็กดีรึเปล่า?”
เย่ฉูฉู่เดินออกมาจากห้องครัว กล่าวว่า “เด็กดีอะไรล่ะคะ อากาศหนาวขนาดนี้ยังวิ่งออกไปข้างนอก บอกว่าจะไปเล่นกับอู่หยา พอได้ยินว่าคุณจะกลับมาถึงยอมกลับบ้าน”
“จริงเหรอ เสี่ยวไป๋หยางไม่เชื่อฟังอีกแล้วนะ” จ้าวเหวินเทาบีบจมูกเล็ก ๆ ของเสี่ยวไป๋หยาง
เสี่ยวไป๋หยางยิ้ม ก่อนจะใช้มือจับหูของจ้าวเหวินเทา
“พอแล้ว อย่าดื้อนะ ให้พ่อไปล้างหน้าล้างตาก่อน พวกเราจะได้มากินข้าวกัน” เย่ฉูฉู่กล่าว “เดี๋ยวฉันไปลวกเส้นเลยนะคะ”
จ้าวเหวินเทาวางลูกชายลง ถอดเสื้อคลุมตัวใหญ่และเดินไปล้างหน้า เสี่ยวไป๋หยางเดินตามก้นเขาไปและมีเจ้าลิงน้อยที่ตามไปติด ๆ
จ้าวเหวินเทาหันมามองเด็กหนึ่งคนและหนึ่งตัวที่เดินตามหลัง ความเหนื่อยล้าตลอดทั้งวันจึงหายไป หลังจากล้างหน้าล้างตาแล้ว เขาจึงจับเสี่ยวไป๋หยางและเจ้าลิงน้อยมาล้างมือด้วย เจ้าลิงน้อยไม่ยอมถึงขั้นส่งเสียงร้องเจี๊ยก ๆ
เสี่ยวไป๋หยางก็เลียนแบบเสียงเจ้าลิงน้อย ส่งเสียงเจี๊ยก ๆ เช่นกัน
“เสี่ยวไป๋หยาง ทำอะไรของลูกเนี่ย ทำไมไม่พูดให้ดี ๆ!” จ้าวเหวินเทารีบพูด
…………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มีลูกดื้อมันก็เหนื่อยหน่อยนะคะ ถ้าดื้อทั้งหนึ่งคนหนึ่งลิงด้วยคือปวดหัวเลย
ไหหม่า(海馬)