เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ - บทที่ 1135 เชื่อว่าสิ่งที่พวกเขาจัดเตรียมไว้ให้ดีที่สุดแล้ว
- Home
- เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ
- บทที่ 1135 เชื่อว่าสิ่งที่พวกเขาจัดเตรียมไว้ให้ดีที่สุดแล้ว
บทที่ 1135 เชื่อว่าสิ่งที่พวกเขาจัดเตรียมไว้ให้ดีที่สุดแล้ว
บทที่ 1135 เชื่อว่าสิ่งที่พวกเขาจัดเตรียมไว้ให้ดีที่สุดแล้ว
“แบบนี้แล้วกันครับรัฐมนตรีฉาง ไว้จะกลับไปหารือกับผู้นำท่านอื่น ๆ ก่อนแล้วจะให้คำตอบนะครับ ท่านเห็นด้วยหรือเปล่า?”
อธิบดีตู้ไม่ได้ยื่นคำขาดแต่ใช้ข้อเสนอ
จากตารางของรัฐมนตรีฉางไม่มีพบแขกต่างชาติในเช้าวันพรุ่งนี้
มีเวลาพอให้เขาเข้าใจสถานการณ์
รัฐมนตรีฉางรู้ว่ามันยาก
เขาเองก็ไม่มีเจตนาให้อีกฝ่ายเห็นด้วยเสียทีเดียว ขอแค่อีกฝ่ายเข้าใจสถานการณ์ ตนเชื่อว่าจะต้องมีคนมาทำหน้าที่แทนแน่
จึงตอบตกลงตามคำขอของอธิบดีตู้
หลังจากวางสาย อธิบดีตู้ก็รู้สึกปวดหัวตุบ
การมาเยี่ยมเยือนของคณะผู้แทนประเทศ Y ในครั้งนี้มีความสำคัญมากต่อหน่วยงานระดับสูง หากการเจรจาโครงการดำเนินไปได้จะต้องเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจแน่นอน
แล้วทำไมฝั่งกระทรวงพาณิชย์ถึงขอเปลี่ยนตัวล่ามกะทันหัน?
รัฐมนตรีฉางไม่ใช่คนจู้จี้จุกจิก จะต้องเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แน่ ๆ
นึกได้เช่นนั้นอธิบดีตู้ก็รีบต่อสายทันที
ต้องทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน จึงจะตัดสินใจให้ได้
หลังจากคุยไม่เท่าไรก็พอเข้าใจเรื่องราวแล้ว
แม้ทุกคนจะพูดคลุมเครือ แต่จากข้อมูลที่รวบรวมได้ทำให้ได้รู้ว่าซ่งหงปิงทำหน้าที่ในวันนี้ไม่ได้ดี
แต่การทำพลาดในช่วงเวลาสำคัญจะส่งผลเสียต่อกระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อคิดได้แบบนั้น เขาก็รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม
ไม่แปลกใจที่รัฐมนตรีฉางจะเอ่ยขอเองตรง ๆ แล้วคนคนนั้นก็คือเด็กที่เพิ่งมาฝึกงาน
ที่แท้ก็เก่งไม่จริง!
งานแปลในค่ำคืนนี้ไม่ได้มีศัพท์ทางวิชาชีพมากนัก แต่เขาก็ยังทำพลาด
และซูเสี่ยวเถียนทำให้ประหลาดใจมาก ทำดีกว่าที่คาดไว้เยอะเลย
ดูเหมือนรัฐมนตรีฉางจะรู้เรื่องเด็กคนนั้นมากกว่าตัวเขานะ!
หลังจากแน่ใจว่าเธอเก่งจริง ๆ จึงตัดสินใจเปลี่ยนงานให้ทันที
เช้าวันรุ่งขึ้น หน้าที่หลักของกระทรวงการต่างประเทศคือแปลเอกสาร
หลายคนกำลังง่วนกับการทำงานในส่วนของตัวเอง
หลังจากนั้นก็จะนำฉบับแปลไปใช้ในการประชุมช่วงบ่าย เวลากระชั้นชิดมาก
ปกติเวลาทำงานแปลซูเสี่ยวเถียนจะชะลอความเร็วลง
แต่เนื่องด้วยภาระงานที่ค่อนข้างมาก เธอจึงเปิดเครื่องเต็มสูบแล้วตั้งใจทำงานอย่างจริงจัง
ความเร็วของเธอมากกว่าคนอื่นถึงสองเท่า หรือมากกว่านั้นด้วยซ้ำ
เธอทำในส่วนของตัวเองและตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดปัญหาถึงค่อยโล่งใจ
ตอนนั้นเองที่ซ่งหงปิงก็โผล่มาที่โต๊ะ
“เสี่ยวซู เธอแปลในส่วนของเธอเสร็จแล้วหรือ? ฝั่งฉันรับมือไม่ไหวแต่แปลไปได้ครึ่งแล้วละ เธอช่วยแปลส่วนที่เหลือได้ไหม?”
ตัวคนขอไม่ได้รู้สึกผิดเลย กลับทำให้คนฝ่ายโดนขอร้องรู้สึกโดนคาดหวังด้วยซ้ำ
ซูเสี่ยวเถียนไม่พอใจเมื่อได้ยินน้ำเสียงนั่น แต่เพื่อให้งานมันเสร็จ ๆ เลยรับมา
ซ่งหงปิงมองเด็กตรงหน้าที่ง่วนกับการทำงานแล้วหยิบแก้วชาขึ้นจิบอย่างสบาย ๆ
ฟู่กั๋วหยางที่อยู่ตรงประตูเห็นภาพนั้นทั้งหมด
เขามองซ่งหงปิงด้วยสายตาอย่างมีนัยโดยไม่พูดอะไรแล้วหมุนตัวจากไป
แต่ภายในใจมีความคิดต่ออีกฝ่ายเพิ่มมากขึ้น
เมื่อคืนเขาได้รับสายจากอธิบดีตู้ เขารู้อยู่แล้วว่าซ่งหงปิงทำให้เบื้องบนไม่พอใจ
แต่ถ้าระวังนับจากนี้ อาจพลิกสถานการณ์ไว้ก็ได้
ดูจากท่าทางอีกฝ่ายในตอนนี้ บอกได้เลยว่าเขาไม่มีวันแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองแล้วละ
แถมรังแต่จะแย่ขึ้นเรื่อย ๆ
ช่างเถอะ เราไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้ตลอดอยู่แล้ว ปลดเขาออกเสียก็ดี
ตอนนั้นเองที่บังเอิญเจอฟ่านชูฟางพอดี
“อธิบดีฟ่าน เช้านี้งานไม่ยุ่งหรือครับ?” ฟู่กั๋วหยางยกยิ้มถาม “ถ้าอย่างนั้นเข้าไปดื่มชากับผมสักแก้วไหม?”
“ดีเลยค่ะ ฉันยุ่งมาตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่ได้จิบน้ำเลย” หญิงชราตั้งใจมาพบอีกฝ่ายโดยเฉพาะ จึงตอบตกลงทันที
เมื่อเข้ามาในห้องทำงาน ฟู่กั๋วหยางก็รินชาให้ แล้วเริ่มคุยปัญหาในงานครั้งนี้
หลังจากผ่านไปสักพัก ฟ่านชูฟางก็เอ่ยขึ้น “คุณฟู่ เมื่อเช้าอธิบดีตู้มาถามฉันด้วยค่ะว่าอยากเปลี่ยนของซูเสี่ยวเถียนกับซ่งหงปิงหรือเปล่า?”
แม้เมื่อคืนอธิบดีตู้จะโทรศัพท์หาหลายคน แต่เขาไม่ได้ติดต่อฟ่านชูฟาง
เมื่อเช้าหญิงชราทราบเรื่องก็ตกใจไม่น้อย
ด้วยความสามารถของซ่งหงปิงควรได้รับการยอมรับสิ เพิ่งจะผ่านไปคืนเดียวก็โดนคนอื่นมาแทนที่แล้วหรือ?
ถ้าเธอกับสามีไม่ได้อยู่ด้วยกันเมื่อคืนก็นึกอยู่ว่าเขาจะไปทำอะไรตามอำเภอใจหรือเปล่าด้วยซ้ำ
ฟู่กั๋วหยางถอนหายใจ “เปลี่ยนก็ดีแล้ว สองวันนี้เสี่ยวซ่งไม่ได้เรื่องเลย”
ฟ่านชูฟางแปลกใจที่อีกฝ่ายว่ากันตรง ๆ
ซ่งหงปิงไม่ใช่ลูกศิษย์ของคุณฟู่ แต่ก็ได้เขาคอยฝึกฝนให้ตั้งแต่มาทำงานที่นั่น เพราะอย่างนั้นความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จึงเน้นแฟ้นกว่าใคร ๆ
แล้วคุณฟู่จะไม่รู้เชียวหรือว่าการโดนเปลี่ยนตัวกะทันหันแบบนี้หมายความว่ายังไง?
“ผมแก่แล้วก็จริงแต่ก็ไม่ได้สายตาพร่ามัว รู้ว่าการตัดสินใจแบบไหนดีที่สุดสำหรับตัวผม เสี่ยวซ่งต้องชนกำแพงสักรอบถึงจะได้สติ”
เมื่อวานคอยช่วยตั้งหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายยังคงรั้น
เมื่อเช้ายังเอางานของตัวเองให้ซูเสี่ยวเถียนอีก
ถ้าปล่อยให้เด็กคนนั้นทำอาจจะดีกว่านี้ก็ได้
ฟ่านชูฟางยังคงมีสีหน้าตกตะลึง
“คุณก็ไม่เชื่อความสามารถของเธอหรือครับ?”
พอโดนถามแบบนั้นหญิงชราพลันโบกมือ “ฉันจะไม่เชื่อได้ยังไงกันคะ? แค่ว่า…”
“ฟังที่ผู้นำเขาว่าไว้ก็พอ! ผมเชื่อว่าการจัดเตรียมของพวกเขาดีที่สุดแล้วครับ”
เพราะพูดออกมาอย่างชัดเจน หัวใจของฟ่านชูฟางจึงร่วงไปถึงตาตุ่ม
“งั้นหรือคะ เป็นแบบนั้นเองสินะ!” เธอหยุดดื่มชา ก่อนจะออกจากห้องไป
มองแก้วชาที่จิบไปเพียงสองครั้ง ฟู่กั๋วหยางได้แต่ยิ้มขมขื่น “น่าเสียดายจัง ผมเองก็มีใบชาดี ๆ อยู่ ถ้ารู้เร็วกว่านี้…”
——————————————