เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 1113 อายุน้อยกว่าฉันไหม
บทที่ 1113 อายุน้อยกว่าฉันไหม?
บทที่ 1113 อายุน้อยกว่าฉันไหม?
ความเป็นไปได้อย่างเดียวคือสามีเอาไปผลาญจนหมด
‘เรื่องผิดกฎหมาย’ สี่คำที่ว่าเข้าหูคนรอบข้าง
ถ้าไม่ได้ทำก็นึกไม่ออกแล้วจริง ๆ ว่าเอาเงินไปไว้ไหนหมด
สองปีมานี้ลี่เฉิงพัฒนาไปไวมาก แต่ก็มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอยู่เช่นกัน
ชายหนุ่มหญิงสาวหลายคนเริ่มเมินเฉยครอบครัวตนเอง!
ใบหน้าคนเป็นภรรยาซีดเผือด
เธอตระหนักอะไรได้แน่ ๆ
ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ต่อให้เชื่อใจสามีมาก แต่ถ้ามีคนมาเตือนเรื่องผิดแปลกบางอย่างย่อมนึกได้อยู่แล้ว
“เป็นไม่ได้ เขาบอกว่าเขาได้เงินเดือนแค่สี่สิบแปดหยวนเองนะ” ภรรยาพึมพำ
เจ้าตัวสงสัยคำพูดของซูเสี่ยวเถียน
สีหน้าหญิงชราตื่นตระหนกโดยเฉพาะหลังจากได้ยินสิ่งที่ลูกสะใภ้กล่าว
“นังคนไม่ได้ความ แกเชื่อคนอื่นมากกว่าผัวตัวเองหรือ?”
อีกฝ่ายดูจะตวาดใส่สะใภ้บ่อยจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว
ฝ่ายลูกสะใภ้ไม่กล้าปฏิเสธ จึงทำได้แต่หน้าซีดพึมพำราวกับคนโง่
“แล้วแกพูดบ้าบออะไร ลูกชายฉันจะไปทำเรื่องผิดกฎหมายได้ยังไงกัน? แกบอกสองร้อยก็ต้องเป็นสองร้อยหรือ? ใคร ๆ ก็รู้ว่าไอ้พวกนายทุนมันก็ใจดำอำมหิตทั้งนั้น เผลอ ๆ อาจจะโดนแกหลอกใช้งานก็ได้!”
ซูเสี่ยวเถียนยิ้มไม่ถึงดวงตา ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรับมือยากแบบนี้
แถมน่าจะเป็นคนที่ใจร้ายกับลูกสะใภ้และหลานสาวมากแน่ ๆ ดูความหวาดกลัวในแววตาพวกเขาสิ เพียงเห็นแวบเดียวก็รู้เลยว่าชีวิตเป็นยังไง
สีหน้าท่าทางของหญิงชราล้วนแสดงความรู้สึกออกมาหมดเลย
ภรรยาเซี่ยงอิงน่าสงสารไม่น้อย สามีทำตัวไม่น่าเชื่อถือ ส่วนแม่สามีก็ไม่ใช่คนจิตใจดี!
ไม่รู้อยู่กันยังไง
แล้วดูเด็กสองคนนั้น พ่อของพวกเขาคงไม่ได้รักแม่แล้วสินะ
เธอทอดถอนใจไม่คิดพูดต่อ แล้วรอชมการแสดงเบื้องหน้าต่อไป
“ถือว่าฉันขอละ ลูกชายฉันยังเด็ก รู้เท่าไม่ถึงการณ์เลยทำให้เธอขุ่นเคืองใจ ยกโทษให้เขาสักครั้งเถอะ!”
หญิงชราคงตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง จึงรีบทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตนและขอร้อง
เด็กสาวถอนหายใจ ที่แท้ก็พวกนักแสดงรุ่นอาวุโส
ไม่รู้แสดงมากี่เรื่องถึงได้เก่งขนาดนี้!
หญิงชราท่าทางน่าสงสารซับน้ำตา
“ชีวิตฉันน่าสมเพชเหลือเกิน ลูกชายทำงานตรากตรำยังไม่ทันได้มีความสุขก็โดนจับเข้าคุก ทำไมชีวิตขมขื่นเช่นนี้นะ?”
“ลูกชายฉันก็น่าสงสารเหลือเกิน ลูกหลานสืบทอดไม่มี หาเมียได้ก็เป็นไอ้พวกไม่ได้เรื่อง คลอดลูกมาก็มีแต่พวกเลี้ยงเสียข้าวสุก! ลูกชายฉันน่าสงสารเหลือเกิน!”
“ทำไมคนรวยในโลกถึงได้ใจร้ายแบบนี้? บีบบังคับคนจน ๆ ให้เราจนตาย ไม่ให้หนทางใช้ชีวิตกับเราเลย!”
หญิงชราปิดหน้าร้องไห้ แสดงความน่าสงสารหวังความเห็นใจ
เธอคิดดีแล้วว่าวันนี้ต้องให้คนรอบข้างช่วยพูดจนกว่านังคนนี้จะปล่อยลูกชายตนไป
ซูเสี่ยวเถียนจ้องอีกฝ่ายอยู่ตลอด เห็นสายตาอีกฝ่ายขยิบให้ลูกสะใภ้ด้วย
ราวกับต้องการให้ช่วยร้องไห้อ้อนวอนอีกแรง!
แต่เพราะฝ่ายนั้นตกอยู่ในโลกของตัวเองจึงไม่ทันเห็น
“นังหนู คนหนุ่มสาวทำเรื่องผิดพลาดบ่อยจะตาย ยกโทษและปล่อยเขาไปเถอะ ฉันก้มหัวให้เธอเลยนะ!”
หญิงชราเอ่ยอยู่นานแต่ไม่มีใครให้การสนับสนุนเลย จึงคุกเข่าเตรียมก้มหัวให้
แต่ซูเสี่ยวเถียนคือใครล่ะ? แรงแค่นี้เอง จึงรีบจับแขนอีกฝ่ายไว้แน่น!
“ลูกชายคุณเป็นพ่อลูกสองแล้วนะ สภาพนั้นยังบอกว่าเด็กได้อีกหรือ? อายุน้อยกว่าฉันไหม? อีกอย่างลูกคุณทำความผิดนะ ไม่ใช่เพราะทำให้ฉันโมโห แต่ทำในสิ่งที่ไม่สมควรต่างหาก”
“แต่เธอก็มีเงินไม่ใช่หรือไง!”
“ต่อให้ฉันมีหรือไม่มีก็ไม่สมควรทำอยู่ดีค่ะ เห็นธนาคารไหม เขามีเงินตั้งมากมายไม่ไปขโมยมันมาล่ะ?”
เธอจ้องอีกฝ่าย
เด็กสาวมีลางสังหรณ์ว่าฝ่ายลูกสะใภ้คงไม่รู้เรื่องราว สาเหตุน่าจะมาจากตัวแม่มากกว่า
อย่างที่คิด หญิงชราหน้าถอดสีทันที ท่าทางเหมือนปิดบังอะไรอยู่
“ถ้าไม่อยากให้ลูกติดคุกก็บอกมาว่าเงินอยู่ไหน และบอกเขาให้เอามาคืนด้วย คุณน่าจะรู้นะว่ายักยอกเงินแปดพันหยวนติดคุกกี่ปี! เผลอ ๆ คงชั่วชีวิตเลยด้วยซ้ำ!”
ปกติใครพูดแบบนี้คงจะกลัวหัวหด ยิ่งยุคสมัยนี้แล้วด้วยลำบากแน่
หญิงชราว้าวุ่นใจ
“อย่ามาทำให้คนเขากลัวนะ มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง?”
แต่น้ำเสียงกลับไร้ความมั่นใจ รู้เลยว่าเชื่อคำพูดเด็กสาว
ซูเสี่ยวเถียนยิ้มบางโดยไม่พูดอะไร
อยากรู้ว่าจะทำอะไรได้อีก
คนรอบข้างมองออกแล้ว
“พี่สาว ทำไมไม่แนะนำให้ลูกชายเอาเงินไปคืนเขาล่ะ?
“ใช่ ๆ สองร้อยหยวนต่อเดือนมันไม่พอใช้หรือ? เลยต้องไปยักยอกมาน่ะ!”
“วิญญูชนต้องการเงินทอง ก็ต้องได้มาด้วยวิธีที่ถูกต้องนะ เงินตัวเองก็ไม่ใช่ ทำใจใช้ได้ด้วยหรือ?”
“สาวน้อยพูดถูกทุกอย่าง เงินเดือนขนาดนี้ก็ต้องพอสิ”
“ฉันยังเกือบคิดลาออกเลยนะ เงินเดือนร้อยหยวนถือว่าดีเลยนะ ทำไมจะไม่สนใจกัน?”
…
คนรอบข้างวิพากษ์วิจารณ์ไปเรื่อย ส่วนมากล้วนพยายามเกลี้ยกล่อม
เงินหาได้อยู่แล้ว
แปดพันฟังดูเหมือนเยอะ แต่สิ่งที่พวกเขาพูดก็ไม่ได้เกินจริงเลย สองปีมานี้หลายล้านครัวเรือนมีเงินเป็นหมื่นกันทั้งนั้นไม่ใช่หรือ?
หญิงชราวิตกจริตกว่าเก่า
“พูดจาไร้สาระ มันพูดจาไร้สาระ!”
ตอนนั้นเองที่มีตำรวจสองนายเดินเข้ามา
หลังจากถามข่าวคราว พวกเขาก็เตรียมพาไปสถานี
ซูเสี่ยวเถียนเห็นอาใหญ่กลับมาแล้ว ท่านน่าจะไปตามมาเองแน่
“ฉันไม่ไป ฉันไม่ได้ทำผิดกฎหมายสักหน่อย ทำไมต้องให้ฉันไปด้วย?”
หญิงชราแสดงท่าทางทันที
“เจ้าหน้าที่รัฐสมรู้ร่วมคิดกับพวกนายทุนสินะ มันให้เงินพวกคุณเท่าไรถึงได้ปกป้องมันแบบนั้น”
ขณะที่หญิงชรากำลังโวยวาย ฝ่ายลูกสะใภ้ก็เอ่ยขึ้น