เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 1095 คุณเป็นคนดีหรือเปล่า
บทที่ 1095 คุณเป็นคนดีหรือเปล่า
บทที่ 1095 คุณเป็นคนดีหรือเปล่า
“หนูจ๊ะ… สวัสดีจ้ะ ฉันอยากไปบ้านเลขที่ 36 ที่ซอยฮั่วเป่ยน่ะ ช่วยบอกทางหน่อยได้ไหม?” มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาคว้าแขนเสื้อซูเสี่ยวเถียน แล้วเอ่ยด้วยท่าทางซื่อสัตย์
ซูเสี่ยวเถียนกำลังคุยกับเฉินซิ่วหย่วนอย่างกระตือรือร้น
ตอนที่โดนคว้าแขนเสื้อก็ได้แต่ตกใจก่อนจะดึงมือกลับ
เรียวคิ้วขมวดแน่น แม้ผู้หญิงคนนี้จะดูซื่อสัตย์ แต่จิตใต้สำนึกมันบอกว่าท่าทางและพฤติกรรมขัดแย้งกันมาก!
แววตาฉลาดล้ำลึกผิดกับท่าทางเรียบง่ายที่แสดงออกมา
เห็นเด็กสาวไม่ตอบ ผู้หญิงคนนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วรีบเอ่ย “ฉันแค่อยากให้เธอช่วยนำทางหน่อยน่ะ ไม่มีความคิดอื่นหรอกนะ!”
ซูเสี่ยวเถียนมองไปรอบ ๆ คนผ่านไปผ่านมาตั้งเยอะแยะ แต่คนคนนี้กลับเพ่งเล็งมาที่เธอโดยเฉพาะ
“หนูไม่ใช่คนในพื้นที่ค่ะ ไม่รู้หรอกว่าบ้านเลขที่ 36 ที่ซอยฮั่วเป่ยอยู่ที่ไหนน่ะ!”
ซูเสี่ยวเถียนปฏิเสธตามตรง
ตอนนั้นเองที่มีชายอีกคนเดินเข้ามา “ทำไมใจร้ายจังเลยล่ะ? เราเดินทางเข้าเมืองมาหาญาติด้วยความยากลำบากเลยนะ แค่ให้ช่วยนำทางจะทำไม่ได้เลยหรือ?”
คนรอบตัวมองเด็กสาวด้วยสายตากล่าวหา
แต่มีหรือที่ซูเสี่ยวเถียนจะไม่เข้าใจ
นี่กำลังจะลักพาตัวกันสินะ
ถ้าตนตกหลุมพรางก็โง่มาก
“หนูบอกแล้วนะว่าหนูเป็นคนต่างถิ่น ไม่รู้หรอกว่าบ้านเลขที่ 36 ที่ซอยฮั่วเป่ยอะไรนั่นอยู่ที่ไหน คุณก็เห็นว่าแถวนี้มีคนตั้งเยอะแยะ ทำไมไม่ไปขอความช่วยเหลือจากพวกเขาแทนล่ะคะ?”
ซูเสี่ยวเถียนว่าแล้วมองไปรอบ ๆ
แม้เฉินซิ่วหย่วนจะยังเด็ก แต่เขาก็สามารถบอกได้ว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น
“พี่สาว พวกเราไปกันเถอะ”
เด็กสาวจับมือน้องทันทีก่อนจะเดินไป
ทว่าไปได้สองก้าวก็โดนหยุดเอาไว้
ผู้หญิงคนนั้นโอดครวญ “เธอก็เห็นว่าพวกเราเป็นคนชนบท ท่าทางน่าสงสารขนาดนี้ก็ช่วย ๆ กันหน่อยเถอะ แถวนี้เธอเป็นคนเดียวที่ดูใจดีนะ เป็นคนดีแท้ ๆ แต่กลับช่วยเหลือเราไม่ได้เลย!”
ซูเสี่ยวเถียนยิ้มเย็น “หนูเป็นคนดีค่ะ แต่ไม่รู้ว่าคุณจะเป็นคนดีด้วยหรือเปล่าเนี่ยสิ”
เธอกอดอก ท่วงท่าดูมีพลังเป็นอย่างมาก
ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับสะดุ้ง
แต่ยังคงปาดน้ำตาว่าต่อ “ทำไมเด็กสมัยนี้ไม่รู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่บ้างเลย ไม่คิดสงสารคนจนคนอ่อนแอสักนิด น่าสังเวชคนจน ๆ แบบฉันจริง ๆ ไปถามใครก็ไม่มีใครบอกเอาแต่กล่าวหาว่าฉันเป็นคนไม่ดี…”
หญิงคนนั้นชัดเจนว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรม
และปากเอาแต่ย้ำว่าเป็นคนจนด้วย
สองพี่น้องใส่เสื้อผ้าตัวใหม่ ดูท่าคงไม่ใช่ของราคาถูก
เทียบกับเสื้อผ้าเย็บปะของผู้หญิงคนนี้ ทุกคนเห็นใจคนอ่อนแอกว่าทั้งนั้น
ทุกคนมองทั้งสองไปในทางที่ไม่ดี
ราวกับจะกล่าวหาว่าซูเสี่ยวเถียนไม่มีความปรานีสักนิด
เด็กสาวเข้าใจ เรื่องปกติเลย ฉันเป็นคนอ่อนแอนะ ฉันมีเหตุผลนะ
น่ารำคาญจริง ๆ
แถมเจ้าตัวยังดูเหมือนมีอะไรผิดปกติด้วย
เธอกับผู้ชายคนนี้ต้องอยู่กลุ่มเดียวกันแน่ ๆ
ซูเสี่ยวเถียนเหลือบมองเขา เห็นความตื่นตัวและความฉลาดในแววตาของเขา
สายตาราวกับเห็นลูกแกะรอเชือด
เดาได้ว่าเป็นพวกลักพาตัวแน่ ๆ
ตั้งใจจะจับซิ่วหย่วนหรือเราสองคน?
ผู้หญิงคนนั้นจ้องมองผู้คนรอบตัวอย่างระมัดระวัง เห็นสายตาที่เบนไปทางเด็กน้อยถึงกับลอบมีความสุข
หน้าบาง ๆ แบบนั้นทนรักษาไว้ไม่ได้หรอก สุดท้ายก็ต้องทำตามความปรารถนาพาตนไปจุดหมายจนได้
ซอยฮั่วเป่ยอยู่ไกลมาก ไปกับเด็กสองคนจะไม่สะดวกได้ยังไงละ
ทีแรกก็ไม่อยากเสี่ยงหรอก
แต่สินค้าที่เห็นในวันนี้คุณภาพสูงมาก
ถ้าได้มาจะทำเงินได้แน่
“สาวน้อย ช่วยนำทางหน่อยได้ไหม ใช้เวลาไม่นานหรอก” หญิงอ้วนข้างกายเอ่ยเกลี้ยกล่อมซูเสี่ยวเถียน “ฉันว่าเขาน่าสงสารอยู่นะ”
เสื้อผ้าที่ใส่บางมาก ร่างกายสั่นท่ามกลางลมหนาว ใบหน้ายังแดงเพราะอากาศ
“คุณป้าเป็นคนในพื้นที่หรือเปล่าคะ?” เธอรู้ว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงปล่อยให้คนอื่นคิดเอง
ด้วยการถามคนนี้แถมเจ้าพวกคนเลวไงละ
หญิงอ้วนไม่เข้าใจเท่าไร แต่พยักหน้าตอบ “ฉันเป็นคนในพื้นที่จ้ะ!”
“งั้นป้าน่าจะรู้ใช่ไหมคะว่าบ้านเลขที่ 36 ที่ซอยฮั่วเป่ยอยู่ที่ไหนน่ะ?”
เธอไม่คุ้นเคยเท่าไร แต่พอจำได้ว่ามันเป็นยังไง
“ฉันรู้จักซอยฮั่วเป่ยอยู่แล้ว…” ตอนนั้นเองที่เจ้าตัวหยุดพูดแล้วจ้องมองผู้หญิงคนนั้นด้วยความตกใจ
ซอยนั้นมีบ้านอยู่แค่ยี่สิบกว่าหลังเท่านั้น หลังสุดท้ายคือบ้านหมายเลขที่ 21
ไม่มีบ้านหมายเลข 36 หรอกนะ
บทสนทนานี้ทำให้คนรอบตัวตระหนักได้
สองคนเลวก็ไม่คิดว่าจะโดนเผยไต๋เช่นกัน
วันนี้อุตส่าห์ได้เจอสินค้าคุณภาพสูง จึงหน้ามืดตามัวอยากจะเอาไปให้ได้
แล้วทำไมเด็กคนนี้กลับไม่โดนหลอกล่ะ?
สองคนนี้เป็นกลุ่มลักพาตัวจริง ๆ ไม่ใช่คนในพื้นที่ รู้แค่ว่ามีซอยฮั่วเป่ยแต่ไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่นั่นเป็นมายังไง
ดูเหมือนว่าซอยนั้นจะไม่มีหมายเลขบ้านที่เราบอก
“อาเขย คนคนนี้ดูแปลกชอบกลค่ะ ส่งตัวไปสถานีตำรวจได้ไหมคะ?”
ซูเสี่ยวเถียนเฝ้ามองผู้เป็นอาอยู่ และเฉินจื่ออันก็ได้สติตอนเห็นความเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้
“ฉันมาจากซอยฮั่วเป่ย แต่ไม่เคยได้ยินบ้านเลขที่ 36 มาก่อนเลย คนคนนี้โกหก!”
สิ้นประโยคก็มีคนตะโกนลั่น
เฉินจื่ออันรู้จักที่นี่ดี ตอนทำงานอยู่ในอำเภอได้เดินทางไปมาหลายที่แล้ว
และรู้ด้วยว่าฮั่วเป่ยเป็นซอยเล็ก ๆ ไม่มีบ้านเลขที่ 36 หรอกนะ
ผู้หญิงคนนี้มีอะไรผิดปกติ
อีกฝ่ายเริ่มตื่นตระหนก
คิดวิ่งหนีแต่คนล้อมเต็มไปหมด
ส่วนผู้ชายเห็นสถานการณ์ไม่ดีจึงวิ่งหนีทันที
ทีแรกคิดว่าจะรอดแต่ไม่นึกว่าซูเสี่ยวเถียนจะตามมาด้วย
เฉินซิ่วหย่วนยืนอยู่ที่นั่น มองภาพพี่สาววิ่งไล่ตามคนเลวอย่างว่องไว เขาเอาแต่ปรบมือไม่หยุด
“พี่สาวสู้ ๆ พี่สาวเก่งจังเลย”
เด็กน้อยเคยคิดว่าพ่อของเขาแข็งแกร่งมาก แต่ไม่นึกเลยว่าพี่สาวจะแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่า
ผู้หญิงคนนั้นเห็นคนในกลุ่มโดนไล่ตามจึงรีบไล่ไปด้วย
แต่โดนเฉินจื่ออันจับไว้
จากนั้นก็ถูกส่งให้ซูหม่านซิ่วข้าง ๆ แทน
“หม่านซิ่วจับเอาไว้!”
ตอนนั้นกำลังจะตะโกนว่าโดนลวนลาม แต่เหมือนจะทำไม่ได้อีกแล้ว
ตนไม่ยินดีถูกกระทำเช่นนี้
“พระเจ้า โลกใบนี้ยังมีความยุติธรรมอยู่บ้างไหม? คนจนต้องโดนข่มเหงใช่ไหม? อุตส่าห์ถามดี ๆ จะไม่ตอบก็ได้ ไหงมารังแกกันแบบนี้? มีหนทางให้คนจน ๆ แบบเราบ้างไหม!”