เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 1114 เรื่องที่ปิดบังเอาไว้
บทที่ 1114 เรื่องที่ปิดบังเอาไว้
บทที่ 1114 เรื่องที่ปิดบังเอาไว้
“งั้นไปแจ้งความที่สถานีตำรวจกันเถอะ!”
หญิงวัยกลางคนเอ่ยด้วยความไม่เต็มใจ ทำให้แม่สามีใจร่วงไปถึงตาตุ่ม
เพราะไม่ได้คาดหวังว่าลูกสะใภ้จะมาตกม้าตายแบบนี้
“นังสารเลว แกโง่ไปแล้วหรือ? คนดี ๆ ที่ไหนเขาจะไปสถานีตำรวจกัน?”
หญิงชราจ้องเขม็ง
ถ้าสายตาฆ่าคนได้ป่านนี้ลูกสะใภ้คงตัวเป็นพรุนแล้ว
ฝ่ายลูกสะใภ้เหมือนเก็บกดมานาน
“แม่ เราทนมองให้พ่อจาวตี้ได้รับความอยุติธรรมไม่ได้หรือเปล่าคะ? ฉันไม่เชื่อหรอก!”
ซูเสี่ยวเถียนมองด้วยความประหลาดใจ
ภาพลักษณ์ก่อนหน้านั้นหายไปแล้ว
เหมือนว่าเจ้าตัวจะคิดอะไรได้ บรรยากาศจึงเปลี่ยนไปทันที
ด้วยคำพูดของเธอทำให้คนฟังรู้สึกว่าต้องไม่ใช่คนโง่แน่ ๆ
ซูเสี่ยวเถียนคิดว่าอีกฝ่ายเชื่อตน
แต่พูดอ้างแบบนั้นไปอย่างนั้นเอง
เด็กสาวจ้องมองลูกสะใภ้ผู้มีท่าทางเหมือนฟื้นคืนชีพขึ้นจากเถ้าถ่าน!
“แกคิดจะทำไร? ก่อกบฏหรือไง? พอผัวแกเข้าคุกแล้วแกก็จะไม่ฟังคำสั่งฉันใช่ไหม?”
หญิงชราไม่อยากให้ลูกสะใภ้ไปจึงเริ่มสร้างเรื่อง
ซูเสี่ยวเถียนหัวเราะ เพราะอาใหญ่ของเราไปตามมาให้แล้ว
ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อผู้หญิงคนนี้ จะเสียใจเองหรือเปล่านะ?
“คุณตำรวจคะ แม่เฒ่าคนนี้เขามาสร้างปัญหาให้หนูค่ะ แถมจะข่มขู่หนูด้วย”
ซูเสี่ยวเถียนเป็นเด็กอยู่แล้ว จึงทำตัวให้เป็นเหยื่อผู้น่าสงสาร ซึ่งน่ารำคาญมาก
ท่าทางต่างไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
สองตำรวจเห็นแล้ว
แต่ในเมื่อไม่ได้มีเรื่องเสียหายร้ายแรงเกิดขึ้น และถ้าพวกเราลงมือทำอะไร หญิงชราคงค้านหัวชนฝา
วันนี้สาวน้อยคงไม่ได้รับความยุติธรรมแน่ ๆ
ทั้งสองมองเด็กสาวด้วยสายตาขอโทษ
“แม่เฒ่า ฉันจะแจ้งความที่ลูกชายคุณเอาเงินฉันไป ถ้าเขาทำผิดจริง แม่เฒ่าก็รอรับผลที่ตามมาได้เลย!”
“ถ้าไม่ยอมคืนเงินฉันจะจับเข้าคุก! ชาตินี้ทั้งชาติไม่ได้เจอกันอีกแน่!”
หญิงชราโกรธจนตัวสั่น
ความผิดของแกชัด ๆ!
มันเป็นเพราะซูเสี่ยวเถียนนั่นแหละ
ไหนว่ามีเงินทองมากมายไม่ใช่หรือไง?
เอามาแค่นิด ๆ หน่อย ๆ ขนหน้าแข้งจะร่วงหรือ?
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ถ้าจัดการมันได้แล้วบอกให้มันปล่อยลูกชายเธอไปเสียเรื่องก็จบ
คิดได้เช่นนั้นก็พุ่งเข้าไปหาพร้อมกรงเล็บ
ยังไงก็เป็นแค่ยายแก่ ๆ คนหนึ่ง ด้วยความสามารถของซูเสี่ยวเถียนแล้วไม่คณามือหรอก
แต่ต้องการทำให้โกรธเฉย ๆ
ซูเสี่ยวเถียนยิ้มอย่างมีชัย ทันทีที่อีกฝ่ายพุ่งเข้ามาเด็กสาวก็ทำทีล้มลงกับพื้น แล้วกลิ้งตลบไปข้าง ๆ
เลยทำให้หญิงชราไม่เสียเวลาเยอะ
ซึ่งเจ้าตัวไม่รู้ว่าซูเสี่ยวเถียนจงใจทำ เลยยิ่งรู้สึกผยองมากขึ้น
ลืมว่ามีตำรวจอยู่ด้วยซ้ำ
“ฉันจะฉีกปากแกให้เป็นชิ้น ๆ เลยเด็กเปรต โทษฐานที่แกด่าลูกฉัน นังสารเลว!”
ทุกคนตกใจมาก
ซูหม่านซิ่วไม่คิดว่าจู่ ๆ หลานนึกอ่อนแอขึ้นมา
แต่สักพักก็คิดออก
เจ้าตัวตั้งใจ
ถ้าไม่ทำอย่างนั้นตนก็คงพุ่งเข้าไปตบเหมือนกัน
ยัยเด็กคนนี้อาจหาญเหลือเกินนะ!
ฝ่ายตำรวจเห็นแล้วจะสบายใจได้ยังไง?
เธอทำผิดร้ายแรง!
สุดท้ายหญิงชราก็ถูกนำตัวส่งสถานีตำรวจ
ต่อให้เสียใจก็สายเกินไป จึงเอาแต่คร่ำครวญไม่เลิก
ซูเสี่ยวเถียนเป็นแค่เหยื่อ หลังบันทึกประจำวันไว้ก็ออกจากสถานีได้
ระหว่างนั้นได้ขอโทรศัพท์ก่อนด้วย
ฝั่งซูหม่านซิ่วที่อุ้มลูกชายมายืนรอด้วยความเป็นห่วง
พอเห็นหลานสาวออกมา ตนก็รีบเข้าไปหา มองสำรวจกลัวจะได้รับบาดเจ็บ
หลานมาลี่เฉิงในสภาพดี ๆ กลับไปบาดเจ็บขึ้นมาแล้วจะอธิบายให้ที่บ้านฟังยังไง
“เสี่ยวเถียน ไม่เป็นไรใช่ไหม? ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ได้ล่ะ!”
“หนูไม่เป็นไรค่ะ อาใหญ่ไม่ต้องห่วง” ซูเสี่ยวเถียนดูสงบมาก
“ยัยเด็กคนนี้ ตอนอาเห็นหนูล้มใจแทบร่วงเกือบพุ่งเข้าไปแล้ว”
ไม่บอกกันสักหน่อยเล่า ตกใจแทบตาย!
ซูเสี่ยวเถียนหัวเราะคิกคัก “หนูเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นต้องรู้อะไรแน่ ๆ เลยบอกข้อสันนิษฐานให้ตำรวจและโทรหาอวี๋กวางฮุยมาด้วยค่ะ”
แต่ก็ยังรู้สึกหนักใจอยู่ไม่น้อย
เพราะเรื่องนี้ต้องมีอะไรลับลมคมในแน่ ๆ
โรงงานที่คิดว่าดำเนินกิจการไปได้ด้วยดีกลับเกิดปัญหา นี่ถ้าไม่มาเองคงจะยิ่งกว่านี้อีก
เรื่องที่เซี่ยงอิงทุจริตก็ไม่ค่อยใหญ่มากนักหรอก แต่ที่ทำให้สงสัยมากกว่าคือเงินตรงนั้นเขาเอาไปไว้ไหน
แม่ลูกคู่นี้ก็ต้องแน่ ๆ
แต่พวกเขารับมือยากจริง ๆ ทั้งยังไม่ยอมบอกอะไรสักอย่าง
ส่วนภรรยาเซี่ยงอิงกลับไม่รู้อะไรด้วยซ้ำ ไม่รู้แม้กระทั่งเงินเดือนจริง ๆ ของสามี!
เหตุการณ์ในวันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุด
ถ้าใช้มันให้เกิดประโยชน์ อาจเจอกุญแจสำคัญก็ได้
“อาใหญ่ เดี๋ยวหนูกลับไปโรงงานนะคะ มีเรื่องต้องไปถามหาด้วยตัวเองน่ะ!”
ไม่มีอารมณ์ให้เดินซื้อของแล้วละ
—————————————————————–