เกิดใหม่เป็นสุนัขจิ้งจอก (Reincarnated As a Fox With System) - ตอนที่ 174
ตอนที่ 174 ประกาศสงคราม!
เมื่อท้องฟ้ามืดลงแล้ว ถังลี่เสี่ยพยายามบอกให้ร่างก๊อบปี้ของเธอไปที่โรงประมูล และขายยันต์ทั้งหมดที่ เธอทําไว้ก่อนหน้านี้
แต่ร่างก๊อบปี้ของถังลี่เสวี่ยก็หายไปเอง หลังจากที่เธอเดินห่างจากถังลี่เสวี่ยไปหลายร้อยเมตร
ร่างก๊อบปี้ของฉันสามารถแยกออกจากฉันได้ประมาณ 163 เมตรงั้นหรอ? เดี๋ยวก่อนนะ… ค่าสถานะวิญญาณของฉันตอนนี้อยู่ที่ 163 อย่าบอกนะว่าระยะทางนั้นสัมพันธ์กับค่าสถานะวิญญาณของฉันด้วย?! ค่าสถานะวิญญาณนี้มีกหน้าที่กันเนี่ย!! ถังเสวี่ยคลิกลิ้นของเธอเมื่อเธอตระหนักถึงผลกระทบอันน่าอัศจรรย์หลายอย่างของสถานะวิญญาณ
เนื่องจากร่างก๊อบปี้ของเธอจากความสามารถขั้นเทพของ [จันทราคู่] ไม่สามารถไปไกลจากถังลี่เสวี่ยได้ เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการไปโรงประมูลด้วยตัวเอง
ถังเสวี่ยพาญาญ่าไปกับเธอ และไปที่โรงประมูลเพื่อขายยันต์ทั้งหมดที่เธอสร้างขึ้นมา
ร่างก๊อบปี้ของถังลี่เสี่ยประสบความสําเร็จในการจารึก [ยันต์แห่งการฟื้นฟู+1] 14 อันในวันนี้
เธอไม่รู้ว่าทําไม แต่อัตราความสําเร็จของร่างก๊อบปี้ของเธอนั้นสูงมากจนน่าประหลาดใจในการสร้าง [ยันต์แห่งการฟื้นฟู+1] 14 ครั้งใน 42 ครั้ง ขณะที่เธอสามารถสร้าง [ยันต์แห่งการฟื้นฟู+1] ได้สําเร็จเพียงครั้งเดียว ในแปดครั้งก่อนหน้านี้
ความสามารถและทักษะของถังลี่เสวี่ยได้รับการปรับปรุงอย่างมาก หลังจากที่เธอวิวัฒนาการเป็นสัตว์อสูรระดับ [ไม่ธรรมดา] ดังนั้นเธอจึงไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าทําไมอัตราความสําเร็จของเธอในการสร้างยันต์นี้จึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
แต่เธอก็ยังเดาว่ามันเกี่ยวข้องกับค่าสถานะวิญญาณของเธอด้วย เพราะเมื่อค่าสถานะวิญญาณของเธอเพิ่มขึ้น เธอสามารถรับรู้ทุกอย่างได้ชัดเจนขึ้น ราวกับว่าเธอสามารถมองผ่านกฎและความลึกลับของโลกได้ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆน้อยๆของมัน เหมือนกับการมองโลกผ่านรูกุญแจเล็กๆ แต่ผลที่ได้นั้นมหาศาล
หลังจากมาถึงโรงประมูล ถังลี่เสวี่ยสามารถขาย [ยันต์แห่งการฟื้นฟู+1] แต่ละรายการของเธอได้ในราคา 1,600 – 1,800 เครดิต ดังนั้นเธอจึงขาย [ยันต์แห่งการฟื้นฟู+1] ทั้งหมด 14 ชิ้นเป็นมูลค่า 23,900 เครดิต
นี่คือเหตุผลที่ถังลี่เสี่ยตัดสินใจสร้าง [ยันต์แห่งการฟื้นฟู+1] ขาย เนื่องจากยันต์ประเภทรักษาอย่าง [ยันต์แห่งการฟื้นฟู +1] สามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่าประเภทบัฟหรือยันต์ประเภททักษะ
ในท้ายที่สุด ถังลี่เสวี่ยได้รับเครดิต 19,120 หลังจากที่โรงประมูลหักค่าธรรมเนียม 20% แล้ว
หลังจากรวมเครดิตทั้งหมด ทั้งจากการขายยันต์ครั้งนี้ จากที่เธอได้จากอาจารย์เหมยหลานสําหรับการวิวัฒนาการ และเครดิตจากที่เธอชนะเดิมพันการต่อสู้ ทําให้ตอนนี้ถังลี่เสวี่ยมีเครดิตมากกว่า 35,000 ในการ์ดทองแดงของเธอ
เฮ้อ… ฉันต้องการสองเท่าของจํานวนนี้ เพื่อซื้อแกนอสูรระดับสูง [หายาก] หนึ่งอัน ถังลี่เสวี่ยส่ายหัวด้วยความผิดหวัง และกลับไปที่ห้องของเธอกับญาญ่า
หลังจากฝึกฝนจนถึงเที่ยงคืนตามปกติ ถังลี่เสวี่ยก็หลับไปบนเตียงกับญาญ่า
ญาญ่าปลุกถังเสวี่ยแต่เช้า และเธอก็ไปที่อาคารการศึกษากับปิงอี้ เฮยหยิงห่าว หลี่จึงและคนอื่นๆ
ตามคํากล่าวของหลี่จึงและคนอื่นๆ บทเรียนของพวกเขาในชั้นเรียนวันนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิวัฒนาการของอสูรวิญญาณ
หัวข้อของบทเรียนดึงดูดความสนใจของถังลี่เสวี่ย แม้ว่าเธอจะยังต้องวิวัฒนาการอีกสองครั้งเพื่อให้ถึงระดับอสูรวิญญาณ แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าเธอจะไปถึงระดับนั้นไม่ช้าก็เร็ว และมันก็ไม่เสียหายอะไรที่เธอจะเรียนรู้ไว้บ้าง
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ถังเสวี่ยและคนอื่นๆ ก้าวเข้ามาในห้องเรียนแบบผสมของพวกเขาในวันนี้ นักเรียนชุดแดงทุกคนในห้องเรียนก็จ้องมองพวกเขาด้วยดวงตาสีแดงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจและความโกรธ
ถังลี่เสวี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย และตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อพวกเขาทั้งหมด เธอ ปิงอี้ เฮยหยิงห่าว หลี่จิง และคนอื่นๆ กําลังเดินไปที่ที่นั่งว่างหลายที่กลางห้องเรียน แต่เธอก็ถูกนักเรียนชุดแดงหลายคนขวางเธออีกครั้ง
เฮ้อ…เอาอีกแล้วหรอ! มันเป็นพิธีกรรมของนักเรียนคลาสปฏิบัติการทุกคนเลยหรือไงกันเนี่ย? ทําไมถึงเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ฉันเข้ามาเรียน!! ถังลี่เสี่ยกลอกตาสีฟ้าบุษราคัมหลังหน้ากากจิ้งจอกของเธอด้วยความรําคาญ
“เจ้าขี้เหร่! รู้ไหมว่าเมื่อวานคุณเกือบฆ่าเพื่อนร่วมชั้นสามคนของเรา! คุณยังกล้าที่จะขโมยเครดิตของพวกเขาไปอีกหรอ! พวกเขายังคงนอนอยู่ในห้องพยาบาลจนถึงตอนนี้! คุณจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้พวกเขา หรือจะให้ฉันทําให้คุณได้ไปนอนอยู่แบบนั้นนานกว่าพวกเขาดีล่ะ!!” นักเรียนชุดแดงอีกคนตะโกนใส่ถังเสวี่ยด้วยความโกรธ
ญาญ่าที่ตอนนี้นั่งอยู่บนไหล่ขวาของถังเสวี่ยได้ขมวดคิ้วไปพร้อมกับเจตนาฆ่าที่เปล่งออกมาจากร่างเล็กๆของเธอ
แต่ถังลี่เสวี่ยได้เตือนญาญ่าเมื่อวานนี้ว่าห้ามใครก็ตามต่อสู้ในอาคารการศึกษา นอกเหนือจากในห้องซ้อมบนชั้นสอง มิฉะนั้นพวกเขาจะถูกลงโทษอย่างหนัก
ดังนั้นญาญ่าจึงทําได้เพียงระงับความตั้งใจในการฆ่าของเธอ และทําราวกับว่าเธอไม่ได้ยินอะไรเช่นถังลี่เส
ถังลี่เสวี่ยรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่ญาญ่าคิดผ่านการเชื่อมโยงจิตใจของพวกเขา
ถังลี่เสวี่ยก้มศีรษะลง และรู้สึกผิดมากเพราะเธอรู้สึกว่าเธอไม่ได้ให้ความรู้แก่ญาญ่าอย่างถูกต้องเกี่ยวกับคุณค่าของทุกชีวิต
ถังลี่เสี่ยตัดสินใจว่าเธอควรจะพยายามให้ความรู้ญาญ่าทีละนิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อจากนี้ไป ดังนั้น ญาญ่าจะไม่ฆ่าทุกคนที่เธอไม่ชอบในอนาคตจนเป็นเหมือนการฆาตกรรมที่บ้าคลั่ง
นักเรียนหญิงชุดแดงยิ่งกล้ามากขึ้น เมื่อเธอเห็นถึงลี่เสวี่ยก้มศีรษะลงราวกับว่าเธอรู้สึกผิดจริงๆ ต่อนักเรียนหญิงชุดแดง
“ดีมาก! ตราบใดที่คุณให้เครดิตทั้งหมดแก่ฉันเพื่อเป็นค่าตอบแทน ฉันจะพาคุณไปขอโทษพวกเขา! ถ้าคุณรู้สึกจริงใจกับพวกเราทุกคนจากนักเรียนคลาสปฏิบัติการ เราก็จะไม่ทําอะไรให้ยุ่งยากสําหรับคุณ! แต่ถ้าคุณปฏิเสธ เราจะทําให้คุณเสียใจที่เกิดมาในโลกนี้!” นักเรียนหญิงชุดแดงพูดด้วยน้ําเสียงข่มขู่
แต่เมื่อนักเรียนหญิงชุดแดงมองดูการจ้องมองอันเย็นชาของถังลี่เสวี่ย เธอก็ถอยถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยความหวาดกลัว
“พูดจบหรือยัง?” ถังเสวี่ยถามนักเรียนหญิงชุดแดงด้วยน้ําเสียงเยือกเย็น ขณะที่จ้องมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา
จากนั้นยังลี่เสวี่ยก็จ้องมองที่เย็นชาของเธอไปที่นักเรียนชุดแดงคนอื่น ๆ จากคลาสปฏิบัติการ และตะโกนเสียงดัง
“พวกคุณทุกคนพูดจบรึยัง?”
“ฉันเริ่มเบื่อกับนิสัยน่าเบื่อที่น่าสมเพชของคุณที่ท้าทายฉันทุกครั้งที่เข้าไปมาห้องเรียนแล้วนะ ดังนั้นฉันจะท้าทายพวกคุณทุกคนแทน! ฉัน ถังลี่เสวี่ยจากคลาสผู้ตรวจสอบขอท้าทายนักเรียนคลาสปฏิบัติการทั้งหมด!” ถังลี่เสวี่ยตะโกนอีกครั้ง ก่อนที่นักเรียนของคลาสปฏิบัติการจะพูดอะไรก็ได้
เสียงของถังลี่เสี่ยยังคงหวานเหมือนน้ําผึ้งและไพเราะ แต่น้ําเสียงของเธอเย็นชา และไร้ความรู้สึกผิดปกติ
“แต่ฉันจะไม่ท้าทายขอทานใด ๆ ดังนั้นเราจะเดิมพัน 5,000 เครดิตทุกครั้งที่เราต่อสู้กัน หากคุณชนะ ฉันจะจ่ายให้คุณสามเท่าจากจํานวนนั้น! แล้วพวกไก่อ่อนทั้งหลายจากคลาสปฏิบัติการ ถ้าคุณกล้าที่จะยอมรับการท้าทายของฉัน ฉันจะรอพวกคุณทุกวันหลังจากเลิกเรียนแล้ว!!” ถังลี่เสี่ยตะโกนด้วยน้ําเสียงเย้ยหยัน
นักเรียนทุกคนในห้องเรียนรวมทั้งเฮยหยิงห่าว ปิงอี้ หลี่จึง และคนอื่นๆ ตะลึงกับคําท้าของถังเสวี่ย
ไม่ นี่ไม่ใช่ความท้าทายอีกต่อไป แต่เป็นการประกาศสงครามกับนักเรียนคลาสปฏิบัติการทั้งหมด!
“ไอ้บ้า ไอ้ขี้เหร่ ชิ! กล้าดียังไงมาท้าทายพวกเราแบบนี้! เบื่อชีวิตตัวเองแล้วหรอ!”
“ไอ้ขี้เหร่ ฉันต้องการดูว่าคุณยังสามารถกระพือลิ้นของคุณได้อีกต่อไปไหม หลังจากที่ฉันดึงมันออกจากปากของคุณในภายหลัง!”
“ฉันจะตัดแขนขาเธอให้หมด จนกว่าเธอจะขอความเมตตาจากฉันในวันนี้ ไอ้เลว!
หลังจากพูดทุกอย่างที่เธอต้องการแล้ว ถังลี่เสวี่ยก็นั่งบนที่นั่งว่าง และเพิกเฉยต่อเสียงกรีดร้องที่โกรธจัด และตะโกนจากนักเรียนของคลาสปฏิบัติการทุกคน
ไม่มีใครรู้ว่าถังลี่เสวี่ยหัวเราะคิกคักอยู่หลังหน้ากากจิ้งจอกของเธอ แล้วคิดว่า
“ด้วยวิธีนี้ ฉันจะได้รับเครดิตเร็วขึ้น เพื่อที่จะได้นําไปซื้อแกนสัตว์อสูรระดับสูง [หายาก] ขณะที่จะสามารถได้ทดลองทักษะอุปกรณ์ใหม่ของฉัน และความสามารถขั้นเทพอันใหม่ของฉันไปด้วย! ฉันฉลาดจริงๆ! ฮิฮิฮิ…
แม้ว่ามันจะค่อนข้างเสี่ยงเพราะเธอสามารถดึงดูดความสนใจจากพี่ของ จิ้งจอกเลือดปีศาจ] ได้ แต่เธอก็ต้องการที่จะทดสอบขีดจํากัดของเธอด้วยการเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นเขา
ยิ่งกว่านั้น ห้ามมิให้มีการฆ่ากันภายในสถาบันจิ้งจอกนับหมื่นนี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาคารการศึกษานี้!
แทนที่เธอจะมั่นใจมากเกินไป และประเมินตัวเองสูงเกินไป แล้วทําให้เธอต้องไปถูกฆ่าภายนอกสถาบัน เธอยอมที่จะพ่ายแพ้ และอับอายภายในสถาบันแห่งนี้ดีกว่า!!
ไม่นานหลังจากที่ถังเสวี่ยกล่าวคําประกาศสงครามของเธอ ครูสอนในวันนี้ก็เดินเข้ามาในห้องเรียน
น่าแปลกที่อาจารย์ผู้สอนวิชาผสมในวันนี้เป็นผู้ชายที่สวมหน้ากากจิ้งจอกบนใบหน้าเหมือนกับถังลี่เสวี่ย
“สวัสดีตอนเช้าครับทุกท่าน วันนี้ผมเป็นผู้สอนวิชาผสมของคุณ หลี่เหว่ย เรียกผมว่าอาจารย์หลี่ก็ได้ วันนี้ผมจะมาสอนเกี่ยวกับกระบวนการวิวัฒนาการเพื่อเป็นอสูรวิญญาณ บทเรียนนี้สําคัญมากและอาจส่งผลกระทบได้ในอนาคตของคุณ โปรดใช้วิจารณญาณอย่างระมัดระวัง” ครูหลี่พูดด้วยน้ําเสียงของผู้ชาย แต่น้ําเสียงของเขาอ่อนโยนจริงๆ เหมือนอาจารย์เหมยหลาน
ในบรรดานักเรียนคนอื่นๆ มีเพียงถังลี่เสวี่ยและคนอื่นๆ จากคลาสผู้ตรวจสอบของอาจารย์เหมยหลานเท่านั้น ที่รู้ถึงความน่ากลัวที่แท้จริงเบื้องหลังน้ําเสียงที่อ่อนโยนนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะทําอย่างประมาทหรือดูถูกอาจารย์หลี่คนนี้เลย
ครูหลี่มีผมสีขาวสวยงาม หจิ้งจอกคู่สีขาวอยู่บนหัวของเขา และมีหางขนยาวสีขาวอยู่ข้างหลังเขาเหมือนปีงอี้
ขนเรียบลื่นและผมนุ่มสลวยของถังลี่เสวี่ยเป็นสีขาวเงิน และเปล่งประกายด้วยแสงสีเงินกึ่งดงาม มันแตกต่างจากอาจารย์หลี่และปิงอี้ เนื่องจากถังลี่เสวี่ยดูสง่างามและมีเกียรติมากกว่า
เพราะอะไรไม่รู้ เมื่อถึงลี่เสวี่ยได้มองอาจารย์หลี่แล้ว เธอรู้สึกเหมือนว่าอาจารย์หลี่คนนี้ยิ้มให้เธอจากด้านหลังหน้ากากนั้น หรืออาจจะเป็นเพราะถังเสวี่ยสวมหน้ากากเหมือนเขา
หลังจากมองถังเสวี่ยสักครู อาจารย์หลี่ก็เปลี่ยนความสนใจกลับไปหานักเรียนทุกคนในชั้นเรียน
แต่เฮยหยิงห่าวที่นั่งข้างถังลี่เสวี่ยก็รู้สึกว่าอาจารย์หลี่คนนี้กําลังจ้องมองถังลี่เสวี่ยอยู่ครู่หนึ่ง และพึมพําด้วยความไม่พอใจ
“ช่างเป็นพวกที่ผิดเพี้ยน! คุณแก่แล้วนะ แต่ยังกล้าที่จะทําเจ้าชู้กับนักเรียนหญิงโดยใช้สายตาของคุณแบบ นั้นอีก! ชิ!”
ถังลี่เสวี่ยได้ยินคําพูดที่ไม่พอใจของเฮยหยิงห่าวด้วยหูที่แหลมคมของเธอ แต่ก่อนที่เธอจะถามว่าเขากําลังพูดถึงอะไร บทเรียนของอาจารย์หลี่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจลืมมัน และกลับไปจดจ่อกับบทเรียนของอาจารย์หลี่แทน
“ทุกคนที่นี่น่าจะรู้อยู่แล้วว่าพวกคุณทุกคนจะได้รับสองทางเลือกหลังจากที่คุณวิวัฒนาการไปถึงระดับอสูรวิญญาณแล้ว ว่าจะอยู่ในร่างอสูรหรือร่างมนุษย์ แต่พวกคุณทุกคนรู้ความหมายเบื้องหลังของสองตัวเลือกนี้หรือไม่?” อาจารย์หลี่ถามนักเรียนทุกคนเพื่อกระตุ้นความสนใจ
เช่นเดียวกับที่อาจารย์หลี่ปรารถนา นักเรียนทุกคนในชั้นเรียนยิ่งสงสัยเกี่ยวกับบทเรียนของเขามากขึ้น และตอนนี้พวกเขาก็ให้ความสนใจมากขึ้น
“ผมรู้ว่าพวกคุณหลายคนคิดว่าพวกคุณทุกคนมีความสามารถขั้นเทพที่ไม่สมบูรณ์ในการแปลงร่างเป็นมนุษย์แล้ว ดังนั้นคุณทุกคนจึงคิดว่าคุณไม่จําเป็นต้องเลือก “รับร่างมนุษย์” อีกต่อไป แต่ผมจะบอกให้ทุกคนรู้ว่าการเลือกอยู่ในร่างสัตว์เดรัจฉาน จะเป็นทางเลือกที่โง่ที่สุดสําหรับคุณ!” คําพูดของอาจารย์หลี่ยังคงอ่อนโยน แต่ก็ไม่เป็นที่พอใจของทุกคน