เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 88 โชคของแต่ละคน
ตอนที่ 88 โชคของแต่ละคน
เย่หมิงเป่ยย่อมไม่รับประทานคนเดียวอยู่แล้ว เขารับประทานไก่กับภรรยาของตัวเอง หลังจากรับประทานจนหมดก็แปรงฟันและขึ้นไปเปิดศึกบนเตียงต่อ
โจวหมิ่นอยากให้เขาพักผ่อน แต่เย่หมิงเป่ยแสดงออกว่าตนเองไม่เหนื่อย ได้ขลุกอยู่ใต้ผ้าห่มเขาจะไม่สนใจภรรยาที่เขารักสุดหัวใจได้อย่างไรกัน
โจวหมิ่นรักเย่หมิงเป่ยสุดหัวใจ เย่ฉูฉู่เองก็รักจ้าวเหวินเทาสุดหัวใจเหมือนกัน
มีเย่ฉูฉู่อยู่ โภชนาการของจ้าวเหวินเทาก็ไม่เคยขาดแม้แต่ครั้งเดียว เป็นเพราะชุยต้าและคนอื่น ๆ ไปตกปลา เย่ฉูฉู่จึงใช้ข้าวเพื่อแลกกับเขา ชุยต้าดีใจมาก เมื่อได้ปลาก็จะหิ้วเอามาหาพี่สะใภ้หก ตอนนี้เขาตะโกนเรียกเย่ฉูฉู่ว่าพี่สะใภ้หกได้เต็มปากแล้ว
เย่ฉูฉู่เองก็ยิ้มตอบรับเช่นกัน
เป็นเพราะมีปลา ไข่ไก่ และมีเนื้อรวมถึงผักใบเขียวที่อยู่ในห้องใต้ดิน จ้าวเหวินเทาย่อมไม่ขาดแคลนของรับประทาน อีกอย่างเป็นเพราะทำเงินได้มาก คนเราเมื่อเจอกับเรื่องน่าปีติยินดีย่อมมีอารมณ์ที่เบิกบาน
นอกจากทำอาหารให้จ้าวเหวินเทารับประทานแล้ว เย่ฉูฉู่ก็ไม่ได้อยู่บ้านเฉย ๆ
ดังนั้นเธอจึงใช้ดินสอวาดเสื้อผ้าไว้หลายแบบมาก และใช้ประโยชน์จากตอนว่างงาน ปักลายบนผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมแบบง่าย ๆ ด้วย วันนี้หลังจากส่งจ้าวเหวินเทาออกไปทำงานข้างนอกแล้ว เธออยู่บ้านว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ จึงหยิบของเหล่านี้กลับไปให้พี่สะใภ้สามดูที่บ้าน
โจวหมิ่นเห็นก็ถึงกับประหลาดใจอย่างมาก หล่อนชะงัก “ฉูฉู่ เธอเคยเรียนมาเหรอเนี่ย?!”
เย่ฉูฉู่ใจเต้นช้าลง เธอควรจะตอบไปว่าเคยเรียนมา เพราะองค์ชายเป็นคนสอนเธอเอง จับมือสอนเลยล่ะ
แต่เธอไม่สามารถยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้ จึงตอบด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีนัก “ฉันจะถือว่าเป็นคำชมจากพี่สะใภ้สามนะคะ”
“นี่คือคำชมเลยล่ะ เธอวาดสวยจริง ๆ” โจวหมิ่นพูดออกมาจากใจ ตั้งแต่เห็นภาพวาดของเย่ฉูฉู่ หล่อนก็ไม่อาจละสายตาได้เลยสักครั้ง
ภาพออกแบบเหล่านี้ไม่ใช่ภาพออกแบบธรรมดา ผู้เชี่ยวชาญแค่ลงมือก็รู้แล้วว่าการออกแบบนี้มีความพิเศษหรือไม่
โจวหมิ่นหันมองน้องสาวสามีคนเล็กคนนี้
เย่ฉูฉู่จึงทำได้เพียงแค่ยิ้มอบอุ่น ปล่อยให้พี่สะใภ้สองมองสำรวจ โจวหมิ่นมองอยู่ครึ่งค่อนวันก็ยังไม่พบสิ่งใด แต่หล่อนมีความเฉลียวฉลาดมาก หล่อนรู้สึกได้ว่าน้องสาวสามีคนเล็กอาจจะเจอชะตากรรมเดียวกันกับหล่อน
เป็นเพราะแบบร่างนี้ไม่ใช่สิ่งที่หญิงสาวผู้อยู่ในชนบทตลอดทั้งปีและไม่เคยเรียนมาก่อนจะวาดออกมาได้
โจวหมิ่นไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ หล่อนทำเป็นไม่รู้เรื่อง ขนาดหล่อนยังสามารถกลับมาเกิดใหม่เพื่อชดเชยให้เย่หมิงเป่ยในชาติที่แล้วได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนอื่นจะทำไม่ได้
เย่ฉูฉู่ใช้การวาดลายเส้น แต่เป็นเพราะมาเกิดในร่างใหม่ ฝีมือที่เคยมีจึงเกิดสนิมเกาะกินเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรเธอก็เคยเรียนมา อยากจะแสดงออกมาก็ยังแสดงออกมาได้อยู่
ครั้นเห็นท่าทางของพี่สะใภ้สาม แม้ว่าเย่ฉูฉู่จะรู้สึกผิดนิดหน่อยแต่ก็ยังนิ่งสงบมาก เป็นเพราะนี่คือชีวิตในอดีตชาติและชาตินี้ของเธอกับองค์ชาย เธอไม่ใช่ผีเร่ร่อนที่มาบังคับครอบครองร่างของลูกสาวตระกูลเย่ ตลอดทั้งชีวิตนี้เธอคือลูกสาวของตระกูลเย่ เป็นเพราะบังเอิญจึงฟื้นฟูความทรงจำในชาติก่อนได้
ดังนั้นเย่ฉูฉู่จึงถามเคล้ารอยยิ้มไปว่า “พี่สะใภ้สาม พี่ช่วยดูหน่อยสิคะว่ามีตรงไหนต้องแก้ไหม?”
“ไม่มีเลย ฉูฉู่ เธอวาดได้ดีมาก!” โจวหมิ่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม ทั้งยังไม่ลังเลที่จะยืนยันไปตรง ๆ
“งั้นพี่สะใภ้สามใช้มันได้หรือเปล่าคะ?” เย่ฉูฉู่ยิ้ม
โจวหมิ่นแย้มยิ้ม “เธอคิดว่าไงล่ะ? แบบร่างแบบนี้ต่อให้มีมากกว่านี้ฉันก็รับไม่อั้น ฉันคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเธอจะวาดภาพร่างแบบนี้ออกมาได้”
เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้างั้นก็ดีเลยค่ะ”
โจวหมิ่นมองภาพร่างเหล่านี้พลางกล่าว “ฉูฉู่ เธอมีแผนอะไรในใจไหม พูดให้พี่สะใภ้สามฟังได้นะ”
“ไม่มีค่ะ ฉันก็แค่อยากช่วยเหวินเทา ไม่อยากให้เขาต้องเหนื่อยแบบนี้ ถ้าพี่สะใภ้สามชอบภาพร่างเหล่านี้ หลังจากนี้ฉันจะวาดให้พี่ได้ไหมคะ?” เย่ฉูฉู่เอ่ยถาม
“ได้สิ งั้นพวกเราก็รับผิดชอบหน้าที่ของตนเองนะ” โจวหมิ่นผงกศีรษะ “เธอใช้ความคิดสร้างสรรค์ ฉันเป็นฝ่ายขาย ส่วนเงินที่ได้รับ ฉันจะไม่เอาเปรียบเธอ พวกเราแบ่งกันคนละครึ่ง เธอคิดว่าไง?”
“ฉันขอแค่ได้วาดภาพพวกนี้อยู่ที่บ้านก็พอแล้ว กังวลน้อยกว่ามาก พี่สะใภ้สามไม่ต้องแบ่งให้ฉันมากขนาดนั้นหรอกค่ะ พี่สะใภ้สามแบ่งให้ฉันสองส่วนก็พอ” เย่ฉูฉู่ส่ายหน้า
โจวหมิ่นมองน้องสามีคนเล็กผู้มีมารยาทสง่างามเหมือนกับกุลสตรีที่มาจากตระกูลใหญ่มีฐานะ หล่อนแย้มยิ้มกล่าวว่า “แบบนั้นไม่ได้หรอก ให้เธอสองส่วนแบบนั้นเป็นการดูถูกแบบร่างนี้ของเธอมากเกินไปแล้ว ฉันรู้ว่าของพวกนี้ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก”
พูดจบโจวหมิ่นก็ชื่นชมยินดีขึ้นมา “ฉูฉู่ ความคิดสร้างสรรค์ของเธอดีกว่าฉัน อันที่จริงฉันเองก็ไม่ได้ถนัดด้านการออกแบบเหล่านี้หรอก ฉันชอบการขายของมากกว่า ด้านความคิดสร้างสรรค์นี้ฉันไม่ได้มีพรสวรรค์มากเท่าไหร่ ฉันเองก็คิดอยากจะจ้างคนเหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจ้าง คิดไม่ถึงเลยว่ากลับมาครั้งนี้ จะได้เจอกับฉูฉู่”
หล่อนพูดออกมาจากใจ ความคิดสร้างสรรค์เหล่านั้นของหล่อนทั้งหมดเป็นเพราะนำมาจากประสบการณ์ด้านนอก ชาติที่แล้วหล่อนได้เห็นอะไรมามากมาย ดังนั้นจึงเลือกดำเนินการมาสองสามอย่างเพื่อทำเงินในตอนนี้ แต่น้องสามีคนเล็กไม่เหมือนกัน ดูภาพร่างเหล่านี้ ต่อให้เป็นชาติที่แล้วก็เป็นเรื่องยากมากที่จะพอเห็น สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นสิ่งที่เธอคิดออกมา หล่อนไม่รู้เลยว่าน้องสามีเล็กคนนี้จะมีโชคลาภและพรสวรรค์ด้านนี้
อันที่จริงความคิดสร้างสรรค์ของเย่ฉูฉู่ก็ไม่ได้นับว่าเป็นความคิดของเธอเอง แต่เป็นสิ่งที่เธอประยุกต์มาจากในยุคนั้น
ท้ายที่สุดกำไรของพวกเธอทั้งสองจึงสรุปที่สามและเจ็ดส่วน เย่ฉูฉู่ได้สามส่วน โจวหมิ่นได้เจ็ดส่วน
ทั้งสองฝ่ายมีการลงชื่อในข้อตกลงร่วมมือกันด้วย
แม้ว่าพี่สะใภ้และน้องสะใภ้จะมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลว แต่นี่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือ กระดาษสีขาวและตัวอักษรหมึกสีดำเขียนไว้อย่างชัดเจน แบบนี้ดีกับทั้งสองฝ่าย
เย่ฉูฉู่ไม่ได้มีปัญหาอะไร จิตวิญญาณแห่งสัญญายังเป็นสิ่งที่ต้องมี
โจวหมิ่นนำสมุดที่นำกลับมาออกมาสองสามเล่ม หล่อนให้นิตยสารแฟชั่นนานาชาติกับเย่ฉูฉู่ เป็นเพราะไม่มีอะไรต้องแนะนำเย่ฉูฉู่ จึงให้เย่ฉูฉู่ไปดูด้วยตัวเอง หล่อนรู้สึกว่าน้องสามีคนเล็กคนนี้ไม่ต้องให้หล่อนพูดอะไรให้มากมายในด้านนี้ ถึงอย่างไรต่อให้หล่อนพูดไปก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี ไม่แน่อาจจะทำให้จินตนาการของน้องสามีคนเล็กมีขีดจำกัดด้วย ปล่อยให้เธอไปดูด้วยตนเองก็แล้วกัน
ผ่านไปครู่หนึ่งคุณแม่เย่ก็กลับมาจากข้างนอก นางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้น้องสามีปิดประตูคุยอะไรกันอยู่เหรอ?”
เย่ฉูฉู่มีความเห็นเดียวกันกับโจวหมิ่นว่าจะไม่พูดเรื่องที่ร่วมมือกันออกไป
เย่ฉูฉู่ตาแหลมคม เธอสังเกตเห็นต่างหูที่อยู่บนหูของแม่ตัวเอง จึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่คะ แม่ใส่ต่างหูที่พี่สะใภ้สามซื้อให้ด้วยเหรอ?”
เดินกลับเข้ามาจากด้านนอก แค่เห็นก็รู้แล้วว่าแม่ของเธอไปทำอะไรมา
“พี่สะใภ้สามของลูกเป็นคนมีจิตใจกตัญญู แม่ก็ต้องใส่อยู่แล้วสิ เมื่อกี้แม่ไปนั่งคุยเล่นที่บ้านป้า ๆ มาน่ะ” คุณแม่เย่อารมณ์ดีไม่น้อยเลย
เย่ฉูฉู่หันสบตาโจวหมิ่นก่อนจะหัวเราะออกมา
ไม่ต้องถามก็พอจะทราบได้ว่าคุณแม่เย่ไปทำอะไรมา ก็ไปเชิดหน้าชูตาน่ะสิ
ไม่ผิดหรอกที่คุณแม่เย่ไปหาคนพวกนั้นเพื่อโอ้อวด ก่อนหน้านี้พวกเขาพูดเกี่ยวกับครอบครัวของนางเสีย ๆ หาย ๆ ไปไม่น้อย แทบอยากจะหัวเราะเยาะตระกูลเย่ของนางที่ภรรยาเจ้าสามหนีไป ตอนนี้ลูกสะใภ้ที่เป็นนักศึกษากลับมาแล้ว ทั้งยังรักเจ้าสามอย่างจริงใจ ทำของอร่อยให้เจ้าสามรับประทานทุกวัน แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องมีชีวิตที่ดีแน่นอน
ดังนั้นวันนี้นางต้องมีเวลาว่าง หลังเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว ก็ใส่ต่างหูทองออกจากบ้าน ให้พวกป้า ๆ กลุ่มนั้นอิจฉาตาร้อนไปเลย!
เย่ฉูฉู่อยู่ที่นี่ตลอด จนกระทั่งตอนค่ำจ้าวเหวินเทาและเย่หมิงเป่ยกลับมาหลังจากขายของเสร็จ เธอจึงกลับบ้านไปพร้อมกับจ้าวเหวินเทา
ตอนกลับมาที่บ้าน เย่ฉูฉู่จึงหยิบเอกสารสัญญาร่วมมือระหว่างเธอกับพี่สะใภ้สามออกมาให้จ้าวเหวินเทาดู
เธอไม่ได้มีความหมายอื่น เพียงแค่อยากบอกจ้าวเหวินเทาว่า หลังจากนี้เธอก็ทำงานหาเงินได้เช่นกัน เขาเองจะได้ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นแล้ว
จ้าวเหวินเทาลูบแก้มภรรยาที่แสนดีของเขา เขารู้สึกว่าพี่สะใภ้สามคนนี้กำลังปลอบใจภรรยาของตัวเองอยู่สินะ แม้แต่มณฑลภรรยาของเขาก็ไปแทบจะนับครั้งได้ จะวาดเสื้อผ้าที่คนทางฝั่งเมืองหลวงชอบได้อย่างไรกัน?
…………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ฉูฉู่ได้แสดงฝีมือแล้ว นับจากนี้ไปบ้านหกรวยแน่ มีรายได้ทั้งสามีทั้งภรรยาเลย
ไหหม่า(海馬)