เกิดใหม่เป็นสุนัขจิ้งจอก (Reincarnated As a Fox With System) - ตอนที่ 97
ถังลี่เสวี่ยปิด [ร่างเทพ] ของเธอ และร่างขนเล็ก ๆ ของเธอก็ปรากฏตัวต่อหน้าญาญ่าทันที
ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของญาญ่าสดใสขึ้นทันที และรอยยิ้มสวยก็ผุดขึ้นจากใบหน้าเล็กๆ ที่น่ารักของเธอ เธอพุ่งไปที่ถังลี่เสวี่ยและกอดคอที่มีขนยาวของถังลี่เสวี่ยอย่างมีความสุข ในขณะที่หัวเราะคิกคักด้วยเสียงที่ชวนให้หลงใหลของเธอ
ถังลี่เสวี่ยยิ้มกลับ ในขณะที่โบกมือให้ญาญ่าอยู่ข้างหลังเธอ
ถังลี่เสวี่ยตบหน้าอกที่มีขนยาวของเธอด้วยอุ้งเท้า และบอกให้ญาญ่าว่าเดี๋ยวเธอจะจัดการเอง
ญาญ่ายังคงลังเลที่จะปล่อยอ้อมกอดของเธอ แต่เธอยังคงเชื่อฟังสิ่งที่ถังลี่เสวี่ยบอกให้เธอทํา
ฟู่ววววว!!!
ดวงตาสีฟ้าบุษราคัมของถังลี่เสวี่ยเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม และเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มที่ลูกเป็นไฟก็ลุกโชนจากส่วนลึกที่สุดของดวงตาของเธอ เปลวเพลิงสีน้ำเงินเข้มที่ร้อนจัดเริ่มปกคลุมทั่วร่างกายของเธอ
“มันช่างเสียเปล่าถ้าฉันเปลี่ยนเนื้อของพวกมันทั้งหมดให้กลายเป็นความว่างเปล่าด้วยเปลวไฟแห่งความภูมิใจของฉัน โอเค งั้นฉันจะใช้ [ศรเพลิง] เพื่อฆ่าพวกเขาดีกว่า!” ถังลี่เสวี่ยพยักหน้ากับตัวเองเมื่อเธอตัดสินใจว่าจะฆ่าหมาป่าวายุต่อหน้าเธอได้อย่างไร
หมาป่าวายุมากกว่าสิบตัวส่งเสียงดัง และเริ่มพุ่งเข้าหาถังลี่เสวี่ยในเวลาเดียวกัน!
หมาป่าวายุที่เหลืออีกเก้าตัวมุ่งเป้าไปที่ญาญ่า แต่เนื่องจากญาญ่ากําลังบินด้วยปีกโปร่งใสของเธอ และพวกมันไม่สามารถไปถึงเธอได้ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจใช้ [กระสุนอากาศ] กับญาญ่า!
ถังลี่เสวี่ยกําลังยิง [ศรเพลิง] ของเธอเก้าอันไปยังทิศทางของหมาป่าวายุสิบตัว แต่พวกมันก็แยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเพื่อหลบการโจมตีของถังลี่เสวี่ย
“ไอ้บ้า! พวกมันเร็วมาก! ฉันควรใช้ [ระเบิดไฟ] เพื่อฆ่าพวกมันทั้งหมดในคราวเดียวจะดีกว่ามั้ย? ไม่! ฉันยังสามารถจัดการกับสิ่งนี้ได้ ถ้าพวกมันเข้ามาใกล้กว่านี้ ฉันมั่นใจจริงๆ ว่าฉันจะจัดการพวกมันได้!”
แต่หมาป่าวายุได้ทําสิ่งที่ไม่คาดคิดกับถังลี่เสวี่ย
แทนที่จะเข้าใกล้เธอ หมาป่าวายรักษาระยะห่างจากถังลี่เสวี่ย และเริ่มยิงถังลี่เสวี่ยด้วย [กระสุนอากาศ]
ถังลี่เสวี่ยเปิดใช้งาน [ร่างกายสีทอง] ของเธอทันทีก่อนที่ [กระสุนอากาศ] จะโจมตีเธอ ดังนั้น [กระสุนอากาศ] จึงสร้างความเสียหายเล็กน้อยให้กับเธอเท่านั้น
ถังลี่เสวี่ยรีบหันไปดูญาญ่าอย่ารวดเร็ว และพบว่าเธอสามารถจัดการหมาป่าวายุได้ สามตัวแล้วแต่ตอนนี้เธอก็หน้าซีด และดูหมดแรงอย่างมากแล้ว
ญาญ่ายังคงหิวโหยมาก และตอนนี้เธอถูกบังคับให้ต่อสู้กับหมาป่าวายุหลายตัวในคราวเดียว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลหากเธอหมดแรงอย่างรวดเร็ว
ญาญ่ายังเหลือบมองถังลี่เสวี่ยและเต็มไปด้วยความกังวล แต่เธอก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจทันทีเมื่อรู้สึกถึงการปรากฏตัวของวิญญาณธาตุอื่นจากภายในร่างกายของถังลี่เสวี่ย
ญาญ่าพองแก้มของเธอด้วยความโกรธ และบินไปทางถังลี่เสวี่ยด้วยความเร็วเต็มที่
“ญาญ่า! เธอเป็นอะไรไป… ถังลี่เสวี่ยตกใจมากกับการเคลื่อนไหวกะทันหันของญาญ่าแต่ก็สายเกินไปที่ถังลี่เสวี่ยจะหลบเลี่ยงมัน
ถังลี่เสวี่ยคิดว่าร่างเล็กของญาญ่ากําลังจะชนกับหัวที่มีขนยาวของเธอ ดังนั้นเธอจึงกัดฟันและหลับตาลง
หมาป่าวายุทั้งหมดยังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าในตอนนี้ แต่พวกเขาจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป ดังนั้นทั้งหมดจึงพุ่งเข้าหาถังลี่เสวี่ยและญาญ่าในเวลาเดียวกัน
หมาป่าวายุวางแผนที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อฉีกถังลี่เสวี่ยและญาญ่าเป็นชิ้น ๆ หลังจากที่พวกเขาชนกัน
แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นระหว่างถังลี่เสวี่ยและญาญ่า!
แทนที่จะชนกันเอง ร่างเล็กๆ ของญาญ่าเข้าไปในหน้าผากของถังลี่เสวี่ย
ฉากระหว่างญาญ่าและถังลี่เสวี่ยนั้นวิเศษมาก! ราวกับว่าญาญ่าเข้าไปในเงาสะท้อนของถังลี่เสวี่ยจากในน้ำ
ถังลี่เสวี่ยรู้สึกแปลกที่เธอไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือรู้สึกอะไรใดๆเลย จากการปะทะกัน ดังนั้นเธอจึงค่อยๆลืมตาขึ้น
ฟู่วววววว !!!
ตาซ้ายของถังลี่เสวี่ยยังคงเป็นสีน้ำเงินเข้มเหมือนเมื่อก่อนเช่นเดียวกับสีของเปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจ แต่ตอนนี้ตาขวาของเธอเปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกต!
ปีกโปร่งใสสองทุ่งอกออกมาจากด้านหลังของถังลี่เสวี่ย
ตู้มมมม !!!
หมาป่าวายุทั้งหมดที่พุ่งเข้าหาถึงหลี่เสวี่ยบินถอยหลังไปไม่กี่เมตร และกระแทกกับพื้นอย่างแรง เมื่อพวกเขาชนเข้ากับบาเรียลมที่หมุนรอบร่างกายของถังหลี่เสวี่ย
ถังลี่เสวี่ยรู้สึกงงงวยอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเและเธอสามารถสัมผัสได้ถึง การปรากฏตัวของญาญ่าในร่างกายของเธอตอนนี้
พลังลมปราณอ่อนโยน และพลังเปลวไฟที่ครอบงํา ทั้งสองอยู่ภายในร่างกายของเธอในขณะนี้
แม้ว่าถังลี่เสวี่ยจะรู้สึกเบา ๆ ว่าวิญญาณธาตุทั้งสองในร่างกายของเธอเป็นศัตรูกัน แต่ธาตุไฟและลมของพวกเขาสามารถผสมผสานกันอย่างลงตัวเช่นเดียวกับหยินและหยาง
ไฟและลมสนับสนุนซึ่งกันและกัน และเสริมกําลังตัวเอง การรวมกันของทั้งสองไม่ใช่สิบบวกสิบเท่ากับยี่สิบ แต่มันเป็นสิบคูณสิบ มันเท่ากับหนึ่งร้อย!
“เดี๋ยวนะ… นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน! ถังลี่เสวี่ยคิดด้วยความไม่เชื่อในใจของเธอ แต่ร่างกายของเธอก็เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งจํานวนมหาศาล เธอเกือบจะรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันในตอนนี้
ดิง!
[การสถิตร่างของเทพ ได้รับการเริ่มต้นโดย ญาญ่า]
[ระยะเวลาการสถิตร่างของเทพ: 00:02:54]
“สถิตร่าง ของเทพ?! ว้าว! ความสามารถใหม่หรอเนี่ย?” ตาของถังลี่เสวี่ยเป็นประกายเมื่อเธอเห็นการแจ้งเตือนของระบบ
ถังลี่เสวี่ยสัมผัสได้ถึงความเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดระหว่างเธอกับอากาศรอบๆ ตัวเธออย่างชัดเจน
เธอสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยจากแรงสั่นสะเทือนของอากาศ จากการเคลื่อนไหวของมดหรือยุงทุกตัว แม้แต่การเคลื่อนไหวเมื่อใบไม้ร่วงจากกิ่ง เธอสัมผัสได้ทั้งหมด!
กล่าวโดยย่อถังลี่เสวี่ยรู้สึกอัศจรรย์ใจอย่างมากในตอนนี้
เธอสามารถตรวจจับสิ่งใด ๆ ที่อยู่ห่างออกไปหลายไมล์จากเธอได้โดยไม่ต้องใช้ประสาทสัมผัสใดๆ เลย!
สมองของเธอสามารถคิดได้เร็วกว่าปกติถึงสามเท่า ทําให้เธอวิเคราะห์จุดอ่อนของศัตรูได้ง่ายขึ้นและตัดสินใจถูกต้องในเสี้ยววินาที ขณะที่ถูกขังอยู่กลางการต่อสู้ที่ดุเดือด
แต่ก่อนที่ถังลี่เสวี่ยจะได้ลิ้มรสความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์นี้ หมาป่าวายุทั้งหมดก็คํารามโกรธกับถังลี่เสวี่ยและพวกเขาทั้งหมดก็อ้าปาก จากนั้นก็เริ่มยิง [กระสุนอากาศ] ทั้งหมดไปยังถังลี่เสวี่ย
“นี้?! มัน… ช้า! ช้ามาก! เอ่อ.. หรือฉันเป็นคนที่เร็วขึ้น?” ถังลี่เสวี่ยเฝ้าดูอย่างสงบขณะที่ [กระสุนอากาศ] จากหมาป่าวายุยิงช้ากว่าหอยทากเข้าหาเธอ
ถังลี่เสวี่ยกระพือปีกโปร่งใสของเธอ และร่างสีเงินเล็กๆ ของเธอก็หายไปในทันที [กระสุนอากาศ] ทั้งหมดก็ไม่โดนเธอเลย
ถังลี่เสวี่ยรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าลมและอากาศรอบตัวเธอไม่ได้ขัดขวางการเคลื่อนไหวของเธออีกต่อไป ตรงกันข้ามพวกเขาสนับสนุนเธอทุกการเคลื่อนไหว ทําให้เธอเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
ถังลี่เสวี่ยปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ หลังหมาป่าวายุหลายตัวและโบกมืออย่างช้าๆ
[ใบมีดลม]!
เก้า [ใบมีดลม] เหวี่ยงลงมาแยกร่างหมาป่าวายุทั้งเก้าตัวออกเป็นสองส่วน มันทิ้งรอยลึกเก้ารอยไว้บนพื้นด้วย!
แม้แต่ถังลี่เสวี่ยก็พบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าเธอเป็นคนทําในตอนนี้
“มันแข็งแกร่งมาก! ฉันเข้าใจแล้ว! การสถิตร่างของเทพหมายความว่าฉันมีทุกความสามารถของญาญ่าและค่าสถานะทั้งหมดของเธอยังรวมกับค่าสถานะของฉันเอง ทําให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นและเร็วขึ้นกว่าปกติ!”
ในขณะที่ถังลี่เสวี่ยกําลังคิดเกี่ยวกับผลของความสามารถการสถิตร่างของเทพของเธอ หมาป่าวายุที่เหลือก็ตัวสั่นด้วยความกลัว พวกเขาค่อยๆก้าวถอยหลังแล้วหันร่างหนีจากถังลี่เสวี่ย
ด้วยความรู้สึกที่เฉียบแหลมของเธอในการสัมผัสอากาศรอบๆตัว ทําให้เธอรู้ว่าหมาป่าวายุกําลังจะทําอะไร
“อืม… ฉันอยากลองเรียนรู้ทักษะนี้โดยใช้ [กระจกเงาแห่งจันทรา] เมื่อฉันเห็นพ่อแม่ของญาญ่าใช้มันเพื่อทําลายหุบเขาทั้งหมด! เสียดายที่ก่อนหน้านี้พลาดไป ไม่กล้าขอพ่อแม่ของญาญ่าสาธิตให้ดูอีก แต่ไม่เป็นไรเพราะญาญ่าได้เรียนรู้มันแล้ว มาดูพลังของมันตอนที่ฉันใช้มันในร่างของการสถิตร่างของเทพกันเถอะ!”
ถังลี่เสวี่ยยิ้มอย่างซุกซน ขณะที่เธอโบกมือลงไปที่หมาป่าวายุที่หนีไป
[พายุไซโคลนเฉือน]!
เมื่อ ญาญ่า” ใช้ [พายุไซโคลนตัดเฉือน] เธอทําได้เพียงสร้างใบมีดพายุไซโคลนที่ใหญ่เท่ากับแขนของผู้ใหญ่
แต่ตอนนี้เมื่อถึงสี่เสวี่ยใช้ [พายุไซโคลนตัดเฉือน] เธอสามารถสร้างใบมีดพายุไซโคลนขนาดใหญ่เท่าต้นไม้ได้!
ตู้มมมมม !!!
ใบมีดพายไซโคลนที่แหลมคมสงเท่าต้นไม้กําลังบินไปข้างหน้าไปยังที่ที่หมาป่าวายวิ่งไปพร้อมกับดูดทุกอย่างที่อยู่ใกล้เคียง พายุไซโคลนเฉือนจริง ๆ แล้วประกอบด้วยใบมีดลมจํานวนนับไม่ถ้วน ดังนั้นสิ่งที่มันดูดก็ไม่ต่างจากการเข้าไปในเครื่องปั่นขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยใบมีดคม
หมาป่าวายุที่เหลืออีกสิบตัวไม่มีกําลังมันดูเหมือนกับกลุ่มลูกเจี๊ยบ พวกมันดูดเข้าไปในใบมีดพายุไซโคลนสูงและกลายเป็นเนื้อสับในทันที
“ช่างเป็นทักษะที่เหนือชั้นอะไรเช่นนี้! แต่พลังปัจจุบันยังอ่อนแอไปมากเมื่อเทียบกับพ่อแม่ของญาญ่า อืม… ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าอนาคตจะแข็งแกร่งขึ้นตราบที่ญาญ่าเติบโตต่อไป ถังลี่เสวี่ยอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจและพยักหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความพึงพอใจ
ถังลี่เสวี่ยสามารถสังหารหมาป่าวายุทั้งหมดได้ในเวลาไม่ถึงนาที ดังนั้นเธอจึงมีเวลาเหลือเฟือที่จะลองความสามารถใหม่ของญาญ่า
เธอยังพยายามที่จะรวมทักษะลมกับทักษะเปลวไฟของเธอ และผลลัพธ์ก็ยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่เพียงแต่ทักษะจะมีลักษณะลมคมและว่องไวเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติการลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงของเธอด้วย
ถังเสวี่ยเรียกทักษะใหม่ของเธอว่า [ใบมีดลมเพลิง] และ [พายุไซโคลนแผดเผา]
หลังจากระยะเวลาสามนาทีของการสถิตร่างของเทพหมดลง ถังลี่เสวี่ยและญาญ่าก็แยกจากกันเหมือนปกติ
ผลของการสถิตร่างของเทพนี้รุนแรงกว่าที่ถังลี่เสวี่ยจินตนาการไว้
เธอและญาญ่าเป็นหมดแรงอย่างสมบูรณ์ ด้วยอาการอ่อนเพลียนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ลืมการขยับร่างกายที่อ่อนล้าไปได้เลย ทั้งสองเหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว ทั้งคู่ถึงกับหายใจลําบาก
โชคดีที่กิ้งก่าปีกตาแดงนั้นมีความเมตตาอยู่ในหัวใจเล็กๆ ของมัน มันจึงปกป้องถังลี่เสวี่ยและญาญ่าในช่วงเวลาที่พวกเขาอ่อนแอ และไม่มีที่พึ่งได้
“ไม่เลวเลยนี่สาวน้อย! คุณสามารถใช้การสถิตร่างของเทพสําเร็จในการลองครั้งแรก!” กิ้งก่าปีกตาแดงพยักหน้าหัวยักษ์ และจ้องไปที่ถังลี่เสวี่ยด้วยความประหลาดใจ
ถังลี่เสวี่ยจ้องกลับไปที่กิ้งก่าปีกตาแดงอย่างสงสัย
กิ้งก่าปีกตาแดงรู้ว่าถังลี่เสวี่ยต้องการถามอะไรจากแสงสะท้อนของเธอจึงอธิบายทันที
“หากวิญญาณธาตุประเภทวิญญาณสามารถหลอมรวมกับสายพันธุ์อื่นได้ วิญญาณธาตุประเภทเอลฟ์ก็สามารถสถิตร่างสายพันธุ์อื่นที่มีความใกล้เคียงที่สุด และผูกพันกับมันได้เช่นกัน เราเรียกกระบวนการนี้ว่าการสถิตร่างของเทพ ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียของตัวเองเช่นกัน”