เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 104 ลูกชายคุณต่างหากที่มีลูกไม่ได้
บทที่ 104 ลูกชายคุณต่างหากที่มีลูกไม่ได้
ยายหวังร้องไห้คร่ำครวญ ทั้งร้องไห้ทั้งตะโกนใส่ซูหม่านซิ่ว แต่ไม่พูดถึงเรื่องที่เปลี่ยนลูกสะใภ้ใหม่ดังที่หม่านซิ่วเอ่ยถึงเลย
ผู้คนรอบข้างล้วนไม่ใช่คนโง่เขลา ครั้นได้ฟังก็พอเข้าใจอยู่เล็กน้อย
ลูกชายรองเท้าขาดของยายหวังคงแต่งสะใภ้คนอื่นเข้าบ้าน และหม่านซิ่วก็คือผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้ง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เห็นใจยายหวัง แต่มองซูหม่านซิ่วและเฉินจื่ออันอย่างครุ่นคิดแทน
“แม่เฒ่า หย่ากันแล้วก็ไม่ใช่คนของบ้านคุณแล้ว การแต่งงานใหม่อีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร! คุณควรกลับบ้านไปได้แล้ว!” มีคนเอ่ยโน้มน้าวยายหวัง
“หย่าไม่หย่าอะไรกัน ตราบใดที่เหยียบเข้าบ้านตระกูลหวังแล้ว ก็ถือว่าเป็นสะใภ้ของตระกูลหวัง ถึงหลิวเสี่ยวชุ่ยจะเหยียบเข้าบ้านตระกูลหวัง แต่นั่นเป็นเมียน้อย ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับหล่อนเสียหน่อย”
“แม่เฒ่า มันเป็นความผิดของคุณต่างหาก นี่มันยุคใหม่แล้ว ไม่มีเมียนงเมียน้อยอะไรทั้งนั้น ลูกชายคุณแต่งงานกับลูกสะใภ้คนใหม่ทั้งที ชีวิตคนในครอบครัวไม่มีดีบ้างหรือไง?”
“นังผู้หญิงหน้าด้านคนนี้มีชู้แล้วยังทำให้ลูกชายของฉันถูกจับอีก ชีวิตช่างน่าสังเวชยิ่งนัก ลูกสะใภ้หนีไปกับคนอื่น ส่วนลูกชายก็ถูกจับ!”
เมื่อยายหวังพูดเช่นนี้ก็มีบางส่วนมองซูหม่านซิ่วไปในทางที่ไม่ดีแล้ว นี่มันไม่โหดร้ายไปหน่อยหรือ?
“ฉันหย่ากับลูกชายคุณมาสี่เดือนแล้ว หลิวเสี่ยวชุ่ยเองก็ท้องเจ็ดเดือนแล้วใช่ไหม? แม่ม่ายรองเท้าขาดท้องกับลูกชายของคุณ เขาเลยโดนจับต่างหากค่ะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันหรือ?” น้ำเสียงของซูหม่านซิ่วแย่ลงเรื่อย ๆ
เดิมทีก่อนหน้านี้คิดจะรักษาหน้ายายหวังเสียหน่อย แต่ใครจะรู้ว่ายายหวังมันหน้าด้านมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
ในเมื่อหน้าด้านแล้ว จะยังรักษาหน้าไปทำไมกัน?
ตอนนั้นเองที่ทุกคนรู้ว่าเป็นลูกชายของหญิงชราไปแอบคบชู้กับคนอื่นเลยถูกจับ ถ้าเป็นแบบนี้จะหย่าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ตอนที่ฉันยังใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น คุณก็ให้ลูกชายแต่งหลิวเสี่ยวชุ่ยเข้าบ้านมา แล้วยังให้ฉันรับใช้ส่งข้าวส่งน้ำให้มันอีก สิ่งที่พวกคุณทำเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำกันงั้นหรือ? กว่าจะหย่าได้มันไม่ง่าย พอฉันแต่งงานใหม่มีชีวิตที่ดีขึ้นมาหน่อย คุณก็มาสร้างความรำคาญอีก กะจะบีบบังคับให้ฉันตายเลยหรือไง?” ซูหม่านซิ่วร้องไห้อย่างอดไม่ได้พลางสะอึกสะอื้น
“ถ้าไม่อยากให้ฉันสร้างปัญหาก็เอางานของแกมาให้หลานชายคนโตของฉันซะ ไม่งั้นจะมาสร้างปัญหาที่นี่ทุกวันเลย”
ยายหวังวางท่าต่อรอง ยื่นคำขอของตัวเองออกไป
ซูหม่านซิ่วนังตัวน่ารังเกียจ ได้สามีใหม่ไม่พอยังเอาหน้าที่การงานที่ควรเป็นของบ้านเราไปอีก หรือว่าสามีคนใหม่ไม่มีประโยชน์ล่ะ?
เหล่าฝูงชนเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว แม่เฒ่าคนนี้อยากได้งานงั้นสินะ?
ไม่น่าแปลกใจที่เธอมาก่อความวุ่นวายสร้างปัญหาแบบนี้ มาทำลายชื่อเสียงของซูหม่านซิ่วแล้วบังคับให้เจ้าตัวประนีประนอมด้วย!
พิจารณาดูแล้ว หญิงชราคนนี้เหมือนเป็นชาวชนบท งั้นสะใภ้ของเธอก็ควรเป็นคนชนบทเหมือนกันใช่ไหม?
ผู้หญิงจากชนบทคนหนึ่งที่เคยหย่ามาก่อน ทำไมถึงหางานดี ๆ ทำได้ล่ะ?
ดูเหมือนว่าเรื่องของครอบครัวนี้จะไม่ง่ายเลยนะ
ทุกคนต่างขบคิด และไม่รู้จะเชื่อคำพูดของผู้ใดดี
ทันใดนั้นก็มีคนวิ่งปรี่เข้ามาจากด้านนอกด้วยความเร่งรีบ
“ใครเป็นคนสร้างปัญหาที่นี่?” ชายหัวล้านวัยกลางคนย่างสามขุมเข้ามา ทันทีที่พ้นประตูเข้ามา เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ผู้ดูแลครับ แม่สามีคนเก่าของซูหม่านซิ่วมาครับ!” มีเสียงกระซิบบอก
สีหน้าของชายหัวล้านเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินว่าเป็นแม่สามีคนเก่าของซูหม่านซิ่ว
ซูหม่านซิ่วเป็นภรรยาของหัวหน้าเฉิน หากมีเรื่องเกิดขึ้นเขาคงจะอธิบายไม่ได้จริง ๆ
เขากำลังง่วนอยู่กับการตามหาหญิงสาวเป็นการส่วนตัว ในตอนที่มองเห็นซูหม่านซิ่วเวลานั้นเองก็พบว่าเฉินจื่ออันเองก็อยู่ที่นี่
เขารีบก้าวไปข้างหน้าทันทีแล้วโค้งคำนับเฉินจื่ออัน “หัวหน้าเฉิน ผมขอโทษจริง ๆ ครับ เรื่องเล็กน้อยแท้ ๆ แต่ก็รบกวนคุณอีก”
“เรื่องของภรรยาผมมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย! การที่ผมปกป้องภรรยาเป็นสิ่งที่สมควรแล้ว!” เฉินจื่ออันไม่ได้แสดงท่าทีอะไรมากนัก หากแต่น้ำเสียงนั้นหนักแน่น
เรื่องที่คนในโรงอาหารปล่อยให้ยายหวังรังแกซูหม่านซิ่ว อันที่จริงเขามีความคิดหนึ่งอยู่
คนเยอะขนาดนี้เอาแต่ยืนดูสหายหญิงโดนรังแก ไม่คิดจะยื่นมือเข้ามาช่วยเลย…
ดูเหมือนว่าซูหม่านซิ่วจะต้องเปลี่ยนงานเสียแล้ว โรงอาหารแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ดีเท่าไร
“ซูหม่านซิ่ว แกอยากได้หน้าหรืออยากได้งานกันแน่ เลือกมาเลย!” ยายหวังกล่าวอย่างมั่นใจ
เธอไม่เชื่อว่าซูหม่านซิ่วจะหน้าด้านหน้าทน
หวังเหล่าต้าพูดถูก ถ้าซูหม่านซิ่วไม่ยอมส่งงานมาให้ ก็มาสร้างปัญหาที่นี่ทุกวัน
“งานของฉัน หน้าก็ของฉัน อย่าคิดว่าจะเข้ามาแทนที่ได้!” ซูหม่านซิ่วกล่าวอย่างดุดัน
แม้ว่าจะเอาทองไปรู่กระเบื้อง*[1] แต่ก็ไม่มีการประนีประนอมใด ๆ หากให้หญิงชราคนนี้ได้ลิ้มลองผลประโยชน์เสียหน่อยก็ไม่รู้ว่าจะเรียกร้องอะไรที่ไม่มีเหตุผลอีกหรือเปล่า
“ยายหวังหน้าด้าน แกกล้ารังแกลูกสาวของฉัน คิดว่าคนบ้านเราตายกันหมดแล้วหรือไง?” เสียงที่แข็งกร้าวของคุณย่าซูดังขึ้นในทันใด
หลังจากนั้นทุกคนก็เห็นแม่เฒ่าบ้านซูพุ่งเข้าผลักยายหวังลงพื้น ขึ้นคร่อมหล่อนเอาไว้แล้วทุบตี
“คุณพ่อขา คุณย่ามาแล้วหรือคะ?” ซูเสี่ยวเถียนตะโกนอย่างมีความสุข
เป็นความสุขที่คาดไม่ถึงจริง ๆ เพราะเธอเป็นเด็กน้อย และไม่อาจเอาชนะยายหวังได้ เพียงแต่คุณย่ามาปรากฏตัวก็พอแล้ว
แต่ก่อนคุณย่าซูก็มีพละกำลังในการสู้คน ยิ่งตอนนี้ได้กินของดีบำรุงร่างกาย เรี่ยวแรงก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น
“นังคนหน้าด้าน แกกับลูกชายบังคับให้ลูกสาวของฉันโดดน้ำ โชคยังดีที่เธอไม่เป็นไร แต่พวกแกกลับทนรอไม่ไหว เอานังคนหลายใจนั่นแต่งเข้าบ้านแล้วยังกล้าถ่อมาหาลูกสาวของฉันถึงที่อีกหรือ?”
คุณย่าซูทั้งตบทั้งจิก แล้วยังไม่วายสาปส่งเป็นชุด
“นังโสเภณีนั่นมันท้องโย้จนซ่อนไม่มิดแล้ว ฉันเห็นแก่หลานชายของแกเลยให้ลูกสาวหย่า แต่ตอนนี้กลับคิดให้เธอกลับไปเป็นวัวเป็นม้าบ้านแกอีก จะให้เธอกลับไปรับใช้แกหรือ!? ฉันอยากจะถุย ไม่แหกตาหน่อยว่าคู่ควรหรือเปล่า! ลูกสาวของฉันแต่งงานใหม่แล้ว แถมลูกเขยของฉันก็ปฏิบัติต่อเธออย่างดีด้วย แกต่างหากที่สมควรตาย!”
“ตอนแรกฉันตาบอดถึงได้ชอบไอ้หมาหวังที่ไม่ทำอะไรสักอย่าง แต่มันกลับทำร้ายลูกสาวของฉันไปชั่วชีวิตแทน! ฉันจะบอกแกให้นะ ถ้าแกยังกล้ามาทำร้ายลูกของฉันอีก ฉันจะไปพ่นอึใส่หน้าประตูบ้านแก ฉันพูดจริงทำจริงด้วย ไม่เชื่อก็รอดูได้เลย!”
“ยายแก่อย่างแกกล้าลากฉันหรือ คอยดูเถอะ ฉันจะข่วนหน้าแกให้ ลูกสาวของแกมีลูกไม่ได้ คิดจะไม่ให้ลูกชายของฉันสืบสกุลเลยหรือไง? ไม่ว่าหลิวเสี่ยวชุ่ยจะแย่แค่ไหน แต่ก็ดีกว่าลูกสาวของแกที่เป็นแม่ไก่วางไข่ไม่ได้ก็แล้วกัน! ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้มันโง่ขนาดไหนถึงได้มาแต่งงานด้วย!”
สีหน้าของคุณย่าซูเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของยายหวัง!
ซูหม่านซิ่วมีลูกไม่ได้คือความเจ็บปวดของเธอ
“ลูกชายคุณต่างหากที่มีลูกไม่ได้ ไม่รู้ว่าเด็กในท้องของแม่ม่ายนั่นเป็นลูกใครกันแน่ ลูกชายคุณไปใช้ประโยชน์จากบ้านใครกันถึงเอาลูกคนอื่นเขามาใช้ชื่อแซ่ตัวเอง!” จู่ ๆ เฉินจื่ออันก็พูดขึ้น
*[1] เอาทองไปรู่กระเบื้อง หมายถึง โต้ตอบหรือทะเลาะกับคนพาลหรือคนที่มีฐานะตํ่ากว่า เป็นการไม่สมควร