เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 - ตอนที่ 84 พิษกู่
หลี่หยวนเอ๋อร์คือนามแฝงของฉีเฉิงเฟิง มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่รู้ แสดงว่าชายชุดดำที่มาในวันนี้เป็นคนของสตรีผู้นั้นที่สั่งมา!
ซูหวานหว่านยิ้มเย้ยหยัน หญิงสาวผู้นั้นไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่คิดไว้ ทำทีเสแสร้งกล่าวคำอวยพร แต่แท้จริงแล้วคิดหวังทำร้ายนาง!
ฟังจากสำเนียงของชายชุดดำแล้วดูเหมือนว่าพวกมันจะมาจากเมืองหลวง แน่นอนว่าทั้งสามนั้นก็คงมาจากเมืองหลวงเช่นเดียวกัน! ดูเหมือนว่าศัตรูหัวใจของนางจะมีนิสัยโหดเหี้ยมสินะ!
ซูหวานหว่านเผยรอยยิ้มเย็นชา นางหยิบห่อเข็มเงินที่ฮวงเหล่าให้ไว้ออกมา จากนั้นจึงหยิบเข็มเล่มที่บางและยาวที่สุดออกมาสองสามเล่ม แล้วกำเอาไว้ในมือของตนเอง นางเดินไปโดยรอบช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าต้องการมาเอาชีวิตของข้าอย่างงั้นหรือ? ข้าอยู่นี่แล้ว หากเจ้ามีความสามารถพอก็เข้ามาเอาชีวิตของข้าได้เลย”
“หึ เจ้าจะได้เห็นดีแน่!” ชายชุดดำหมุนดาบในมือเตะเท้าลงบนพื้น ก่อนจะพุ่งตัวไปทางซูหวานหว่านอย่างไม่สนใจฮวงเหล่า นางยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว จนกระทั่งชายชุดดำถือดาบพุ่งเข้ามาห่างจากนางเพียงเล็กน้อย
เข็มเล่มเล็กในมือซูหวานหว่านพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า เข็มทั้งสามเล่มฝังไปตามร่างกายของชายชุดดำทั้งหมด พลันใดความเจ็บปวดก็แล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างกาย ทำให้เขาไร้เรี่ยวแรง ดาบร่วงลงบนพื้น
ชายชุดดำจ้องไปที่ซูหวานหว่าน ดวงตาของเขาเบิกกว้างราวกับไม่อยากจะเชื่อ
ซูหวานหว่านปรบมือก่อนจะบิดตัวยืดเส้นยืดสาย ฮวงเหล่าเดินเข้ามาสายตาของเขาจ้องมองซูหวานหว่านพร้อมเอ่ยว่า “ไม่ง่ายเลยที่จะมีคนมาให้เราลงมือฝึกทักษะด้วย เมื่อก่อนอาจารย์ของเจ้าก็เป็นคนมีทักษะเก่งกาจ มากความสามารถ ข้าเองก็ไม่ได้ลงมือเช่นนี้มานานแล้ว! เจ้าศิษย์คนนี้ทำให้ข้าเสียโอกาสเสียแล้ว ข้าไม่พอใจมาก!”
ฮวงเหล่าชอบพูดอยู่บ่อยครั้งว่าตนเองเก่งเพียงใด คนนอกมักมองว่าเขาสติปัญญาไม่ดี ทว่าซูหวานหว่านคิดว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาทั้งหมดเป็นความจริงถึง 70 ส่วน
“เขายังไม่ตายเสียหน่อยเจ้าค่ะ ยังมีชีวิตอยู่ หากท่านอยากจะขังเขาเอาไว้เพื่อใช้ฝึกวิชาของท่านในทุกวันก็ย่อมได้ อีกทั้งร่างกายของเขายังแข็งแรงมาก คงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอกเจ้าค่ะ!” ซูหวานหว่านกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม
สองคนนี้เป็นใครกันแน่! เหตุใดพวกเขาถึงแข็งแกร่งเพียงนี้? ชายชุดดำรู้สึกสิ้นหวัง “เร็วสิ! หากเจ้าต้องการฆ่าข้าก็ทำเสีย! หากรอดไปได้ ข้าไม่มีวันปล่อยให้พวกเจ้าสองคนจับข้าไปทรมานแน่!”
“โอ้?” ซูหวานหว่านยิ้มเยาะ นางจับชายชุดดำคนนั้นอ้าปากออกเพื่อตรวจสอบว่ามีพิษอยู่หรือไม่ จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบร่างกายของเขาและนางก็พบว่าเขาไม่ใช่นักฆ่ามืออาชีพ ร่างกายภายนอกของเขามีแต่รอยแผลฟกช้ำ อีกทั้งยังมีรอยแผลเป็นเต็มไปหมด เหมือนกับเป็นคนรับใช้ในบ้านของชนชั้นสูงเสียมากกว่า
ซูหวานหว่านตรวจสอบร่างกายของชายชุดดำอีกครั้ง ทันใดนั้นฮวงเหล่าก็หยิบขวดขนาดเล็กและเทยาเม็ดสีเขียวออกมา ก่อนจะยิ้มให้ซูหวานหว่าน “ลูกศิษย์ให้เขากินยานี่เสีย! ยานี้เรียกว่าตวนช๋าง เป็นยาตัดลมหายใจ ในเวลา 20 ชั่วยามหัวใจของเขาจะหยุดเต้น ถึงแม้ว่าภายในร่างกายของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดก็ตาม เขาจะตายและมีชีวิตหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่าข้าจะให้ยาถอนพิษหรือไม่ พรุ่งนี้ข้าจะใช้เขาฝึกวิชาทดลองยา แล้วจะให้ยาแก้พิษเขาแล้วก็ให้ยาพิษอีกและก็ให้ยาแก้พิษเขา แบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ …”
ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก! ชายชุดดำเบิกตากว้าง “พวกเจ้าใช้ดาบแทงข้าก็จบแล้ว!”
ซูหวานหว่านมองชายชุดดำ นางต้องการที่จะฆ่าเขาให้ตายเสียตอนนี้ ทว่านางก็เกรงว่าคนพวกนั้นจะส่งคนมาอีก แน่นอนว่ามันจะต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาอีกแน่นอน และนั่นแหละปัญหา! หรือว่านางจะต้องหาคนมาคุ้มกัน?
คนที่จะมาคุ้มกันนางก็อยู่ตรงหน้านางตอนนี้ไง?
ซูหวานหว่านคลี่ยิ้มมองไปที่ท้องของชายชุดดำก่อนจะกดลงเบา ๆ ชายชุดดำกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด “ในทุกเช้าบริเวณท้องของเจ้าจะมีอาการปวดขึ้นมาใช่หรือไม่? ดูเหมือนว่ามีบางสิ่งอยู่ในท้องของเจ้านะ”
“หากเจ้าอยากฆ่าก็ฆ่าทิ้งเสียตอนนี้เลย! อย่ามัวพูดจาไร้สาระ!” ชายชุดดำตะโกนออกมา
ฮวงเหล่าตกใจมาก เขาเป็นหมอมาหลายสิบปีแล้วยังไม่สามารถมองเห็นโรคได้ในทันที ทว่าเหตุใดซูหวานหว่านถึงรู้ได้กัน? ฮวงเหล่าเดินเข้าไปกดที่หน้าท้องของชายผู้นั้น พร้อมฉีกเสื้อผ้าของเขาออก แล้วก้อนเนื้อหนาทึบก็นูนขึ้นมาบนท้องของชายชุดดำ เมื่อเขาลงไปกดเบา ๆ ก็รู้สึกแรงเคลื่อนไหวอยู่ด้านใต้
“นี่เป็นของปลุกเสกที่มาจากแม่หมอใจดำบนเกาะตงโจว ส่วนใหญ่จะเรียกกันว่าพิษกู่*[1] ส่วนมากคนที่ไม่ประสงค์ดีจะแอบใส่พิษกู่ลงไปในอาหาร เมื่อกินเข้าไปจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านาย ดูท่าทางแล้วพิษกู่ตัวนี้น่าจะมีอายุ 20 ปีแล้ว เหมือนว่าเติบโตเต็มที่ หลังจากพ้นคืนนี้ไปร่างกายของเขาจะถูกกัดแทะจนตาย”
“เป็นไปไม่ได้!” ชายชุดดำตะโกน ดวงตาแดงก่ำ “แม่นางสือไม่มีวันทำเช่นนั้นกับข้า!”
เมื่อชายชุดดำนึกถึงคำพูดของหญิงสาวคนที่บอกว่าคืนนี้อาจจะเป็นคืนสุดท้ายที่เขาได้จับมือของนาง ชายชุดดำก็ได้เงยหน้าขึ้นไปมองดูท้องฟ้า แล้วเมื่อเขามองเห็นเมฆสีดำ มันก็ทำให้ร่างกายของเขาชาไปทั่วร่าง
“เขาไม่อาจจะอยู่ไม่รอดถึงวันพรุ่งนี้! ลูกศิษย์ เจ้าไม่ต้องสนใจเขาแล้ว พวกเราไปกินมื้อเย็นที่ร้านอาหารเจวียเซ่อกันเถอะ” ลูกศิษย์ของเขาเหมือนเป็นตั๋วอาหาร! เหตุใดนางถึงจะไม่พาเขาไปกินข้าวด้วยล่ะ? ฮวงเหล่าแอบยิ้มออกมา
ซูหวานหว่านส่ายหัวโดยไม่สนใจฮวงเหล่าและหันมาพูดกับชายชุดดำว่า “หากข้าสามารถช่วยชีวิตเจ้าได้ เจ้าจะมาเป็นคนคุ้มกันข้าได้หรือไม่?”
ช่วยชีวิตเขาอย่างงั้นหรือ? เขาคิดถึงหญิงสาวที่เคยยิ้มให้เขาในช่วงเวลาที่ยังเยาว์วัย แท้จริงแล้วนางได้เลี้ยงแมลงพิษเอาไว้ในร่างกายของเขา เพื่อให้เขาเป็นอาหารของมัน เมื่อคิดได้เช่นนั้นชายชุดดำก็พยักหน้า “ตกลง”
ฮวงเหล่าไม่อยากกินมื้อเย็นแล้ว เขาต้องการจะดูว่าลูกศิษย์ของตนจะกำจัดแมลงพิษที่อยู่ในท้องของชายชุดดำได้อย่างไร!
ซูหวานหว่านหยิบเข็มเงินออกมาฝังล้อมรอบก้อนที่หน้าท้องของชายชุดดำ นางใช้พลังวิเศษของนางที่สามารถสื่อสารกับสัตว์ได้โดยการส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดออกมา
ก้อนเนื้อบริเวณหน้าท้องของชายชุดดำก็ค่อย ๆ แตกออก ซูหวานหว่านเปิดขวดที่เตรียมไว้ใกล้ตำแหน่งหน้าท้องที่นู่นออกมา จากนั้นก็มีก้อนเลือดสีดำไหลออกมา หากลองดูใกล้ ๆ เหมือนจะมีบางอย่างกำลังดิ้นอยู่ข้างในขวด
ซูหวานหว่านนำผ้าพันแผลออกมาแล้วเช็ดหน้าท้องของเขา จากนั้นจึงนำตะเกียงน้ำมันออกมาจุดมันลงไปที่บาดแผลของชายชุดดำและเริ่มการทำแผล
กลิ่นของเนื้อไหม้ลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศ ชายชุดดำเริ่มเกิดความวิตกกังวล อีกทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดมากจนอยากจะขดตัวหนี แต่ซูหวานหว่านจับตัวเขาเอาไว้เสียแน่น
หลังจากเผาบาดแผลตรงท้องของชายชุดดำจนกลายเป็นสีดำ ซูหวานหว่านก็เอาตะเกียงน้ำมันออก “เสร็จแล้ว”
ฮวงเหล่ารีบเข้ามาตรวจสอบดู เขาค่อนข้างประหลาดใจมาก สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกพอใจในตัวซูหวานหว่านมากขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนว่าลูกศิษย์คนนี้ของทำให้เขามีหน้ามีตามาก!
“ขอบคุณ” ชายชุดดำเอ่ยขอบคุณซูหวานหว่าน นางพบว่าริมฝีปากล่างของเขาถูกกัดจนเป็นแผล นางจึงค่อย ๆ แอบนำน้ำหลิงเยว่ออกจากมิติฟาร์ม เทใส่ลงในน้ำชาที่ฮวงเหล่าดื่มไปเมื่อวานนี้และส่งมันให้กับชายชุดดำ
จากนั้นซูหวานหว่านก็ร่างสัญญาขึ้นมาให้ชายชุดดำทาบนิ้วทำสัญญาเอาไว้ ชายชุดดำถามขึ้นว่า “ต่อไปเจ้าก็เรียกข้าว่า… ช่างมันเถอะ เจ้าให้อาจารย์ของเจ้าช่วยตั้งชื่อดี ๆ ให้ข้าสักชื่อเถิด”
เมื่อนึกถึงชื่อของฉ่ายโกว ซูหวานหว่านก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยเหมาะที่จะตั้งชื่อให้คนอื่นเท่าใด
นางจึงมอบให้ฮวงเหล่าเป็นคนตั้งชื่อให้! ฮวงเหล่ารู้สึกว่าใบหน้าของชายชุดดำมีเอกลักษณ์ เขาจึงเอ่ยว่า “เสี่ยวเฮ่ยแล้วกัน ดูจากสีบนใบหน้าของเขา!”
ดูเหมือนว่าทักษะการตั้งชื่อของฮ่วงเหลาเองก็ไม่ได้ดีไปกว่านางมากนัก! ซูหวานหว่านถึงกับพูดไม่ออก
ชายชุดดำลุกยืนขึ้นตัวสั่น และโค้งตัวลงพลางกล่าว “เสี่ยวเฮ่ย ขอบคุณเจ้านายมากขอรับ”
ซูหวานหว่านกำลังจะจัดเตรียมอาหารเช้า ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงชายชุดดำที่ยืนอยู่ข้างหลังตัวเองดังขึ้น “เจ้านาย ท่านต้องการให้ข้าไปฆ่าผู้ที่ต้องการฆ่าท่านหรือไม่ขอรับ?”
“ไม่จำเป็น เจ้าแค่เฝ้าดูไม่ให้คนอื่นเข้ามาในบ้านนี้ก็พอ” หญิงสาวผู้นั้นจะต้องลงมืออีกครั้งแน่นอน นางต้องการดูว่าผู้หญิงคนนั้นมีแผนอะไรที่จะมาต่อสู้กับนางอีก!
ซูหวานหว่านเดินไปที่ครัว เมื่อไฟเริ่มติดเสี่ยวเฮ่ยก็ได้เดินเข้ามาบอกข่าว อีกทั้งยังเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าสีเทาขาดรุ่งริ่งอีก แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นเสื้อผ้าตัวเก่าของฮวงเหล่าแน่นอน ซูหวานหว่านถึงกับพูดไม่ออก
“เจ้านายขอรับ อาจารย์ฮวงเหล่าให้ข้ามาบอกว่าให้ท่านเข้าไปในเมืองและไปที่บ้านของตระกูลซูเพื่อไปรักษาพ่อเฒ่าซูของตระกูลนั้น ส่วนฝังเข็มรักษาจุดไหนได้เขียนไว้หมดแล้ว” หลังจากพูดจบเสี่ยวเฮ่ยก็ยื่นกระดาษให้
“แล้วเขาไปไหน?” ซูหวานหว่านถาม
“ไปที่ร้านอาหารเจวียเซ่อขอรับ”
“เจ้าคนตะกละนี่!” ซูหวานหว่านรู้สึกเสียใจมาก!
นางเป็นเพียงลูกศิษย์ของฮวงเหล่าเท่านั้น ทว่าตอนนี้นางได้กลายมาเป็นหมอเสียเองแล้วงั้นหรือ? ซูหวานหว่านกระตุกยิ้มมุมปากออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปที่บ้านของตระกูลซู อ่านในกระดาษเขียนเอาไว้ว่า——พ่อเฒ่าซูของตระกูลซูนั้นเป็นโรคเกี่ยวกับมักมากในกาม และไม่รู้ว่าโรคนี้เจ้าจะลงมือจัดการได้หรือไม่ ขอมอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้านะศิษย์ข้า
[1] 蛊虫 กู่ฉง เรียกว่าง่าย ๆ คือ พิษกู่ คือพิธีกรรมของชนเผ่าของแม่มดดำที่จะเอาสัตว์มีพิษ หนอน แมลง สัตว์เลื้อยคลานต่าง ๆ มาใส่ในภาชนะแล้วปล่อยให้กัดกินกันเองแล้ว สัตว์ที่เหลือรอดมานั่นถือว่าเป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุด ซึ่งจะนำสัตว์ตัวนั้นมาปรุงเสกเพื่อทำยาพิษสังหารคนได้ หรือสามารถทำให้คนที่กินเข้าไปรับฟังคำสั่งเป็นทาสรับใช้เชื่อฟังตามคำสั่งของคนปลุกเสกทุกอย่างนั่นเอง เหมือนเป็นยาสั่ง