เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 - ตอนที่ 155 วางแผนใส่ร้าย
ตอนที่ 155 วางแผนใส่ร้าย
อยากได้เงินจนเสียสติไปแล้วสินะ!
“เฮอะ” ซูหวานหว่านกระตุกยิ้มเย็นชา “ลูกของเจ้าดื่มเหล้าจนสลบไป ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เจ้าไม่สนใจแม้แต่จะดูอาการของเขา ไม่ยอมให้ข้าตรวจและรักษาเขา แต่กลับเรียกร้องขอเงินชดใช้น่ะรึ เป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้เสียจริง ๆ!”
หวังเซียนซูเกิดอาการหวาดกลัวเล็กน้อย ชาวบ้านที่อยู่รอบข้างชี้ไปยังชุดแต่งงานที่ซูหวานหว่านสวมใส่อยู่ “ชุดแต่งงานของแม่นางซูมีราคาแพง นางจะตระหนี่เงินเล็กน้อยเพียงนี้ทำไม เรื่องวางยายิ่งไม่ต้องกล่าวถึง ชีวิตคนอยู่ตรงหน้าทั้งคน เจ้าควรให้นางรักษาลูกชายของเจ้าก่อนสิ!”
ฉีเฉิงเฟิงก้าวเท้าเดินเข้ามา ชายหนุ่มจับมือซูหวานหว่านและมองไปที่หวังเซียนซู “ท่านป้า ตอนนี้มีชีวิตเป็นเดิมพัน โชคดีที่ภรรยาของข้าเป็นหมอ หากว่าลูกของท่านโดนวางยาพิษจริง ๆ เราควรรักษาเขาให้เร็วที่สุด เรื่องจ่ายเงินชดใช้ค่อยว่ากันหลังรักษาเขาเสร็จแล้ว”
“ไม่ได้! ยังไงก็ต้องจ่ายมาก่อน!” หวังเซียนซูยังคงไม่พอใจ แต่ถึงอย่างนั้นฉีเฉิงเฟิงก็จูงมือซูหวานหว่านเดินเข้าไป หญิงวัยกลางคนการต้องห้ามพวกเขาเอาไว้แต่ก็ถูกชาวบ้านที่ทนไม่ไหวห้ามไว้ ทั้งยังถูกตำหนิ
ซูหวานหว่านยื่นนิ้วออกมาสำรวจลมหายใจของหวังปา ทว่ามันกลับทำให้นางยิ่งนิ่งอึ้งในทันใด เด็กสาวหลับตาเผยสีหน้าเศร้าสร้อย “เขา…ตายแล้ว”
หวังเซียนซูตื่นตกใจยืนตัวแข็งอยู่ที่เดิม สีหน้าราวกับไม่อยากเชื่อ ทันใดนั้นเหมือนนางจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ตวัดสายตาไปมองซูหวานหว่านพร้อมทั้งถ่มน้ำลายออกมา “เจ้าพูดอะไรออกมา! นังหมอเถื่อน ลูกของข้ายังไม่ตาย ลูกของข้าตายไม่ได้ เขาไม่ได้ถูกวางยาพิษ! ข้าไม่ได้ให้เขากินเข้าไป…”
เมื่อพูดถึงประเด็นสำคัญ หวังเซียนซูก็เหมือนจะรู้สึกตัว และรีบปิดปากไม่กล่าวคำใดอีก
ชาวบ้านใจกล้าสองคนก้าวดุ่ม ๆ มาข้างหน้า และตรวจสอบลมหายใจของหวังปา ก่อนจะส่ายหัวออกมา หวังเซียนซูจึงได้รู้ว่าซูหวานหว่านไม่ได้โกหกนาง ใบหน้าของนางเผยความเสียใจ มองไปยังร่างกายที่นอนแน่นิ่งไม่ขยับของผู้เป็นลูกชาย แล้วร้องได้ออกมา “ลูกชายแม่! เจ้าฟื้นขึ้นมาสิ อย่าทำให้แม่ตกใจ!”
พูดจบ นางก็เดินฝ่าฝูงชนเข้าไปหาซูหวานหว่าน “ซูหวานหว่าน! เจ้าต้องชดใช้ให้ลูกชายข้า จ่ายเงิดชดเชยมา!”
“ท่านทำให้ลูกชายของท่านตายด้วยตนเอง หากแต่ยังไม่ลืมที่จะมาขอเงินจากข้าอีกรึ? นี่มันน่าขันเกินไปแล้ว!” ฉีเฉิงเฟิงยกขาขึ้นสะกัดหวังเซียนซูที่มุ่งอาจเข้ามาจนล้มลง
ซูหวานหว่านตรวจสอบร่างกายของหวังปาอีกครั้ง และพบผงสีขาวติดอยู่บริเวณซอกเล็บของเขา ดวงตาของนางพลักเบิกกว้าง “นี่ไม่ใช่ขี้เถ้าหญ้ารึ เจ้าให้เขากินขี้เถ้าหญ้า? เจ้าอยากให้ครอบครัวข้าจ่ายเงินชดใช้ให้ถึงขนาดวางยาลูกชายตนเองเลยรึ!”
“ไม่ใช่นะ! เจ้าพูดไร้สาระ!” หวังเซียนซูตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน ส่ายหัวด้วยความร้อนรน “เป็นขี้เถ้าหญ้าไม่ได้ เห็นได้ชัดว่ามันคือยาเบื่อหนู เมื่อวานข้าอยากจะเอายาเบื่อหนูให้เขา แต่เขาบอกว่าเขาแสดงได้อย่างแน่นอน และไม่ได้กินมัน…ใครจะไปคิดว่าเขาจะเอาไปถือเล่น วันนี้ข้าล้างมือให้เขาแล้ว ใครจะรู้ว่ามันจะยังติดเล็บของเขาอยู่!”
สีหน้าของหวังเซียนซูแปรเปลี่ยนไปทันใด นางกัดฟันกรอด “กล้าดียังไงถึงหลอกข้า!”
พูดจบนางก็พุ่งตัวเข้าไปทุบตีซูหวานหว่าน หากแต่ก็ถูกชาวบ้านขวางเอาไว้
“ทุกท่าน พวกท่านยังอยากให้หญิงที่ฆ่าลูกตัวเองอยู่ในหมู่บ้านหรือไม่?” ร่างกายของซูหวานหว่านรู้สึกเย็นวาบ มันก็แค่เงินเหตุใดถึงมักมีคนโลภจ้องจะอยากได้มันอยู่เสมอ และคนโลภมากนั้นก็คือหวังเซียนซูที่ทั้งโง่เขลาและทำร้ายคนอื่น
ชาวบ้านปรึกษาหารือกัน จับตัวของหวังเซียนซูมัดเอาไว้ หลังจากนั้นบอกกับสามีของหวังเซียนซูว่าจะเอานางไปขังไว้ในคอกวัว รอพิธีแต่งงานของซูหวานหว่านเสร็จสิ้น ค่อยไล่นางออกจากหมู่บ้านไป
ร่างของหวังปาถูกตระกูลหวังพากลับไปแล้ว แต่เนื่องจากเป็นเด็กจึงไม่อนุญาตให้จัดพิธีศพ เวลานี้ในหมู่บ้านมีทั้งงานแต่งและงานศพ เดิมทีแล้วพวกเขาก็อยากจะไปช่วย หากแต่ตระกูลซูเองก็มั่งคั่ง มีเนื้อปลา เนื้อสัตว์ดี ๆ ที่พวกเขาหากินไม่ได้ในช่วงปีใหม่ จึงไม่อาจจะตัดใจออกจากพิธีแต่งงานไปได้ หลายคนยังอยู่กินดื่มที่บ้านของซูหวานหว่าน แต่บรรยากาศก็ไม่ได้ครึกครื้นเท่าใดนัก
ในยามนี้ อีกแค่สองชั่วยามท้องฟ้าก็จะมืดลงแล้ว ยังมีงานฉลองมื้อเย็นอีกหนึ่งมื้อ ซึ่งชาวบ้านต่างมากินอาหารเพื่อเฉลิมฉลองงานแต่งงานครั้งนี้ ซูหวานหว่านไม่ชอบชุดแต่งงานที่มีน้ำหนักมากเช่นนี้ จึงผละตัวไปเปลี่ยนเป็นชุดสีชมพูตามประเพณีฉลอง ทันใดนั้นก็พบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดสีชมพูอยู่ภายในงาน นางคือฮวงอี๋ฮวน
ฮวงอี๋ฮวนกำลังนั่งกินดื่มอย่างสบายอุรา หากแต่ทุกคนไม่ได้เข้าไปชนแก้วกับนาง กลายเป็นนางเองที่จับจอกเหล้า ด้วยความที่คอเสื้อของนางกว้างจนเผยให้เห็นห่อที่ซ่อนเอาไว้ ทำให้ซูหวานหว่านรู้สึกสงสัย อยากเข้าไปกระชากยาห่อนั้นออกมา เมื่อคิดได้ก็รีบเดินเข้าไปทันที
เมื่อเดินเข้าไปก็ได้ยินบรรดาชาวบ้านพูดคุยกันเรื่องหวังเซียนซูใช้ลูกชายแกล้งเป็นคนถูกวางยา แต่ใครจะไปคิดเล่าว่าจะกลายเป็นนางฆ่าลูกของตนเอง ชาวบ้านต่างพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง’ ทำให้ฮวงอี๋ฮวนที่ได้ยินเกิดอาการตื่นตระหนก จนห่อกระดาษสีเหลืองเปิดออก มีผงสีขาวจำนวนไม่น้อยกระจายออกมา
ผงสีขาวหกลงบนจอกเหล้า ฮวงอี๋อวนรีบเก็บห่อกระดาษอย่างรวดเร็วแต่ก็ถูกใครคนหนึ่งจับข้อมือเอาไว้ นางรู้สึกกระวนกระวายใจ ใบหน้าค่อย ๆ ขึ้นสีแดงราวกับถูกจับได้ “เจ้ากำลังทำอะไร!”
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเป็นซูหวานหว่าน โทสะในใจถูดแผดเผาขึ้นมาอีกครั้ง “ซูหวานหว่าน! ถึงแม้ว่าข้าจะชอบฉีเฉิงเฟิง แต่เจ้าไม่สามารถห้ามไม่ให้ข้าอวยพรแก่เจ้าได้ เจ้าจะคิดเล็กคิดน้อยไปไย?”
“เจ้ารู้ดีอยู่แก่ใจว่าเจ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่ กลางวันแสก ๆ ยังกล้าที่จะวางยาพิษ เจ้าคิดว่าข้าตาบอดงั้นรึ?” นกบนท้องฟ้าส่งเสียงกระซิบ และเพราะพลังวิเศษทำให้นางเข้าใจได้ทันที ว่าห่อสีเหลืองนั่นต้องเป็นยาพิษอย่างแน่นอน!
ไม่น่าแปลกใจที่มือของนางจะสั่นถึงเพียงนี้ เพราะได้ยินเรื่องของหวังเซียนซูจะไม่ให้ตื่นตระหนกได้อย่างไร?
“เจ้าไม่มีสิทธิ์ใส่ร้ายข้า!” ฮวงอี๋ฮวนกล่าว นางออกแรงบิดข้อมือออกจากพันธนาการของซูหวานหว่าน นางมองไปยังชาวบ้านรอบ ๆ แล้วโวยวายออกมาเสียงดัง “ทุกท่านมาดูเอาเถิด! ซูหวานหว่านไม่ยอมให้ข้ากินข้าวที่นี่!”
มีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยออกตัวพูดแทนฮวงอี๋ฮวน ซูหวานหว่านหันไปมองฮวงอี๋ฮวน จากนั้นรอยยิ้มน่ากลัวปรากฏบนใบหน้า “เจ้าสามารถอยู่กินข้าวที่นี่ได้ แต่ว่า เพื่อความความปลอดภัยของชาวบ้าน เจ้าต้องเอายาเบื่อหนูออกมาเสียก่อน”
ทันทีที่เอ่ยจบ ร่างกายของฮวงอี๋ฮวนก็สั่นไหวด้วยความหวาดกลัว แต่ยังทำใจกล้าพูดออกมา “เจ้าโกหก! บนร่างกายข้ามียาเบื่อหนูที่ไหนกัน ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย!”
ซูหวานหว่านพยายามพูดอะไรบางอย่าง แต่แม่เจิ้นก็เดินออกมาจากในห้องเสียก่อน “หวานเอ๋อร์ เจ้าเข้าไปพักผ่อนในห้องเถอะ วันนี้อาจจะเป็นเพราะหวังเซียนซูมาก่อเรื่องเอาไว้จึงทำให้เจ้าหวาดระแวงก็ได้ หากแต่ฮวงอี๋ฮวนยังเด็กอยู่ มันไม่สามารถเอามาเทียบกันได้! นางไม่วางยาหรอก”
ชาวบ้านต่างเห็นด้วยกับคำพูดนี้ และสั่งให้ซูหวานหว่านกลับไปพักผ่อน
ฮวงอี๋ฮวนรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก ทว่าทันใดนั้นก็มีคนยกโถเหล้าที่อยู่ด้านหน้าของฮวงอี๋ฮวนเทใส่จอกเหล้าของตนเอง เขากำลังจะดื่มมันลงไป แต่ซูหวานหว่านกลับหยิบก้อนหินขึ้นมาปาใส่จนเกิดเสียงเพล้ง “มันดื่มไม่ได้! ในนั้นมียาพิษ!”
กล่าวจบก็มองไปที่ฮวงอี๋ฮวน “ทุกคนเลิกพูดไร้สาระได้แล้ว! หากอยากรู้ว่ามีพิษหรือไม่ก็จับตัวนางเอาไว้!”
ฮวงอี๋ฮวนตื่นตระหนก และรีบพูดออกมาว่า “ท่านป้า! เมื่อซูหวานหว่านนั้นไม่ต้อนรับข้า เช่นนั้นแล้วข้าขอตัวก่อน!”
แต่เมื่อเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว ก็บังเอิญชนและล้มไปในอ้อมแขนของชายคนหนึ่ง นางเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเป็นฉีเฉิงเฟิง นางสะดุ้งตกใจและมองอยู่อย่างนั้น ทันใดนั้นก็มีบางอย่างตกลงมาจากแขนเสื้อของนาง หญิงสาวก้มหน้าลงและพบว่ามันคือยาเบื่อหนู
ฮวงอี๋ฮวนเมื่อเห็นแบบนั้นนางก็เกิดอาการตื่นตระหนกทันที มันจบแล้ว! นางแย่แน่!