เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 - ตอนที่ 306 ทำคุณบูชาโทษ
ตอนที่ 306 ทำคุณบูชาโทษ
ตอนที่ 306 ทำคุณบูชาโทษ
ซูหวานหว่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และรู้สึกว่าตนเองคุ้นหน้าหมอฉินผู้นี้อย่างบอกไม่ถูก หลังจากที่คิดไปคิดมา นางก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่นางหนีออกมาแล้วกลับไปยังบ้านของตัวเองนางเห็นหมอฉินผู้นี้อยู่ที่บ้านของนาง!
ในตอนนั้นหมอฉินเองก็ได้มารักษาอาการป่วยของแม่จ้าวด้วย หากแต่มันไม่ได้ผล ต่อมานางก็มาบังเอิญพบว่ายาที่แม่จ้าวกินอยู่คือยาพิษ และนางก็คิดว่าคนที่ทำเรื่องนั้นก็คือหมอฉิน
นางคิดไม่ถึงเลยว่านายท่านเฉียนจะไปเชิญหมอที่มีประพฤติกรรมชั่วช้าเช่นนี้มารักษาอาการป่วยของฮูหยินเฉียน! นอกจากนี้เขานั้นยังจะแจ้งทางการมาจับกุมตัวนางไปอีก! ซูหวานหว่านกระตุกยิ้มและถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แตกต่างไปจากเดิม หมอฉินตกใจมาก และมองสำรวจใบหน้านางอย่างรอบคอบ และรู้สึกว่าคำพูดคำจาของนางมันเหมือนกับซูหวานหว่านมาก
อย่างที่ทุกคนรู้ว่านางคือซูหวานหว่านตัวจริงเสียงจริง! วันว่าง ๆ ซูหวานหว่านจะนั่งทำหน้ากากเอาไว้มากมาย วันนี้นางจึงนำมันมาใส่
“เจ้าคงจะมองเห็นชัดเจนแล้วใช่ไหม? ถ้าเจ้าเป็นหมอแล้วมีสายตาไม่ดีคงจะแย่เสียแล้ว” ซูหวานหว่านพูดพร้อมกับยิ้มออกมา หญิงสาวหยิบยากล่องยาออกมาแล้วพูดว่า “ยานี้ มันดีต่อตาและตับของเจ้านะ ข้าให้!”
ซูหวานหว่านกำลังยั่วโมโหเขา! สีหน้าของหมอฉินพลันเปลี่ยนไปแล้วพูดว่า “เจ้าไม่ใช่คุณหนูจ้าว แล้วมาที่นี่ทำไมกัน? ข้ามาที่นี่เพราะว่ามีผู้สูงศักดิ์แนะนำข้ามาให้มาดูอาการป่วยของฮูหยินเฉียน และเจ้านั้นก็เป็นแค่เด็กมีสิทธิ์อะไรที่มาแย่งงานของข้าไปกัน?”
เมื่อได้ยินหมอฉินพูดออกมาว่า ‘ผู้สูงศักดิ์’ ซูหวานหว่านก็รู้สึกแปลกใจและเกิดความอยากรู้อยากเห็นจึงถามออกมาว่า “ใครคือผู้สูงศักดิ์ที่เจ้ากำลังพูดถึง?”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้” หมอฉินพูดออกมา และพูดสั่งคนใช้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ว่า “พวกเจ้ารีบไล่พวกเขาสองคนนี้ออกไป! ดูจากอายุของพวกเขาแล้ว ท่าทางจะยังเด็กจะไปเชี่ยวชาญหรือรู้เรื่องอะไรกัน!”
“ขอรับ..” คนรับใช้ก็ตอบรับและรีบปิดประตูทันที
หากแต่ซูหวานหว่านกลับเอื้อมมือออกไปข้างหนึ่งไปขวางประตูเอาไว้ได้ทันท่วงที พร้อมกับใช้มืออีกข้างหยิบจดหมายออกมา และเอ่ยยั่วโมโหหมอฉินว่า “ข้าไม่รู้ว่าใครคือผู้สูงศักดิ์คนนั้นที่แนะนำเจ้ามา แต่คนที่ขอให้ข้านั้นมาที่นี่ก็คือฮวงอวี๋อี”
“ฮวงอวี๋อี?” คนรับใช้ผงะไปครู่หนึ่งและเปิดประตูทันที แต่ในตอนนั้นเองที่นายท่านเฉียนเดินออกมา
“เจ้าเป็นคนของฮวงอวี๋อีที่ส่งมาอย่างงั้นหรือ?” นายท่านเฉียนพูดออกมาด้วยด้วยสีหน้าที่มีความสุข เพราะฮวงอวี๋อีนั้นเป็นหมอหลวงที่ได้เป็นคนรักษาโรคให้กับฮ่องเต้!
“ใช่แล้ว” ซูหวานหว่านก็ได้ยื่นจดหมายออก และตัวหนังสือที่เขียนเอาไว้นั้นก็เป็นสิ่งที่ซูหวานหว่านเขียนเลียนแบบขึ้นมาเอง แน่นอนว่านายท่านเฉียนนั้นไม่รู้เรื่องนี้ อีกทั้งเขายังเชื่อซูหวานหว่านอย่างสนิทใจ แล้วยิ้มออกมาทันที “แม่นางน้อย งั้นข้าขอเชิญเจ้าเข้าไปข้างใน”
“นายท่านเฉียน! ถ้าเจ้าปล่อยให้สาวน้อยคนนี้ดูอาการให้กับฮูหยินเฉียนแล้วล่ะก็ ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ให้เกียรติหน้าข้า! และข้าก็จะถือว่าเจ้านั้นไม่เชื่อทักษะฝีมือทางการรักษาของข้าอีกด้วย! หากเป็นอย่างนั้นข้าคงจะต้องขอตัวกลับ!” หมอฉินกล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อยและผิดหวัง เขามองเข้าไปข้างในบ้านและถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “วันนี้ข้าได้ต้มยาให้กับฮูหยินเฉียนเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการที่เรามาอยู่ที่นี่ก็ถือว่ามันเป็นพรหมลิขิต”
เขากำลังเอ่ยวาจาเสียดสีนางอยู่
ซูหวานหว่านแอบหัวเราะเงียบ ๆ อยู่ในใจ ฝีมือก็ไม่เลวเลยนี่! แต่ว่านางเป็นคนฉลาดกว่า!
ซูหวานหว่านได้สูดดมกลิ่นยาที่ลอยมาตามอากาศเข้าไป แล้วพูดออกมาว่า “เจ้ากำลังต้มยาที่มีสมุนไพรถึงแปดชนิด แต่ว่าพวกมันนั้นต่างมีชนิดที่ขัดแย้งกัน เจ้าทำแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน? เจ้าต้องการทำให้อาการของฮูหยินเฉียนแย่ลงไปกว่านี้อีกอย่างงั้นหรือ? ถ้าข้าเดาไม่ผิด ยาสมุนไพรทั้งแปดชนิด นั้นคงจะเป็นไป๋จื่อ [1]…”
ซูหวานหว่านเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ และก่อนที่นางจะพูดจบ หมอฉินก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “เจ้าโอ้อวดตัวเองว่าฮวงอวี๋อีนั้นเป็นคนส่งตัวเจ้ามา แต่ว่าเจ้าไม่สามารถที่จะดมกลิ่นยาออกมาได้ทั้งหมด ยาที่ต้มนั้นมันมีสมุนไพรที่รวมกันอยู่แค่ห้าชนิดเท่านั้น! มันจะมีแปดชนิดได้อย่างไรกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
“เจ้าคงจะขบขันมากเลยสินะ” นายท่านเฉียนเผยรอยยิ้มเย็นชา ให้คนใช้ถือลูกพลับที่อยู่ในมือเขากลับเข้าไปในบ้าน จากนั้นสั่งให้คนรับใช้อีกคนหนึ่งเก็บสัมภาระของหมอฉิน และพูดออกมาว่า “พอมองดูแล้ว ซูหวานหว่านอาจจะพูดออกมาตามอำเภอใจ แต่นางกลับเตือนสติอะไรบางอย่างของข้าขึ้นมาได้ ข้าได้ดูจากใบสั่งยาที่เจ้านั้นเขียนมา มันก็มีสมุนไพรอย่างน้อยยี่สิบชนิดด้วยกัน และเจ้าก็คิดค่ารักษาเป็นเงินวันละสามร้อยตำลึง ถ้ารวมกับค่ายาอีกก็ราว ๆ หนึ่งพันตำลึงได้”
หมอฉินตื่นตระหนกทันที ในตอนนั้นเขามีความสุขเกินไปเลยพลั้งปากพูดเรื่องนี้ออกมา! คิดไม่ถึงเลยว่าเขานั้นจะถูกนายท่านเฉียนมองออก! เขาจึงแกล้งหัวเราะออกมาทันทีและพูดว่า “นายท่านเฉียน ข้าเพียงล้อเล่นเท่านั้นเอง!”
“เจ้าคิดว่าข้าจะหลงกลโง่เชื่อคำพูดของเจ้างั้นเหรอ?” นายท่านเฉียนส่ายหัวไปมา หยิบของที่คนใช้นั้นส่งออกมาแล้วโยนทิ้งลงไปกับพื้น แล้วพูดออกมาว่า “ไสหัวออกไปให้พ้น!”
“นายท่านเฉียน!” หมอฉินขอร้องอย่างอ้อนวอน หากแต่นายท่านเฉียนไม่ได้สนใจ กลับหันไปสนใจพูดกับซูหวานหว่านอย่างสุภาพว่า “แม่นางน้อย เชิญด้านใน”
เมื่อซูหวานหว่านก้าวเข้ามาข้างในห้อง นางก็ได้กลิ่นยาฉุนกึกลอยทั่วอากาศ แล้วก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนหน้าซีดนอนอยู่บนเตียง ข้างเตียงมีจานลูกพับถูกวางเอาไว้ ซูหวานหว่านเดินเข้าไปตรวจชีพจรของฮูหยินเฉียน แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย และกำลังจะพูดขึ้นแต่นางก็เห็นเงาคนที่ยืนอยู่ที่ตรงมุมประตูทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แต่ถ้าลองสังเกตมองดี ๆ แล้วนั่นก็คือหมอฉินนั้นเอง!
ซูหวานหว่านคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดออกมาว่า “นายท่านเฉียน ยาที่หมอฉินเป็นคนเขียนสั่งนั้น มันได้รักษาอาการป่วยโดยตรง…”
“นังเด็กเจ้าเล่ห์! มาใส่ร้ายว่าข้าวางยาพิษให้กับฮูหยิน ตอนนี้กลับมาบอกว่าใบสั่งยาที่ข้านั้นสั่งไปมันถูกต้องแล้ว!” หมอฉินกระโดดเข้ามาทันทีและยิ้มอย่างมีชัยให้กับซูหวานหว่าน หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ดูเหมือนว่าเขากำลังมีความสุขมากเลยสินะ นางเข้าไปจับมือหมอฉินเอาไว้ แล้วหยิบผ้าที่วางไว้บนขอบหน้าต่างมามัดมือเขาทันที
ทุกคนต่างตะลึงกับการพลิกผันแบบนี้ หมอฉินรู้สึกสับสนมาก ทันใดนั้นรอยยิ้มของเขาก็เปลี่ยนไปแข็งทื่อทันที “เจ้าไม่ได้บอกเองเหรอว่าใบสั่งยาที่ข้าสั่งไปมันถูกต้องและเหมาะแก่การรักษา แล้วทำไมเจ้าถึงมาจับข้ามัดไว้แบบนี้!”
“เจ้าโง่จริง ๆ ที่วางยาพิษ” ฉีเฉิงเฟิงอดไม่ได้ที่จะอธิบายออกมา “นางบอกว่าใบสั่งยาที่เจ้านั้นสั่งมาถูกต้องแล้ว นางก็แค่หลอกล่อเจ้าออกมาเพื่อที่จะจับกุมเท่านั้นเอง แล้วใครเป็นคนสั่งให้เจ้าวางยาพิษให้กับฮูหยินแรงขนาดนี้?”
อาการตกใจที่นายท่านเฉียนแสดงออกมาค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงเต็มไปด้วยความสับสน “เจ้าสองคนกำลังหมายความว่าอย่างไรกัน?”
ซูหวานหว่านหยิบเข็มเงินออกมาแล้ววางลงบนโต๊ะ และนำมันฝังลงไปตามจุดต่าง ๆ บนร่างกายของฮูหยินเฉียนแล้วพูดออกมาว่า “นายท่านเฉียน ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาต้มยาที่ขัดกับอาการป่วยของฮูหยิน นางก็คงจะไม่ป่วยหนักขนาดนี้ ตอนนี้ข้าได้ช่วยเจ้าจับคนวางยาพิษได้แล้ว เจ้าตัดสินใจเองแล้วกันว่าจะจัดการกับเขายังไงต่อไป”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เรื่องที่หมอฉินนั้นเป็นคนวางยาพิษ นายท่านเฉียนพยักหน้าออกมาและกล่าวว่า “ขอบคุณ แม่นางน้อย”
“ด้วยความยินดี” ซูหวานหว่านพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ที่จริงแล้วหญิงสาวไม่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อฮูหยินเฉียนเพียงเท่านั้น หากแต่นางนั้นมีเหตุผลส่วนตัว เพราะว่าหมอฉินผู้นี้ก็เคยวางยาพิษแม่จ้าวด้วยเช่นกัน! เช่นนั้นนางจะยอมได้อย่างไร!
ซูหวานหว่านค่อย ๆ ดึงสายตาแห่งความปรานีออกจากดวงตาตัวเอง แล้วกลับมาสนใจสิ่งตรงหน้าทันที นางดึงเข็มเงินออกมาและขอเทียนไขจากนายท่านเฉียน ก่อนจะขอให้ทุกคนออกไปรอข้างนอก “ข้ากำลังจะเริ่มรักษา มันคงจะไม่เหมาะหากพวกผู้ชายอยู่ในที่นี้ ได้โปรดออกไปรอข้างนอกก่อน”
นายท่านเฉียนพยายามระงับอารมณ์ และยอมออกมารอข้างนอก ยืนอยู่รออยู่นอกประตูหน้าห้องด้วยความกังวล พลางเข้าไปข้างในห้องเป็นครั้งคราว ฉีเฉิงเฟิงก็กล่าวออกมาว่า “นายท่านเฉียน เจ้าอย่าเพิ่งเป็นกังวลไป หญิงที่อยู่ข้างในนางเป็นลูกศิษย์ของฮวงอวี๋อี”
“ลูกศิษย์?” ผ่านไปสักครู่หนึ่ง นายท่านเฉียนรู้ถึงตัวตนของซูหวานหว่าน และเขาเองรู้สึกประหม่ามากจนมือไม้ของเขานั้นอยู่ไม่เป็นสุข และรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที
ผ่านเวลาไปนานพอสมควร ประตูห้องที่ถูกปิดเอาไว้เป็นเวลานานทั้งสองบานก็ถูกเปิดออก ซูหวานหว่านก็เดินออกมาพร้อมกับกล่องยา แล้วขยิบตาให้กับฉีเฉิงเฟิงและดึงเขาหายไปกับสายลม
ปลายจมูกได้กลิ่นเลือด นายท่านเฉียนรีบวิ่งมาที่ประตูทันที ฮูหยินเฉียนก็ชำเลืองมองดูพวกเขาทั้งสองคน แล้วอาเจียนออกมาเป็นเลือดสีดำ พร้อมกับหลับตาลงอีกครั้ง ฮูหยินเฉียนตกใจมาก เมื่อเห็นการกระทำของซูหวานหว่านในตอนนี้นางก็รู้สึกอยากที่จะวิ่งหนีออกไปและนางก็พูดออกมาว่า “ใครก็ได้! เข้ามาที่นี่ที! มาจับตัวพวกเขาสองคนนั้นเอาไว้ให้ข้าที!”
[1] ไป๋จื่อ หรือ โกฐสอ บรรเทาอาการหวัดจากการกระทบลมเย็นภายนอก บรรเทาอาการปวด ศีรษะ ปวดฟัน ลดอาการคัดจมูก