เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 1033 พลังของแบบอย่าง
บทที่ 1033 พลังของแบบอย่าง
บทที่ 1033 พลังของแบบอย่าง
หากสามารถนำแผนทั้งสองนี้ไปปฏิบัติได้ ก็จะช่วยส่งเสริมระบบโรงงานมาก เสี่ยวเถียนคิดว่า นี่เป็นสัญญาณแห่งการพัฒนาที่กำลังเติบโตของโรงงาน
“ผู้อำนวยการเหลย คุณพาคนปรับปรุงทั้งสองแผนนี้ให้สมบูรณ์แบบครบถ้วน แล้วกลับมาศึกษากันทีหลังว่าแผนทั้งสองนี้ วิธีการไหนเหมาะสมที่สุด”
เหลยเกาเชารู้ว่ากระดาษคำตอบของตนในครั้งนี้ถือว่าสมบูรณ์แบบ
หากปรับปรุงแผนการนี้เสร็จภายในเวลาที่เหลือก็สามารถดำเนินการได้ทันที
เขากับเสี่ยวเถียนมีความคิดแบบเดียวกัน รู้สึกว่าการดำเนินการตามแผนทั้งสองนี้อาจเป็นโอกาสในการพัฒนาโรงงาน
ในคืนนั้น เหลยเกาเชาอดหลับอดนอนเพื่อทำความเข้าใจทั้งสองแผนอย่างลึกซึ้ง
วันถัดไป เขาก็ยังพบปะกับคนอื่น ๆ เพื่อหารือ แก้ไขและปรับปรุงแผนงานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ต้องบอกว่า เหลยเกาเชาคนนี้เวลาอยู่ในที่ทำงานมีความสามารถมาก
สองวันต่อมา เขาก็ส่งแผนงานที่เสี่ยวเถียนต้องการให้เธอ
เหลยเกาเชาในเวลานี้ เมื่อเทียบกับที่เสี่ยวเถียนพบครั้งแรก ค่อนข้างซีดเผือด
หนวดเครารุงรัง เหมือนอดทนผ่านโลกมาอย่างโชกโชน
“ผู้อำนวยการเหลย ถึงงานจะสำคัญ แต่ก็ต้องรักษาสุขภาพนะคะ”
“เจ้านาย ผมไม่รีบพักหรอกครับ แต่หลังจากนี้จะพักผ่อนเต็มที่เลย”
เสี่ยวเถียนมองแผนงานที่เสร็จสมบูรณ์ และรู้สึกว่าโดยรวมแล้วค่อนข้างดี
เพียงแต่ยังคงมีปัญหาในบางด้าน ทว่ามองอย่างไร ก็นึกไม่ออก
ในที่สุด หลังจากคิดอย่างรอบคอบ เสี่ยวเถียนจึงไปพบซูเสี่ยวซื่อ
ในการดำเนินธุรกิจ เสี่ยวเถียนหาคนที่เหมาะสมกว่านี้ไม่ได้แล้ว และทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากพี่สี่เท่านั้น
และเสี่ยวซื่อก็เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการพัฒนาธุรกิจจริง ๆ
หลังจากที่เสี่ยวเถียนเห็น มันก็ดีขึ้นกว่าเดิมมากจริง ๆ
ปัญหาทั้งหมดที่มีอยู่ในแผนงานก่อนหน้าได้รับการแก้ไขโดยเสี่ยวซื่อ
“พี่สี่ ขอบคุณพี่มากนะคะ หนูแค่คิดว่าแผนงานมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหนเนี่ยสิ”
เสี่ยวซื่อลูบหัวเสี่ยวเถียน และพูดว่า “อะไรกัน ฉันเป็นพี่สี่ของเธอนะ แน่นอนฉันต้องช่วยเธอสิ”
“ก็รู้ค่ะว่าพวกพี่ดีต่อหนู” คำพูดจริงใจของเสี่ยวเถียนแลดูไม่เหมือนเด็กที่อยากจะขอเงินผู้ใหญ่สักนิด
“เสี่ยวเถียน สู้ ๆ พี่สี่ดูแลเธอเอง!”
ซูเสี่ยวซื่อรู้สึกว่าสองแผนพัฒนานี้น่าทึ่งมากเช่นกัน
เขาไม่คาดคิดว่า นอกจากเสี่ยวเถียนแล้ว จะยังมีคนที่มีความสามารถเช่นนี้อยู่
เขารู้สึกว่าโรงงานของเสี่ยวเถียนแห่งนี้ในขณะนี้ อาจจะทำให้ทุกคนประหลาดใจในอนาคต
“แน่นอนว่าฉันจะทำ พี่สี่ พวกเรามาสู้พัฒนาไปด้วยกันเถอะค่ะ”
พวกพี่ที่บ้าน ทุกคนล้วนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะของตนเอง ปีที่ผ่านมาจึงมีพัฒนาการที่ดี
แต่เสี่ยวเถียนรู้ว่าคนที่สามารถหาเงินได้ อาจจะมีแค่พี่สี่คนเดียวเท่านั้น
ดังนั้นไม่ว่าตนจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม ล้วนต้องพัฒนาเศรษฐกิจ ทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงิน
ท้ายที่สุด ไม่ว่าพวกพี่จะทำอะไรในอนาคต ทุกอย่างที่ต้องการทำให้สำเร็จ ย่อมต้องการการสนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่ง
แม้จะรีบเดินทางกลับเมืองหลวง แต่แน่นอนว่าเสี่ยวเถียนไม่ลืมที่จะกลับบ้านไปพบครอบครัว
แต่เห็นว่าเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ เสี่ยวเถียนก็ตัวซีดเซียวไปไม่น้อย คุณย่าซูเห็นก็เจ็บปวด
ท่านแสดงออกมาตรง ๆ ว่าต้องการไปดูแลเสี่ยวเถียนที่โรงงาน
โชคดีที่เหลียงซิ่วพูดกรอกหูว่า เด็ก ๆ โตแล้ว พวกเขาควรมีชีวิตของตัวเอง ในฐานะพ่อแม่ต้องปล่อยวาง จากนั้นคุณย่าซูก็ระงับความคิดไว้ในใจ
นี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำให้พวกเด็กผู้ชายตระกูลซูรู้สึกได้ถึงความลำเอียงของคุณย่าซู
เหตุใดตอนพวกเขาออกไป คุณย่าไม่เคยคิดติดตามไปดูแลพวกเขาบ้าง?
แต่คำเหล่านี้ พวกเด็กเหลือขอไม่กล้าพูดออกมาต่อหน้าหญิงชราหรอก
เพราะแต่ไหนแต่ไรมาคุณย่าซูพูดไว้ว่า ลูกกตัญญูโผล่ออกมาจากใต้ไม้เท้า พวกเด็กเหลือขอไม่เชื่อฟังก็ทุบตีพวกเขาได้เลย!
พอวันรุ่งขึ้น คุณย่าซูส่งเสี่ยวเถียนออกไป นอกจากจะมอบอาหารอร่อย ๆ ห่อใหญ่ให้กับเด็กสาวแล้ว น้ำหูน้ำตาก็ไหลพราก
เสี่ยวเถียนจึงรู้สึกว่าตนกำลังทำผิด
“คุณย่า หนูสัญญา หนูจะดูแลตัวเองอย่างดี รออีกสองวัน หนูก็มาหาคุณ ให้คุณรู้ว่าหนูสบายดี”
ในท้ายที่สุด เสี่ยวเถียนก็ยังคงปลอบใจคุณย่าซู จากนั้นเดินทางออกไปอีกครั้ง
“เจ้าพวกเด็กเหลือขอ เพราะพวกแกไม่ทำงานหนักเลยทำให้น้องสาวเหน็ดเหนื่อยแบบนี้”
คุณย่าซูหันกลับไป เห็นเสี่ยวลิ่วและคนอีกสองสามคนยืนอยู่ในลานบ้าน พลันจ้องมองด้วยความโกรธ
เด็กเหลือขอสองสามคนที่ไม่ทำงานหนักทำได้เพียงลูบจมูกด้วยความเขินอาย จากนั้นทุกคนก็กลับห้องตนและพยายามทำงานอย่างหนัก
การมีน้องสาวมากความสามารถก็ไม่ได้เป็นเรื่องดีเลย!
เมื่อเหลยเกาเชารับช่วงต่อ ดำเนินการตามแผนที่เสร็จสมบูรณ์จากเสี่ยวเถียน เขาประหลาดใจจนหุบปากไม่ได้
เขารู้สึกเสมอว่า แผนของตนสมบูรณ์แบบแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าหลังจากแก้ไขอีก จะได้แผนงานที่ยอดเยี่ยมแบบนี้
แน่นอนว่าเหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้าไหม?
ไม่ควรประมาทเจ้านายจริง ๆ ดูเหมือนว่า ในอนาคต เขายังต้องทำงานหนักขึ้นอีกด้วย
ไม่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าผู้อำนวยการโรงงานคนนี้ยังจะทำต่อไปได้หรือไม่
เหลยเกาเชากลับไปทำงานด้วยความกระตือรือร้นเต็มเปี่ยมในทันที
วันต่อมา เด็กสาวทั้งสามคนทำงานอยู่ที่โรงงาน พวกเธอยุ่งมาก
แม้จะอยู่ในห้องเดียวกัน แต่ก็ไม่มีเวลาพูดคุยมากนัก
เสี่ยวเถียนสัญญากับคุณย่าซูคำพูดที่ว่าจะดูแลตัวเองให้ดี ก็เหมือนลืมไปโดยสิ้นเชิง
หนึ่งวันนอกจากกินและนอน มีเวลาทำงานหนักอยู่ที่สำนักงานมากกว่าสิบชั่วโมง
ส่วนต่งเยี่ยนอัน ความกระตือรือร้นทั้งหมดทุ่มให้กับการวิจัยสูตรอาหารใหม่ เพื่อนร่วมงานต่างว่ากันว่า เธอมีความคิดมากมายอยู่ในหัว และยังค้นพบวิธีการที่ถูกต้องแล้ว แต่การศึกษาค้นคว้าและผลิตของใหม่ที่ได้รับความนิยมจะต้องใช้เวลาอยู่ดี
ส่วนจ้าวหงเหมยมีรูปแบบแผนส่งเสริมการขายอยู่แล้ว จึงวางแผนว่าจะไปทดสอบน้ำภายในเมืองในอีกสองวัน
หลังจากยุ่งมาทั้งวันเมื่อพวกเธอก็กลับมาถึงหอพัก มีเพียงความคิดเดียวนั่นก็คือ งีบหลับ
แต่ไหนแต่ไรมาพวกเธอแทบไม่มีเวลาและพลังงานที่จะพูดคุยกันเลย
เดิมคนในโรงงานคิดว่าพวกเสี่ยวเถียนมาที่นี่เพื่อความสนุกสนานตลอดช่วงวันหยุด
แต่ใครจะรู้ว่า พวกเขาจะได้เห็นเจ้านายกับเพื่อนทำงานเอาเป็นเอาตายแบบนี้
ไปกว่านั้น หลังจากที่เจ้านายเข้ามา ทั้งผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการคนเหล่านี้ ก็ดูจะทำงานหนักขึ้น
ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงกว่าตนทำงานหนัก แล้วตนเองจะยังอู้งานได้อีกหรือ?
หลายคนในเวลานี้รู้สึกว่า พวกเขาทำได้ไม่ดีพอ จึงต้องทำงานหนักมากขึ้น
ไม่ว่าเมื่อไร พลังของแบบอย่างก็มีไม่สิ้นสุด
มีสามสาวผู้ขยันขันแข็งเป็นแบบอย่าง คนในโรงงานต่างก็จุดประกายด้วยความกระตือรือร้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แม้แต่คุณปู่ยามที่เฝ้าประตูทุกวัน ยังตระเวนรอบ ๆ โรงงานหลายครั้งด้วยความกระตือรือร้น
ทันใดนั้น ปริมาณการผลิตของโรงงานก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เหลยเกาเชาอ่านรายงานข้อมูลการผลิต พลันคิดว่าข้อมูลสถิติผิดพลาด
ก่อนหน้านี้เขาได้คำนวณปริมาณการผลิตไว้แล้ว ยังจะเพิ่มขึ้นได้อีกหรือ?
แต่หลังจากตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่ามีผลผลิตเพิ่มขึ้นจริง ๆ!