เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 378 โรงเต้าหู้ของพี่สามจ้าว
- Home
- เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]
- ตอนที่ 378 โรงเต้าหู้ของพี่สามจ้าว
ตอนที่ 378 โรงเต้าหู้ของพี่สามจ้าว
ตอนที่ 378 โรงเต้าหู้ของพี่สามจ้าว
จ้าวเหวินเทากล่าว “ทำไงได้ล่ะ ลูกของตัวเอง พวกเราก็เป็นแค่คนนอก”
เย่ฉูฉู่ตอบ “ก่อนหน้านี้ถ้าไม่เห็นก็ไม่หงุดหงิดหรอก แต่ตอนนี้พอได้เห็นเลยรับไม่ได้”
ที่สำคัญก็คือมาเล่นบนเตียงของเธอด้วย เธอจึงเป็นกังวลว่าเหาอาจจะตกลงมาบนเตียง เธอขยันซักและตากเสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน และผ้าห่มมาก เพราะในบ้านมีเจ้าลิงน้อยอยู่ โดยพื้นฐานแล้วเสื้อผ้าและผ้าปูที่นอนที่ไม่ได้ใช้จะถูกวางไว้ในตู้ทั้งหมด ดังนั้นภายในบ้านจึงไม่มีเหา เธอเป็นกังวลมากจริง ๆ ว่าอู่หยาจะทิ้งเหาไว้ที่นี่ 1-2 ตัว
เย่ฉูฉู่รู้ดีว่าหากเรื่องนี้ของเธอถูกแพร่งพรายออกไป ต้องมีคนพูดถึงแน่นอน แต่ก็ช่วยไม่ได้ เธอกลัวเหาและกลัวความสกปรกด้วย
“ภรรยา ไม่เป็นไรหรอก อีกสองวันโรงเต้าหู้ของพี่สามก็เปิดแล้ว พี่สะใภ้สี่ก็คงไปทำงานที่นั่น ถึงเวลานั้นอู่หยาก็คงถูกพาไปที่ฟาร์มกระต่ายด้วย ผมบอกพี่สี่แล้วว่าถ้ามีธุระอะไรก็โทรไปที่ฟาร์มกระต่าย” จ้าวเหวินเทากล่าว
ต่อให้ไม่ชอบพี่สะใภ้คนนี้ แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปตรง ๆ ได้ว่า ‘อย่ามาที่บ้านฉัน’ เพราะถ้าพูดแบบนั้นคงไม่ดีเท่าไรนัก
เย่ฉูฉู่ประหลาดใจ “โรงเต้าหู้ของพี่สามเปิดใช้งานเร็วขนาดนี้เลยเหรอ? ฉันนึกว่าฤดูใบไม้ผลิปีหน้าซะอีก”
“ถ้ารอเปิดใช้ฤดูใบไม้ผลิปีหน้า พี่สามคงได้เป็นบ้าแน่” จ้าวเหวินเทายิ้ม “แค่นี้พี่สามก็ร้อนใจแทบแย่แล้ว ไปเร่งให้คนรีบทำงานไม่หยุดเลย ทางบ้านเขาก็ไม่มีเวลาได้พัก พี่รองก็กำลังทำเต้าหู้อยู่ตลอด ยังมีเพื่อนบ้านที่อยู่ทางซ้ายและขวาของบ้านที่มาช่วยทำด้วยนะ”
“พี่สามใช้ชีวิตเก่งจริง ๆ” เย่ฉูฉู่ถึงกับถอนหายใจ
“ภรรยา พวกเราก็ใช้ชีวิตเก่งเหมอืนกันนะ คุณดูสิผมเองก็หาเงินได้ทุกวันเลย แต่คนที่ใช้ชีวิตเป็นที่สุดก็คือคุณนั่นแหละ คุณหาเงินได้เยอะกว่าพวกเราอีกนะ!” จ้าวเหวินเทาหัวเราะคิกคัก
เย่ฉูฉู่ได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก ก็จริง เธอหาเงินเก่งจริง ๆ นั่นแหละ สิ้นปีก็จะได้เงินปันผลอีกครั้งแล้ว ครั้งนี้คงได้มากกว่าครั้งก่อนอีก!
“ออกไปข้างนอกก็อย่าไปพูดจาเหลวไหลเชียวนะ” เย่ฉูฉู่พูดอย่างภาคภูมิใจ “บ้านเรายังมีหนี้อยู่เลย แถมยังไม่ได้เก็บเงินด้วย”
จ้าวเหวินเทาอยากหัวเราะออกมาเพราะกลั้นไม่อยู่ “ตกลง ผมเข้าใจแล้ว ภรรยา คุณไม่ต้องห่วง ผมจะบีบน้ำตาแสร้งว่าจน”
เย่ฉูฉู่ถึงกับหัวเราะพรืด
เสี่ยวไป๋หยางเห็นแม่หัวเราะ จึงเงยหน้าเล็ก ๆ ขึ้นมาหัวเราะด้วย
โรงเต้าหู้ของพี่สามจ้าวสร้างขึ้นมาในราคาประหยัดภายใต้การออกแบบของเย่ฉูฉู่ ฐานทำมาจากก้อนหิน โครงทำด้วยผนังดิน กำแพงและพื้นที่อยู่ด้านในทำด้วยอิฐแดง คานบ้านเตี้ยกว่าบ้านโดยปกติทั่วไปเล็กน้อย มีทั้งหมดสิบห้องใหญ่ การนั่งจัดรูปแบบเป็นแถว ๆ สลับเป็นฟันปลา ด้านหลังไว้สำหรับจัดการกับถั่ว ทั้งขั้นตอนการคัด ล้างทำความสะอาดและบด โดยการบดถั่วจะใช้เครื่องจักรส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งบดด้วยมือ นอกจากนี้ยังมีการบดโดยให้สัตว์ลากเครื่องบดด้วย สิ่งนี้วางไว้ทั้งหมดห้าห้องกำลังพอดี
ห้องทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของด้านหน้าเอาไว้ต้มน้ำเต้าหู้ ใช้หม้อขนาดใหญ่สี่ใบ โดยจะเขียนเครื่องหมายไว้ทั้งหมด หม้อไหนทำด้วยมือ หม้อไหนทำด้วยเครื่องจักร ห้องที่อยู่ตรงกลางมีขนาดใหญ่ที่สุด ด้านหน้าเตรียมไว้สำหรับลูกค้าที่มาซื้อเต้าหู้ ด้านหลังมีเคาน์เตอร์หนึ่งแถว คล้ายกับหน้าต่างส่งอาหารภายในโรงอาหารในเมือง แต่เมื่อเทียบกับหน้าต่างอันนั้น ของที่นี่ดูมีสไตล์กว่ามาก!
หน้าต่างประตูที่อยู่ด้านหน้าถูกเปิดไว้กว้างมาก เป็นกระจกเพิ่มความหนาแบบสองชั้น แบบนี้จะช่วยรักษาความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาวได้
ภายในห้องติดตั้งเครื่องทำความร้อน โดยเชื่อมต่อกับบอยเลอร์ของคุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวในการเผาไฟ เก็บเงินจากพี่สามจ้าวตามปริมาณพื้นที่
ด้านนอกโรงเต้าหู้ดูเรียบง่ายแต่สวยงามตามสไตล์ชนบท ด้านในเน้นความเรียบง่ายและสะอาดสะอ้าน ผนังเป็นสีขาวสูงจากเพดานจรดพื้น พื้นทำด้วยอิฐแดง ฝ้าเพดานเป็นสีขาว ติดตั้งหลอดไฟแท่งซึ่งก็คือหลอดไส้สีขาวแบบยาว สิ่งนี้จะสว่างกว่าหลอดไฟกลม ทั้งยังให้แสงสีขาวด้วย หากเปิดตอนกลางคืนจะสว่างไสวทั่วทั้งห้อง ตอนเช้าก็มีแสงแดดสาดเข้ามาจนสว่างทั่วทั้งห้องเช่นกัน พี่สะใภ้สามจ้าวเห็นเข้าจนไม่อยากจะกลับบ้านแล้ว เมื่อเทียบกัน บ้านของพวกเขาก็คือคอกหมูดี ๆ นี่เอง!
แต่พี่สามจ้าวเห็นแล้วแทบน้ำตาไหลพราก นี่เป็นเงินทั้งนั้นเลย!
พี่สะใภ้สามจ้าวกลอกตาใส่เขา “คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าประหยัดเงินไปได้เยอะ ทำไมตอนนี้ถึงได้พูดว่าค่าใช้จ่ายเยอะอีกแล้วล่ะ?”
พี่สามจ้าวพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “คุณจะไปเข้าใจอะไร! สร้างบ้านถูกกว่าตั้งเยอะ คุณดูไฟฟ้าพวกนี้ ไหนจะเครื่องทำความร้อนอีก เงินทั้งนั้นแหละ!”
“แล้วทำไมคุณไม่ติดตั้งตะเกียงน้ำมันก๊าดล่ะ แบบนั้นก็ไม่ต้องจ่ายเงินแล้ว!” พี่สะใภ้สามจ้าวดูไปพลางพูดไปพลาง
พี่สามจ้าวตอบ “คุณคิดว่าผมไม่อยากทำแบบนั้นเหรอ แต่เจ้าหกบอกว่าถ้าอยากทำก็ทำให้มันดี ๆ ไปเลย มีแค่วิธีนี้ที่จะทำให้คนที่มาซื้อเต้าหู้มากขึ้นเรื่อย ๆ! ผมเองก็จนปัญญาเหมือนกัน สวยมันก็สวยอยู่หรอก แต่ก็แพงเหมือนกัน!”
พี่สะใภ้สามจ้าวไม่สนใจเขาแล้ว เดินดูไปรอบ ๆ ก็พูดด้วยความเสียใจว่า “ทำไมคุณไม่ทำที่นอนด้วยล่ะ?”
พี่สามจ้าวกลอกตาใส่หล่อน “ให้ผมติดตั้งเตียงเตาให้คุณด้วยเลยไหมล่ะ!”
“เอาสิ สถานที่ดี ๆ แบบนี้ แถมยังอบอุ่นขนาดนี้ ถ้าได้มีเตียงเตาสักเตียง คงนอนหลับสบายน่าดูเลย!” พี่สะใภ้สามจ้าวพูดด้วยความปรารถนา
“คุณมาที่นี่เพื่อนอนเหรอ เรามาที่นี่เพื่อทำงานต่างหากล่ะ!”
“เหนื่อยก็พักผ่อนไง ทำไมจะมีสถานที่ไว้นอนไม่ได้”
“เหนื่อยก็กลับไปนอนที่บ้าน!” พี่สามจ้าวตอบ “จ่ายเงินไปเยอะขนาดนี้ ยังจะหยุดพักอีก ให้พวกเขาพักแล้วเมื่อไรผมจะได้เงินกลับคืนมา!”
“วันพรุ่งนี้ก็จะเริ่มทำงานที่นี่แล้ว วันนี้ผมจะไปเรียกให้พี่รองกับคนอื่น ๆ ขนของมาที่นี่” พี่สามจ้าวกล่าว
จู่ ๆ พี่สะใภ้สามจ้าวก็ค้นพบว่ามีบางอย่างหายไป “ทำไมคุณไม่ทำโกดังไว้สักห้องล่ะ?”
พี่สามจ้าวตอบ “โกดังอะไรล่ะ แค่ห้องไม่กี่ห้องยังติดหนี้บานเลย! เอาเต้าหู้ไปไว้ในโกดังของเจ้าหกก่อน ผมคุยกับเจ้าหกแล้ว เจ้าหกก็ตกลงแล้วด้วย เขาบอกว่าทำห้องส่วนตัวไว้ให้ผมห้องหนึ่ง กุญแจก็ให้มาแล้ว ของอย่างอื่นเอาไปวางไว้ที่ห้องด้านหลังก็ได้”
“น้องหกมีน้ำใจจริง ๆ” พี่สะใภ้สามจ้าวถอนหายใจพลางกล่าว
พี่สามจ้าวบุ้ยปาก “อยากได้เงินก็มีน้ำใจทั้งนั้นแหละ”
“ยังจะอยากได้เงินอะไรของคุณอีก?” พี่สะใภ้สามจ้าวไม่พอใจ “คุณพอได้แล้วนะ”
“เงินค่าเผาเครื่องทำความร้อน ไหนจะเงินค่าขยะอีก เหอะ ให้ห้องแค่ห้องเดียวมันมากมายเท่าไรกันเชียว เขาก็ไม่ได้เสียเปรียบสักหน่อย!” พี่สามจ้าวแค่นเสียง
“คนแบบคุณนี่นะ สมควรแล้วแหละที่ไม่มีใครสนใจ!”
พี่สะใภ้สามจ้าวพูดจบก็เดินออกไป
“ฉันนี่โคตรซวยจริง ๆ มาแต่งงานกับคนโง่แบบนี้!” พี่สามจ้าวบ่นพร้อมกับล็อคประตู ก่อนจะเดินออกไป
เขากลับไปเรียกพี่รองจ้าวและคนอื่น ๆ ให้ขนของไปที่โรงเต้าหู้ ตกลงไว้อย่างดีแล้วว่าพรุ่งนี้จะเริ่มทำงาน ตอนนี้เป็นช่วงบ่ายแล้ว ต้องรีบทำเวลา
ช่วงฤดูหนาวกลางวันจะสั้นกว่ากลางคืน ยังไม่ทันได้ทำอะไรท้องฟ้าก็มืดแล้ว โชคดีที่ย้ายของมาทั้งหมดแล้ว คุณแม่จ้าวจึงบอกให้ลูกชายทั้งสองคนรวมถึงเพื่อนบ้านที่มาช่วยขนของอยู่กินข้าวด้วยกันก่อน
อาหารเรียบง่ายมาก มีข้าวฟ่าง วุ้นเส้นเต้าหู้หมูสามชั้นตุ๋นกะหล่ำปลี เพิ่มด้วยหัวไชเท้าเปรี้ยวหวานอีกหนึ่งจาน ส่วนอย่างอื่นก็เป็นผักกาดขาวดองเค็ม ก้อนผักดองเค็ม เป็นผักที่สามารถเห็นได้โดยทั่วไปในฤดูหนาวของภาคเหนือ
อย่ามองว่าเป็นอาหารง่าย ๆ แต่เมื่อมีคนกินข้าวด้วยกันเยอะ ๆ ทุกคนก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อยจนหมดเกลี้ยง
หลังจากกินข้าวเสร็จ คุณแม่จ้าวก็เก็บทำความสะอาดเรียบร้อยก่อนกลับเข้าหมู่บ้านพร้อมกับพวกพี่สามจ้าว เพื่อไปอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้สี่จ้าว
แม้พี่สะใภ้รองจ้าวจะไม่ได้พูดอะไร แต่หล่อนก็ไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้สี่จ้าวตลอดเวลาได้ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาได้ด้วย พี่สะใภ้สี่จ้าวไม่ได้คิดถึงเรื่องเหล่านี้ แต่คุณแม่จ้าวคิดถึงเรื่องนี้ จึงเสนอตัวเรียกให้พี่สะใภ้รองจ้าวกลับบ้านไป ส่วนนางก็เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้สี่จ้าว
ระหว่างทางที่เดินทางกลับ พี่สามจ้าวก็พูดว่า “แม่ แม่มาแบบนี้ก็ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ดีหรอก ผมได้ยินมาว่าเจ้าสี่เซ็นสัญญาไว้ตั้งหนึ่งปีแน่ะ!”
……………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
โรงเต้าหู้ทำอย่างดีแล้วควรจะดีใจนะพี่สาม ถึงลงทุนไปเยอะผลตอบแทนก็เยอะเหมือนกันนะ
พี่สะใภ้สี่รู้ยังคะว่าพี่สี่อยู่เมืองหลวงหนึ่งปี ถ้ารู้นี่จะอกแตกตายไหมนะ
ปล. ตอนนี้เหลืออีกยี่สิบกว่าตอนก็จะจบเรื่องแล้วนะคะ รู้สึกใจหายหน่อยๆ แฮะเมื่อคิดว่าอีกไม่นานก็จะจบแล้ว
ไหหม่า(海馬)