เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] - ตอนที่ 96 โอ้อวดไปทั่ว
ตอนที่ 96 โอ้อวดไปทั่ว
“ผมเข้าใจแล้วพี่สาวใหญ่ พี่รีบเข้าบ้านเถอะ” จ้าวเหวินเทากล่าว
จากนั้นจึงพาภรรยาของเขาไปบ้านของพี่สาวห้า
“ภรรยา ถ้าคุณไม่สบายตรงไหนก็บอกนะ” จ้าวเหวินเทากล่าวขณะขับรถ
“คุณไม่ต้องระวังขนาดนี้ก็ได้ค่ะ นี่เพิ่งจะเดือนกว่าเอง” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม นอกจากอาเจียนแล้วก็ไม่มีอาการอื่น
ทั้งสองเข้ามานั่งในบ้านของพี่สาวห้าจ้าวสักพัก บอกข่าวดีให้พี่สาวห้าจ้าวฟังแล้วก็กลับบ้าน
จ้าวเหวินเทาพาภรรยากลับบ้านก่อน จากนั้นขับรถสามล้อเครื่องยนต์มาคืนพี่สามเย่
คุณแม่เย่ได้ข่าวจากลูกชายคนที่สามว่าลูกเขยจะพาลูกสาวเข้าเมืองไปหาหมอ เมื่อเห็นเขากลับมาจึงถามว่า “เหวินเทา ตรวจแล้วเป็นยังไงบ้าง?”
“คุณแม่ครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี คุณแม่กำลังจะเป็นคุณยายแล้วนะครับ” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกมา คุณแม่เย่ก็มีความสุขอย่างยิ่ง กล่าวว่า “เธออย่าเพิ่งรีบกลับนะ แม่จะเอาไข่ไก่ให้หนึ่งตะกร้า เธอเอากลับไปกินนะ”
“คุณแม่ ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ครับ ที่บ้านก็ยังมีไข่ไก่อยู่” จ้าวเหวินเทารีบกล่าว ครั้งที่แล้วแม่ยายก็เอาไข่เค็มมาให้พวกเขาทั้งสองแล้ว
“แม่รักลูกสาวของตัวเองต่างหากล่ะ รักนายที่ไหนกัน? ไข่ไก่นี้เอาไว้ให้ฉูฉู่กิน ไม่ได้ให้นายกินสักหน่อย” เย่หมิงเป่ยกล่าวเคล้ารอยยิ้ม
คุณแม่เย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เหวินเทาก็กินด้วยสิ แค่ไข่ไก่เอง ก็ให้เอาไปกินด้วยกันนั่นแหละ”
จ้าวเหวินเทายิ้ม แต่ภายในใจรู้สึกชอบแม่ยายคนนี้จริง ๆ
จ้าวเหวินเทากลับไปพร้อมกับไข่ไก่หนึ่งตะกร้า ส่วนเย่หมิงเป่ยก็หมุนตัวเดินกลับเข้าห้อง โจวหมิ่นกำลังอ่านหนังสืออยู่ หลังกลับมาอยู่บ้านหล่อนก็ยังอ่านหนังสืออยู่เสมอ ไม่ได้ละทิ้งการเรียน
เมื่อเห็นเขากลับมาจึงกล่าวว่า “เมื่อกี้เสียงเหวินเทาเหรอคะ?”
“ใช่ ฉูฉู่ท้องแล้ว ท้องมาได้เดือนกว่าแล้วด้วย” เย่หมิงเป่ยกล่าว
เมื่อโจวหมิ่นได้ยินจึงจับท้องของตัวเอง กล่าวว่า “ไม่รู้ว่าฉันจะมีข่าวดีบ้างหรือยัง?”
“ผมขยันออกขนาดนี้ ต้องมีข่าวดีอยู่แล้ว!” เย่หมิงเป่ยพยักหน้ากล่าว
โจวหมิ่นยิ้มพลางกลอกตาใส่เขา คนๆ นี้ยิ่งอยู่ยิ่งหน้าไม่อายมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
คุณแม่จ้าวกำลังอยู่กับเย่ฉูฉู่ทางฝั่งนี้
นางเองก็ได้ถามลูกสะใภ้คนเล็ก เย่ฉูฉู่ย่อมไม่ปิดบังข่าวดีนี้อยู่แล้ว เมื่อคุณแม่จ้าวรู้ว่าท้องได้เดือนกว่า ๆ แล้ว สีหน้าของหญิงชราจึงเต็มไปด้วยความสุข
“มีก็ดีแล้ว ฉูฉู่ หลังจากนี้ก็ระวังหน่อยนะ สามเดือนแรกสำคัญที่สุด” คุณแม่จ้าวกล่าว
เย่ฉูฉู่ยิ้มพลางกล่าวว่า “คุณแม่คะ ฉันเข้าใจแล้ว พี่สาวใหญ่กับพี่สาวห้าก็บอกฉันแบบนี้เหมือนกัน”
คุณแม่จ้าวอยู่คุยกับลูกสะใภ้คนเล็ก ไม่นานนักจ้าวเหวินเทาก็กลับมา ทั้งยังนำไข่ไก่หนึ่งตะกร้ากลับมาด้วย
“ไข่ไก่มาจากไหนเนี่ย? หลี่เฉียจื่อให้มาเหรอ?” คุณแม่จ้าวถาม
“เปล่าครับ แม่ยายได้ยินว่าภรรยาผมท้องแล้ว ก็รีบเอาไข่ไก่มาให้แล้วบอกให้ผมเอากลับมากินน่ะครับ” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม
คุณแม่จ้าวตื้นตันใจ ไม่อย่างนั้นจะบอกว่าโชคของลูกชายคนเล็กคนนี้ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะเทียบเทียมได้อย่างไรกัน?
นอกจากเรื่องแต่งงานกับลูกสะใภ้สุดสวยอย่างฉูฉู่แล้ว แม่ยายยังเป็นคนใจถึงแบบนี้อีก ในบ้านมีลูกสะใภ้หลายคน มีแต่ตระกูลเย่นี่แหละที่ปฏิบัติต่อลูกสาวอย่างไม่เสียดายแบบนี้
แน่นอนว่านางย่อมปฏิบัติต่อลูกสาวทั้งสองเป็นอย่างดี นี่นับว่าแต่งงานเข้าบ้านก็จะมีนิสัยแบบเดียวกันสินะ?
คุณแม่จ้าวยิ้ม นางย้ำเตือนไม่กี่คำก็กลับไป
“เป็นยังไง มีแล้วใช่ไหม?” ขณะที่คุณแม่จ้าวเพิ่งจะเดินกลับเข้ามา คุณพ่อจ้าวก็ถามขึ้น
อย่าคิดว่าชายชราไม่เคยถามเรื่องพวกนี้ แต่นี่เป็นเรื่องของลูกชายคนเล็ก ไม่เท่ากับลูกชายคนอื่น ลูกชายคนเล็กเพิ่งจะแต่งงานปีนี้ ทั้งยังผ่านมาหลายเดือนแล้วยังไม่มีข่าวดี เขาย่อมกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
คุณแม่จ้าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “มีแล้ว เดือนกว่าแล้วด้วย”
คุณพ่อจ้าวพยักหน้า “แบบนี้ก็ดี” จะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงก็ได้ทั้งนั้น ที่สำคัญคือมีลูกก็พอแล้ว บรรดาผู้หญิงด้านนอกเหล่านั้นจะได้ไม่มานั่งนินทา
คุณแม่จ้าวรู้ว่าเขาคิดอะไร จึงกระซิบว่า “ครอบครัวของเจ้าสี่ก็มีเหมือนกันนะ มีพร้อมกันเลย”
คุณพ่อจ้าวไม่สนใจมากนัก “มีพร้อมกันแล้วยังไง ตอนนี้แยกบ้านแล้ว การใช้ชีวิตของครอบครัวเจ้าหกทั้งสองคนก็ไม่ต้องให้พวกเรามาเป็นกังวลแล้ว”
คุณแม่จ้าวก็ไม่กังวลเรื่องลูกชายคนเล็กและลูกสะใภ้คนเล็ก จึงกล่าวว่า “ลูกของเจ้าสี่คนนี้ ถ้าเป็นลูกสาวอีกคน ฉันว่าหล่อนต้องกังวลแน่เลย”
คุณพ่อจ้าวกล่าว “ลูกสาวก็ดีเหมือนกัน ดูลูกสาวคนโตกับลูกสาวคนที่ห้าสิ กตัญญูกว่าพวกเจ้ารองอีกเสียอีก”
เขาไม่ได้รู้สึกว่าการมีลูกสาวเป็นเรื่องไม่ดี กล่าวถึงผ้าห่มของพวกเขา ผ้าห่มผืนนี้เป็นของที่ลูกสาวคนที่ห้าของเขาทำให้เมื่อปีที่แล้ว อบอุ่นมากเลยล่ะ
“พวกเราคิดแบบนี้ แต่หล่อนไม่ได้คิดเหมือนกับเราน่ะสิ หล่อนไม่ชอบลูกสาว แต่จะว่าไปแล้วหล่อนก็เป็นเหมือนกับแม่ของหล่อนนั่นแหละ ตรงที่คลอดลูกสาวเหมือนกัน”คุณแม่จ้าวกล่าว
ครอบครัวของเจ้าสี่ให้ความสำคัญกับเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง ปฏิบัติต่อซานหยาและซื่อหยาราวกับไม่ใช่คน บางครั้งนางก็ทนไม่ได้อยากจะด่าสักคำสองคำ แต่ต่างคนต่างมีเส้นทางเป็นของตัวเอง
คุณพ่อจ้าวไม่สนใจเรื่องนี้ พูดเพียงแค่ว่า “บอกเจ้าหกให้เอาเนื้อกลับมาให้ภรรยาของเขามากขึ้นหน่อย แม่ม่ายคนนั้นของหลี่เฉียจื่อตอนท้องยังได้กินไก่เลยนะ ฉูฉู่จะน้อยหน้าหล่อนไม่ได้”
ท้ายที่สุดแล้ว เขายังคงลำเอียงไปทางลูกสะใภ้คนเล็กมากกว่านิดหน่อยอยู่ดี แต่จะโทษเขาก็ไม่ได้ เวลาที่ลูกสะใภ้คนเล็กมีของให้รับประทานก็จะเอามาให้พวกเขาทั้งสอง ก่อนหน้านี้ตอนที่ทะเลาะกับครอบครัวของเจ้ารองที่ได้ยกเรื่องเลี้ยงดูตอนแก่ขึ้นมา ลูกสะใภ้คนเล็กก็แสดงความเต็มใจที่จะเลี้ยงดูพวกเขาทั้งคู่ให้อยู่อาศัยด้วยกัน ถึงเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่ภายในใจจะรู้สึกไม่โล่งอกได้อย่างไรกัน?
คุณแม่จ้าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวลหรอก ตอนที่เจ้าหกเอารถสามล้อเครื่องยนต์ไปคืน แม่ของหล่อนยังบอกให้เอาไข่ไก่กลับมาอีกหนึ่งตะกร้าด้วยนะ”
คุณพ่อจ้าวพยักหน้า
คุณแม่จ้าวไม่ได้กล่าวอะไรอีก ในใจหวังว่าลูกของครอบครัวเจ้าสี่ในครั้งนี้จะเป็นลูกชาย
ข่าวการตั้งครรภ์ของฉูฉู่ในตระกูลจ้าวได้แพร่กระจายออกไปแล้ว สิ่งนี้ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่พี่สะใภ้รองจ้าว พี่สะใภ้สามจ้าวและพี่สะใภ้สี่จ้าวต่างก็มาแสดงความยินดีกับเย่ฉูฉู่
เย่ฉูฉู่ก็ทักทายพวกหล่อนด้วย สะใภ้ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ความสัมพันธ์ต่อหน้ายังคงต้องรักษาไว้
“น้องสะใภ้หก การรับรสของเธอในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?” พี่สะใภ้สี่จ้าวที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นมากได้ถามเย่ฉูฉู่ขึ้นพลางพึมพำในใจว่า พอตนตั้งครรภ์น้องสะใภ้หกก็เลียนแบบตั้งครรภ์ตามตน อย่าได้มาชอบรับประทานของเปรี้ยวตามหล่อนเชียวนะ!
“ฉันกินรสชาติจืด ๆ น่ะ แต่อาการแพ้ท้องก็ค่อนข้างรุนแรงใช้ได้ เห็นของคาวไม่ได้เลย” เย่ฉูฉู่กล่าว
พี่สะใภ้สี่จ้าวได้ยินดังนั้นจึงกล่าวทันทีว่า “แค่เริ่มก็สร้างปัญหาแล้วเหรอเนี่ย? จะต้องเป็นเด็กผู้หญิงแน่ ๆ เลย ตอนฉันท้องซานหยากับซื่อหยาก็สร้างปัญหาให้ฉันไม่น้อยเหมือนกัน แต่คนนี้นิสัยดีมาก ความอยากอาหารก็ดีมากด้วย ไม่สร้างปัญหาให้ฉันสักนิดเลย!”
พี่สะใภ้รองจ้าวและพี่สะใภ้สามจ้าวเงียบไป นี่มันโอ้อวดไปทั่วจริง ๆ
คำพูดของครอบครัวเจ้าสี่ช่างไม่น่าฟังเอาเสียเลย
เย่ฉูฉู่ย่อมรู้นิสัยของพี่สะใภ้คนนี้ จึงกล่าวอย่างใจเย็น “ลูกของฉันกับเหวินเทา ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง ขอแค่คลอดอย่างปลอดภัยก็พอแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กผู้ชายหรอก ถึงเป็นเด็กผู้หญิงพวกเราก็ดูแลอย่างดี”
“ใช่แล้ว ๆ เด็กผู้หญิงก็ดีนะ ดูเจ้าเด็กหม่าต้านสิช่วยอะไรได้บ้าง? ต้องเป็นเอ้อร์หยาถึงจะช่วยงานฉันได้” พี่สะใภ้สามจ้าวกล่าว
พี่รองจ้าวก็กล่าว “นั่นน่ะสิ ต้าหยาต่างหากล่ะที่ช่วยงานได้ สองพี่น้องเถี่ยต้านกินเป็นอย่างเดียว!”
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ขอให้คลอดออกมาเป็นเด็กผู้ชายแล้วกันนะคะสะใภ้สี่ ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงอีกคนนี่หน้าแตกเลยนะ
ไหหม่า(海馬)